Disable Preloader




ทริป 8 วัน ตะลุยหิมะ สะใจในญี่ปุ่น : ตอนที่ 2 - เที่ยวสวนสวยท่ามกลางหิมะโปรยปรายในเมืองคานาซาวะ (Kanazawa)

เช้าวันที่สองของการเดินทางหลังจากเช็คเอ๊าท์ออกจากโรงแรมที่อยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟเกียวโต (Kyoto Station) 京都駅, Kyōto-eki เพื่อนั่งรถไฟไปยังเมืองคานาซาวะ (Kanazawa) 金沢市 ซึ่งเลือกแบบไม่มีอาหารเช้า เพราะเรากะไปซื้อข้าวกล่อง เพื่อนั่งหม่ำกันบนรถไฟ และเป็นวันแรกที่เราเปิดใช้ Takayama-Hokuriku Area Tourist Pass (ซึ่งใช้เดินทางแบบ 5 วัน ต่อเนื่องกัน) และในตอนเช้าดูข่าวในทีวี ได้ข่าวว่าเมื่อคืนหิมะตกหนักที่จังหวัดฟูคุอิ (FuKui) ซึ่งเป็นเมืองที่เราต้องนั่งรถไฟผ่านก่อนถึงเมือง Kanazawa พอผ่านเข้าเขตเมือง Fukui เราก็ได้เห็นหิมะขาวโพลนตลอดสองข้างทาง สร้างความตื่นเต้นว่า น่าจะได้เห็นหิมะฟูๆ ที่สวนเค็นโระคุเอ็น (Kenroku-en) 兼六園 ทั้งที่หิมะไม่ได้ตกมาหลายวันแล้ว

พอรถไฟเข้าชานชาลาสถานีรถไฟคานาซาวะ (Kanazawa Station) เราก็ลากกระเป๋าไปที่โรงแรม APA Hotel Kanazawa-Ekimae ที่อยู่เยื้องๆ กับสถานีรถไฟ แต่ก็ต้องขอหยุดเก็บภาพหิมะสดใหม่ เพิ่งตกขาวโพลนไปทั่วซักครู่ก่อนลากกระเป๋าไปที่โรงแรม พอฝากกระเป๋าที่โรงแรมแล้ว เราก็ออกมาขึ้นรถ Taxi ตรงไปที่สวนเค็นโระคุเอ็น (Kenroku-en) 兼六園 กันเลย โดยลืมไปว่าจะแวะไปรับตั๋วรถบัสที่ Nohi Bus Center ที่อยู่ข้างๆ สถานีรถไฟ แต่ก็ถือว่าโชคดี เพราะมาถึงสวน หิมะกำลังเริ่มโปรยปรายหลังจากเพิ่งลงจาก Taxi ราวกับเป็นการต้อนรับการเข้าชมสวนสวยแห่งนี้

หลังจากซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมสวนเรียบร้อยแล้ว ภาพที่อยู่ตรงหน้า มันเหมือนกับภาพที่วาดฝันว่าอยากเจออะไรแบบนี้ หิมะฟูๆ บนพุ่มไม้ และหิมะที่กำลังตกเบาๆ เพิ่มความสวยงามให้บรรยากาศหนาวเย็นได้เต็มที่ ซึ่งสวนเค็นโระคุเอ็น (Kenroku-en) 兼六園 แห่งนี้ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 สวนที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาชมในช่วงที่มีหิมะขาวโพลนเช่นนี้

สวยงามจริงๆ อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ ซึ่งสภาวะโลกร้อนมันส่งผลอย่างเห็นได้ชัด ทั้งหิมะลดน้อยลง และเมื่อหิมะหยุดตก ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง หิมะก็จะละลายหายหมดอย่างรวดเร็ว ซึ่งหิมะที่ค้างอยู่บนพุ่มไม้แบบนี้ เรียกว่า Yukizuri (การค้างของหิมะ) เกิดเป็นภาพที่สวยงามและหายากที่จะพบเห็นเช่นนี้

แนะนำให้เลือกความละเอียด 1080p60HD บน YouTube เพื่อภาพที่คมชัดที่สุด

ดังนั้นการท่องเที่ยวเมืองหนาวก็ต้องลุ้นกันแล้วสมัยนี้ หิมะอาจไม่ตกในช่วงเวลาที่ควรตก อากาศก็ไม่หนาวเย็นเหมือนก่อน แต่สิ่งที่หิมะญี่ปุ่นมีความสวยงาม ก็จะเป็นความเบาบางคล้ายปุยนุ่น ล่องลอยมาจากฟ้านั่นเอง ดังนั้น ใครชอบหิมะคงต้องหาโอกาสท่องเที่ยว เพราะไม่แน่อีกหน่อยหิมะอาจจะลดลงอย่างน่าใจหาย

หิมะตกลงบนกิ่งและดอกบ๊วย เป็นถาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำเอาตื่นเต้นต้องขอบันทึกภาพไว้ดูนานๆ สวนแห่งนี้ถือเป็นสวนลัญลักษณ์ของขุนนางจากยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603 ~ 1868) มันถูกสร้างเป็นสวนสำหรับครอบครัวมาเอดะ (Maeda) ของตระกูลคะกะ (Kaga) และแม้ว่าได้ถูกสร้างขึ้นมาในปี ค.ศ. 1676 มันยังคงมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบหลังจากนั้น

ชื่อของสวนเค็นโระคุเอ็น (Kenroku-en) 兼六園 มาจาก 6 ที่มาที่ทำให้สร้างสวนสวย คือ กว้างขวาง เงียบสงบ กลอุบาย สมัยโบราณ ต้นกำเนิดน้ำ และมุมมองที่สวยงาม

หลังจากเที่ยวชมรอบๆ สวน ก็มานั่งพักขา กินขนมหวานและจิบชาเขียวร้อนๆ เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายสักครู่ ก่อนข้ามสะพานเพื่อเข้าไปยังบริเวณปราสาทคานาซาวะ (Kanazawa Castle) 金沢城,Kanazawa-jō ปราสาทเก่าแก่ที่มีพื้นอาณาบริเวณขนาดใหญ่มากแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ในอดีตนั้นปราสาทแห่งนี้ได้เคยเป็นของไดเมียวตระกูลใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่นของสมัยยุคเอโดะ หลายๆ ส่วนของปราสาทคานาซาวะไม่ได้เป็นของดั้งเดิม เนื่องจากมีการถูกทำลายจากเพลิงไหม้จนต้องมีการบูรณะสร้างใหม่หลายๆ ครั้ง

การริเริ่มการก่อสร้างปราสาทแห่งนี้นั้น เริ่มต้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1583 ในช่วงนั้นขุนนางศักดินามาเอดะ โทชิอิเอะ ได้มีการริเริ่มการสร้างปราสาทคานาซาวะขึ้นมา เพื่อใช้เป็นที่พักของตระกูลคากะ (Kaga) ซึ่งเป็นตระกูลที่มีความสำคัญรองจากตระกูลโทคุกาว่า (Tokugawa) หากก็มีการถูกทำลายลงจากไฟไหม้ตัวปราสาทที่เกิดขึ้นหลายครั้งมากๆ ทำให้อาคารหลายส่วนเสียหายและพังทลายลง ตึกหลายตึกที่อยู่บริเวณปราสาทถูกเผาลงบ้าง เสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ดั้งนั้นการบูรณะสถานที่ให้สมบูรณ์และดูใหม่อยู่เสมอจึงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงตลอดเวลา

แต่มีอยู่ส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ถูกเผาทำลายไปด้วยอย่าง ประตูปราสาทอิชิคาว่า (Ishikawa-mon Gate) ที่เป็นของดั้งเดิมตั้งแต่สร้างปราสาทมาและยังคงมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ซึ่งภายในปราสาทจะมีอาคารหลักๆ อยู่ 3 อาคาร คือ Hishi Yagura, Hashizume-mon Tsuzuki Yagura และ Gojukken Nagaya ซึ่งทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยมีต้นแบบมาจากอาคารดั้งเดิมก่อนที่จะถูกไฟไหม้ จากนั้นเราก็เดินผ่านสวนที่อยู่ในบริเวณปราสาทคานาซาวะ ซึ่งจุดหมายเราเดินตาม GPS เพื่อจะไปตลาดปลาโอมิโจ (Omicho Market) 近江町市場

เราเดินผ่าน ศาลเจ้าโอยาม่า (Oyama Shrine) สร้างขึ้นเพื่อสักการะ Maeda Toshiie ขุนนางผู้มีอิทธิพลประจำท้องถิ่น สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1599 เดิมสร้างขึ้นบนภูเขาอูทาสึ (Mount Utatsu) ก่อนที่จะย้ายมายังตำแหน่งปัจจุบัน ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีของประตูพิเศษ ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวดัตช์ โดยออกแบบให้มีการผสมผสานกันระหว่างยุโรปและศาสนาในเอเชีย จะเห็นได้จากชั้นแรกจะเป็นสถาปัตยกรรมที่มีอิทธิพลจากญี่ปุ่นและจีน ส่วนชั้นบนเป็นลักษณะเหมือนประภาคารสไตล์ดัตช์ หน้าต่างเป็นกระจกสี นอกจากนี้ภายในพื้นที่ของศาลเจ้ายังมีบ่อน้ำ และสะพานให้ได้เดินชมอีกด้วย

เดินจากศาลเจ้ามาตามถนนหลัก ไม่นานนักเราก็มาถึง ตลาดปลาโอมิโจ (Omicho Market) 近江町市場 ยังดีที่บ่ายๆ ตลาดยังไม่วาย และเป็นตลาดสดที่ใหญ่และเก่าแก่มากตั้งแต่สมัยเอโดะ มีร้านอาหารญี่ปุ่นให้เลือกอยู่หลายร้านอยู่ แต่เราก็ตัดสินใจเลือกร้านนี้

แต่ละคนเลือกเมนูเช็ตตามใจชอบ อิ่มหนำสำราญกัน ซึ่งเรียกว่าเป็นอาหารกลางวันที่หม่ำตอนบ่าย 3 โมง ก็ย่อมจะเกลี้ยงจานแน่นอน ก่อนจะนั่ง Taxi ไปยังสถานีรถไฟ Kanazawa อีกครั้ง เพื่อไปยัง Nohi Bus Center ยื่นเอกสารใบจองและรับตั๋วเดินทางไป-กลับ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) 白川郷 ในพรุ่งนี้เช้า ซึ่งก็ได้ตั๋วมาเรียบร้อยและเดินไปดูจุดขึ้นรถบัส จะได้ไม่พลาดในพรุ่งนี้เช้า เพราะถ้าพลาด เรื่องใหญ่แน่นอน เพราะบัสเต็มขนาดต้องรีบจองล่วงหน้า 30 วันเลยทีเดียว

มาถึงสถานีรถไฟที่เรียกได้ว่า “สถาปัตยกรรม” ที่ทันสมัยอลังการของ Kanazawa Station โครงสร้างทำด้วยเหล็กเป็นโดมล้อมรอบ ทำให้สถานีนี้ได้ชื่อว่าเป็นสถานีที่สวยอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น สัญลักษณ์หลักของสถานีเห็นจะเป็น "ประตูไม้" Tsuzumi-mon ลักษณะคล้ายเสาโทริอิขนาดยักษ์ ตั้งอยู่ด้านหน้าสถานีเลย เป็นดั่งประตูสู่เมือง Kanazawa ต้อนรับผู้มาเยือนนั่นเอง พวกเราก็เก็บบันทึกภาพกันสักครู่ก่อนนั่ง Taxi ไปจุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดในเมืองนี้อีกแห่งคือ "โรงน้ำชา"

หมู่บ้านฮิงาชิ ชายะ Higashi Chaya District เป็นหนึ่งในหมู่บ้านโรงน้ำชา และแหล่งผลิตชาชายะ ในสมัยเอโดะเป็นสถานบันเทิงให้แขกผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินไปกับการร้องเพลงและเต้นรำของเกอิชา ภายในหมู่บ้านเปิดบริการโรงน้ำชา 2 แห่ง คือ โรงน้ำชาชิมะ (Shima Teahouse) และโรงน้ำชาคาอิคาโระ (Kaikaro Teahouse) พร้อมกับร้านทองคำเปลวฮาคุซะ (Hakuza) จำหน่ายทองคำเปลวสินค้าประจำเมืองคานาซาว่า

โรงน้ำชา (Chaya) เป็นสถานที่สำหรับการเฉลิมฉลองและความบันเทิง โดยจะมี "เกอิชา" คอยดูแลและบริการ มาตั้งแต่สมัยเอโดะโน่น ซึ่งในสมัยนั้น การสร้างบ้าน 2 ชั้นถือเป็นเรื่องต้องห้าม แต่มีข้อยกเว้นให้เฉพาะกับโรงน้ำชาเท่านั้นที่สามารถสร้างได้ เราจึงเห็นอาคารแบบ 2 ชั้นอยู่เต็มไปหมดแถวนี้

เป็นย่านที่คุณสามารถสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม สองข้างทางอบอวลไปด้วยบรรยากาศแบบเมืองเก่า บ้านเรือน 2 ชั้นทำด้วยไม้ นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวัฒนธรรมการดื่มชาแบบญี่ปุ่นได้ซึ่งมีบริการให้เลือกหลายร้าน และเมืองคานาซาวะ (Kanazawa) ยังเป็นเมืองแหล่งผลิตทองคำเปลว พบเห็นร้านค้ามากมายนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของทองคำเปลวนี้ ทั้งในรูปแบบเครื่องสำอาง ซอฟต์ครีม หรือของที่ระลึกมากมาย แต่พวกเราขอชิมซอฟต์ครีมโรยทองคำเปลวกันดูแล้วกัน เผื่อจะมีผิวผุดผ่องเป็นยองใยกันเนอะ ไว้มาติดตามกันต่อวันต่อไปนะ ใครชอบหิมะรับรองฟินสุดๆ

Camera : Samsung Galaxy S7/S6, Lumix TZ90, GoPro Hero7 Black

www.taweesak.in.th