Disable Preloader




ทริป 8 วัน ตะลุยหิมะ สะใจในญี่ปุ่น : ตอนที่ 4 - ซดราเมงสุดอร่อย ก่อนไปหมู่บ้านชาวนา Hida Folk Village ใน Takayama

เช้านี้ตื่นมาพร้อมกับฝนตกที่ดูแล้ว ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ จึงเช็คพยากรณ์อากาศทั้งที่เมือง Toyama และ Hida Takayama แล้ว ปรากฏว่าฝนยังตกที่ Toyama ตลอดถึงเที่ยง ซึ่งเดิมตั้งใจว่าจะนั่งรถไฟชินกันเซ็น (Shinkansen) ใช้เวลาประมาณ 23 นาที จาก Kanazawa ไปลงที่นั่น เพื่อไปหม่ำอาหารเช้า และเที่ยวบริเวณไม่ไกลจากสถานีรถไฟก่อนเดินทางต่อด้วยรถไฟลงมาที่เมืองเก่า ฮิดะ ทาคายามะ (Hida Takayama)

จึงตัดสินใจเปลี่ยนแผนไปที่ Takayama ดีกว่า เพื่อหนีฝนและจะได้มีเวลาท่องเที่ยวเมืองเก่า ฮิดะ ทาคายามะ (Hida Takayama)มากขึ้นด้วย โดยต้องเปลี่ยนจากรถไฟชินกันเซ็นที่แล่นด้วยความเร็วถึง 260 ก.ม. ต่อชั่วโมง มาขึ้นอีกขบวนคือ Limited Express (Wide View) Hida 8 โดยมีเวลาเปลี่ยนขบวนเพียง 6 นาที ทำเอาวิ่งกันสนุกสนานลืมวัยกันเลย ซึ่งจะเป็นขบวนที่หน้าต่างกระจกกว้าง ชมวิวขาวโพลนไปด้วยหิมะตลอดข้างทางได้อย่างเต็มตา นั่งเพลินไปอีก 91 นาที ก็ถึงสถานี Takayama

เราก็ลากกระเป๋าแค่ข้ามถนน เพราะอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ เพื่อเช็คอินและฝากกระเป๋าที่โรงแรม Hida Takayama Washington Hotel Plaza ก่อนไปเดินหาอะไรอร่อยๆ ซดแก้หนาวกัน ก่อนไปท่องเที่ยวกันต่อในช่วงบ่ายวันนี้ แต่ก่อนอื่นเราต้องเดินข้ามไปที่ Nohibus Bus Terminal Takayama ซึ่งอยู่ถัดจากสถานีรถไฟ เพื่อไปซื้อตั๋ว Shinhotaka Ropeway Combination Ticket ที่เราต้องใช้เดินทางในวันพรุ่งนี้ พร้อมทั้งเช็ครอบตารางรถบัสซึ่งเราควรออกเดินทางไม่เกิน 9.00 น. เมื่อได้ตั๋วแล้วก็อุ่นใจได้ไปเที่ยวจุดหมายที่สำคัญของทริปนี้ คือ กระเช้าสองชั้นแห่งเดียวในญี่ปุ่น เพื่อชมความสวยงามอลังการของเทือกเขา Japan Alps

หลังจากนั้น เราก็เดินท่ามกลางฝนปรอย ขอหยุดถ่ายกับสะพานเขียวกันก่อน เพราะเมืองนี้ใครๆ ก็จะมาถ่ายกับสะพานแดงกัน จึงขอแตกต่างกันบ้าง แต่ยังไงวันนี้เราก็ต้องไปบันทึกภาพบริเวณสะพานแดงกันอย่างแน่นอน

จึงหยิบโทรศัพท์มือถือ กดเรียก Google Assistant ว่า "ราเมงอร่อยๆ แถวนี้" อากู๋ของเราก็แนะนำมา 2 ร้าน แต่เราก็ลองเลือกร้านแรก ปรากฏว่ามาถึงหน้าร้าน คนรอคิวยาว จึงเปลี่ยนไปร้านที่สองแทน ซึ่งมีเมนูแปลก คือ ร้านราเมงเนื้อหมี และยังมีราเมงเนื้อหมูป่า สังเกตง่ายๆ คือ หน้าร้านจะมีเจ้าหมูป่าที่ถูกสตาฟไว้ให้ถ่ายรูปคู่กัน น่ารักจนไม่อยากกินเลย

เมื่อดูจากเมนู มาสะดุดที่ ราเมงเนื้อฮิดะ ซึงถือว่าเป็นเนื้อที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ และที่แปลกคือ เป็นราเมงน้ำใสรสชาติกลมกล่อมและมีความเปรี้ยวจากเลมอน ขอยกให้เป็น "ราเมงอันดับที่ 1 ที่ชอบที่สุดเท่าที่เคยกินราเมงมาเลย" แต่เพื่อนๆ ก็สั่งราเมงหมูป่ากัน แต่ก็ไม่มีใครยอมสั่ง ราเมงเนื้อหมี ด้วยความสงสารหรือไม่กล้าลอง ก็ไม่แน่ใจ

หลังจากอิ่มอร่อย เราก็เดินกันมาที่สะพานแดง ณ มุมมหาชนที่ใครๆ ก็ต้องมาเก็บบันทึกภาพไว้หากมาถึงเมืองเก่า ฮิดะ ทาคายามะ (Hida Takayama) ซึ่งเคยมาแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน ช่วงปลายเดือน มีนาคม บรรยากาศก็คล้ายกัยวันนี้ เพราะที่คาดไว้คือ หิมะน่าจะขาวโพลนไปทั่วเมือง แต่ปีนี้หิมะตกน้อย อีกทั้งตกแล้ว พอหยุดตกหิมะก็ละลายหายไปหมด ด้วยสภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด

ซึ่งใครที่มาเที่ยวเมืองนี้ก็มักจะเข้าไปเที่ยวคฤหาสน์ในอดีตเลยนั้นเคยเป็นบ้านพ่อค้าในเมือง ฮิดะ ทาคายามะ ลองกดที่นี่ (+) หมู่บ้านโบราณสมัยเอโดะแห่งเมืองทาคายามะ โบราณสถานสำคัญของญี่ปุ่น เพื่อเข้าไปชมภาพด้านใน ซึ่งทริปนี้ไม่ได้เข้าไปอีก เพราะตั้งใจไปเที่ยวที่หมู่บ้านชาวนาสไตล์กัสโช และทริปนี้เราจะไปปักหมุดบ้านสไตล์กัสโชถึง 3 แห่งนอกเหนือจากที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ 白川郷 (Shirakawa-go)

เราก็เรียก Taxi เพื่อพาไปยังหมู่บ้านมรดกโลกใจกลางขุนเขา (Hida Folk Village) ถือเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดที่มีชีวิตคงเหมาะเป็นคำเรียกขานว่า Hida Folk Village หรือ Hida no Sato (飛騨の里) หมู่บ้านกลางหุบเขาที่นับเป็นไฮไลท์เด็ดที่ใครมาที่ ฮิดะ ทาคายามะ (Hida Takayama) แล้วไม่ได้มา ถือว่าพลาดมากๆ

พอมาถึง พวกเราก็ถูกจัดแจงแปลงกายเป็นชาวนา เพื่อเตรียมตัวดำนา ลงแขกกัน แต่ทว่าฤดูหนาวเช่นนี้ ขาวโพลนไปด้วยหิมะ เราจึงอดดำนา ได้แค่เป็นนายแบบ นางแบบ แบบขำขำไปพลางๆ

ด้วยบรรยากาศที่ถูกโอบกอดด้วยขุนเขา จึงทำให้ใครหลายคนหลงเสน่ห์หมู่บ้านแห่งนี้ได้ไม่ยาก นอกจากนี้บ้านกว่า 30 หลังยังถูกจัดแสดงให้เข้าชมวิถีชีวิตและประเพณีที่อนุรักษ์กันมานานตั้งแต่สมัยเริ่มสร้างในสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1867) สถาปัตยกรรมจะเป็นรูปแบบที่เรียบง่ายที่สร้างจากไม้หลากรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น กระท่อม ยุ้งฉาง หรืออาคารที่ผู้คนรวมตัวกันเพื่อสวดมนต์ ซึ่งบ้านสร้างในรูปแบบคล้ายทรงพนมมือสไตล์กัสโชนั่นเอง

การเดินทางมาที่นี่นั้นง่าย เพราะนั่ง Taxi ระยะทางประมาณ 2 ก.ม. จากบริเวณสะพานแดง ก็ได้สัมผัสหมู่บ้านขาวนาโบราณ เมื่อเทียบกับการนั่งรถบัสกว่า 1 ชั่วโมงไปที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ 白川郷 (Shirakawa-go)

และในช่วงค่ำยังมีการจัดแสงสี (Light Up) อีกด้วย แต่ทว่าเราขอกลับมาที่ตัวเมืองดีกว่า เพราะหิมะเริ่มลงหนักขึ้นเรื่อยๆ และจากการพยากรณ์อากาศ หิมะจะตกตลอดค่ำคืนวันนี้ พอนั่งรถ Taxi กลับมาที่บริเวณสะพานแดง ก็ถือโอกาสเก็บภาพบรรยากาศ และเจอกับครอบครัวคนไทย ที่แต่งชุดยูกะตะมาถ่ายรูปพอดี จึงทักทายและขอถ่ายภาพไปด้วยกัน

จากนั้น เราก็เริ่มเดินตรงเข้าบริเวณทางหลักของย่านเมืองเก่า เพื่อเก็บบรรยากาศ และแวะชิมช๊อปไปด้วย ชิมซาลาเปาร้อนๆ ท่ามกลางอากาศหนาว มันช่างเหมาะเจาะจริงๆ ชอบรางระบายน้ำที่น้ำยังใสแจ๋ว

ในที่สุดเราก็มาที่ร้านราเมงอีกร้านที่อากู๋ Google แนะนำไว้เมื่อบ่ายๆ ที่เราลองค้นหา แต่ขอเดินผ่านร้านนี้ ไปราเมงอีกร้านแทน เพราะคิวหน้าร้านตอนนั้นเยอะอยู่ แต่เวลานี้ไม่มีคิวแล้ว ก็ถือโอกาสเข้าไปหลบหนาว ซดราเมงคล่องคอ แกล้มกับเกี๊ยวซ่า

หลังจากอิ่มหนำเต็มที่ก็เดินกลับมานำกระเป๋าเดินทางขึ้นมาไว้บนห้อง และหิมะภายนอกหน้าต่างกำลังโปรยปราย จึงถือโอกาสออกไปเดินเล่น และข้ามไปที่สถานีรถไฟ Takayama ซึ่งมีการจัดแสดงศิลปะอยู่พอดี ถือโอกาสไปเดินย่อยราเมงและให้หิมะโปรยใส่ตัวให้สะใจ ไว้พบกันในเช้าวันใหม่กันหิมะขาวโพลนไปทั้งเมืองในตอนถัดไปนะ

Camera : Samsung Galaxy S7/S6, Lumix TZ90, GoPro Hero7 Black

www.taweesak.in.th