Disable Preloader




ร้อนนัก ไปพักร้อน 2009 ตอนที่ 8 : ฟ้าหลังฝนที่ Theatinerkirche St. Kajetan

ก่อนที่เดินหลบฝนเข้าไปในห้างสรรพสินค้าที่อยู่ตรงหน้า เพื่อนั่งจิบกาแฟซักพัก สายตาก็เหลือบไปมองเห็นโบสถ์สีเหลืองมัสตาร์ดอยู่ไม่ไกลนัก ซึ่งเป็นจุดหมายถัดไปที่พวกเราจะไปเที่ยวกัน

ประมาณ 2 ชั่วโมงผ่านไปและฝนหยุดตก ก็ได้เวลาเดินต่อไปยังโบสถ์หลังนั้น ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นแล้ว แต่ก็ต้องขอใช้แฟลช เพื่อให้เห็นความงามในสีสันของดอกไม้ระหว่างทางได้อย่างชัดเจน

ใกล้ถึงแล้ว อีกอึดใจเดียว

เราก็มายืนอยู่ตรงหน้าความยิ่งใหญ่ของโบสถ์โรมันคาทอลิก ที่มีชื่อว่า "Theatinerkirche St. Kajetan" หรือเรียกอีกอย่างว่า "Theatine Church St. Cajetan" ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1663-1690 ซึ่งโบสถ์สร้างขึ้นในสไตล์ "อิตาเลียนบาร๊อกชั้นสูง" (Italian High-Baroque Style) และออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียนชื่อ "Agostino Barelli"

ในภายหลังจึงได้ก่อสร้างโดมทั้ง 2 โดมซึ่งไม่ได้ออกแบบไว้ในตอนต้น โดยก่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1690 ด้วยความสูง 71 เมตร และเลือกใช้สีเหลืองแบบเมดิเตอเรเนียน ทำให้กลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง อีกทั้งยังมีอิทธิพลต่อสถาปัตยกรรมแบบเยอรมันตอนใต้แบบบาร๊อก (Baroque) อีกด้วย

อยากให้ชมภาพภายในโบสถ์แห่งนี้ ที่ตกแต่งอย่างงดงาม ซึ่งมีเว็บไซต์ที่นำเสนอภาพภายในแบบ 360 องศามาให้ได้ชมกัน โปรด [กด] ที่นี่เพื่อเยี่ยมชมแบบรอบทิศทางเหมือนกำลังเดินอยู่ในโบสถ์แห่งนี้ ยังสามารถเลื่อนเมาส์เพื่อเปลี่ยนมุมมองได้เองด้วย รับรองจะต้องอึ้ง และทึ่งอย่างแน่นอน

หากเงยมองไปยังบริเวณยอดโบสถ์ ก็ได้ชื่นชมความงามของศิลปะชั้นสูง อลังการดีแท้

น่าประทับใจจริงๆ ทั้งสถาปัตยกรรม และบรรยากาศความเป็นยุโรป

หันมองไปทางซ้ายจากจุดนี้ จะมองเห็น "สิงโต" อยู่ตรงนั้น ซึ่งสถานที่นี้มีชื่อเรียกว่า "Feldherrenhalle" หรือ "Field Marshals' Hall" ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1841-1844 เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญของทหารชาวบาวาเรียน (Bavarian)

ซึ่งมีอนุสาวรีย์ของผู้นำกองทัพทั้ง "Johann Tilly" และ "Karl Philipp von Wrede"

ฝากอีกภาพแสดงความใหญ่โตของสถาปัตยกรรมแห่งนี้

ขอแปะภาพนี้ เพื่อให้เห็นภาพมุมกว้างในบริเวณนี้ทั้งหมด

ซึ่งมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายๆ อย่างในบริเวณนี้ อย่างเช่น รูปปั้นสิงโตอยู่หลายๆ ตัว เลือกใช้สีเขียวอมฟ้า ทำให้ดูโดดเด่นขึ้นอีก เมื่อเทียบกับสีเหลืองของโบสถ์

หันหน้ามาหน่อย ... แช๊ะ! ดูซิว่ามันเชื่องขนาดไหน ... สังเกตฟ้าหลังฝนเริ่มสวยใสไร้เมฆแล้ว

มีเคล็ดอยู่ข้อหนึ่งคือ "ใครอยากกลับมาเยือน Munich อีก ... ให้เอานิ้วไปลูบจมูกเจ้าสิงโตแบบนี้ ดูซิ! โดนลูบซะมันแพลบ! ... คงมีคนที่อยากกลับมาเยือนเมืองแห่งนี้อีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผมด้วย"

"สิงโต" เหล่านี้ตั้งอยู่บริเวณหน้า "Munich Residenz" ซึ่งในตอนต่อไป ผมจะพาเข้าไปเที่ยวภายในบริเวณ "Kaiserhof" (Emperor's Courtyard) รวมทั้งพาไปชมสวน "Hofgarten" (Court Garden) มาติดตามให้ได้เร็วๆ นี้