Disable Preloader




Huis Ten Bosch ทุ่งทิวลิปและหมู่บ้านฮอลแลนด์ขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น ตอนที่ 2

มาเที่ยวกันต่อในตอนที่ 2 หลังจากที่เดินชมบริเวณจัดวางต้นทิวลิปจำนวนมาก หลายหลายสีสัน ซึ่งก็มีอยู่หลายมุม และในบางมุมปลูกไว้กลางแจ้งเป็นทุ่งดอกทิวลิป อีกทั้งยังมีกังหันลมแบบเดียวกันกับฮอลแลนด์ เหมือนกับยกมาจัดแสดงไว้ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อว่าจะมีคำถามสงสัยว่า ทำไมต้องเป็นฮอลแลนด์? ซึ่งค่อยๆ อ่านไปเรื่อยๆ ในตอนนี้ และจะมีคำเฉลยไว้ด้วยซึ่งเราอาจไม่ทราบมาก่อน

ใน Huis Ten Bosch แห่งนี้ ยังมีส่วนที่เป็นสวนสนุกอีกด้วย แต่ขอเลือกเป็นการเดินเที่ยวชมเก็บบรรยากาศมาฝากกันดีกว่า

มีเรือโจรสลัดที่สามารถขึ้นไปเพื่อล่องออกไปยังบริเวณอ่าวใกล้ๆ โดยเป็นสวนสนุกที่เกี่ยวกับการ์ตูนเรื่อง วันพีช (One Piece) ซึ่งเกี่ยวกับ "มังกี้ ดี ลูฟี่" เด็กหนุ่มที่มีความฝันอยากเป็น "ราชาโจรสลัด" และครอบครอง วันพีช แต่สำหรับบล๊อกเกอร์นั้นไม่เคยได้ดูการ์ตูนเลย จึงอาจไม่อินกับโซนนี้สักเท่าไร

มีหอคอยสูงตั้งตระหง่าน ซึ่งอีกสักครู่จะขึ้นไปชมภาพจากมุมสูง จะได้เห็นบริเวณโดยรอบกันดีกว่า

จึงขึ้นลิฟท์ไต่ความสูงไปเรือยๆ จนถึงบริเวณโถงชมวิว มองวิวได้กว้างไกล

บริเวณนี้ยังมีส่วนที่เป็นโรงแรมที่พักในบรรยากาศยุโรป

มองมาอีกฝั่งทางซ้าย จะมองเห็นเป็นเมืองขนาดใหญ่ มีกลิ่นอายของยุโรปอย่างเต็มอิ่ม

ก็ต้องชื่นชมว่า แม้จะเปิดให้ท่องเที่ยวมานานถึง 23 ปีแล้ว แต่ก็ยังรักษาสภาพและความสวยงามได้อย่างดีเยี่ยม จึงเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวจากทุกทิศให้มาเยี่ยมเยือนกัน

ไม่นานนักก็ลงมาจากหอคอย มองเห็นเรือที่แล่นไปรอบบริเวณ ก็เลยอยากลองลงเรือรักดูบ้าง

มายืนรอที่ท่าเรือแห่งนี้ ไม่นานนักเรือก็เข้ามาเทียบท่า

เปลี่ยนจากมูมสูง มาเป็นมุมเงยกันบ้าง มองเมืองโดยรอบระหว่างเรือรักล่องผ่านไป ทำให้หลงใหลในสถานที่แห่งนี้อย่างเต็มที่

แดดร่ม ลมตก และยังเป็นลมหนาวอีกด้วย มองเห็นนกเหยี่ยวที่บินมาอวดความสวยงามโฉบเฉี่ยวอยู่ใกล้ๆ

ขึ้นจากเรือ ก็ยังมีขบวนรถไฟอีกด้วย แต่ขอใช้การเดินเท้าเพื่อซึมซับบรรยากาศแบบสโลว์ไลฟ์จะดีกว่า

เดินมาเจอร้านกาแฟข้างทุ่งดอกทิวลิปแบบนี้ หากไม่นั่งเก็บเกี่ยวบรรยากาศ คงจะต้องเสียดายอย่างแน่นอน

อีกเหตุผลหนึ่งคือ ขอพักเท้าสักแพร๊บ! เดินมาหลายกิโลเมตรแล้วตลอดบ่ายวันนี้

ซึ่งยังต้องชื่นชมการแสดงพาเหรดและการแสดงช่วงค่ำอีก

เมื่อช่วงต้นที่ได้มีคำถามในใจว่า ทำไมต้องเป็นฮอลแลนด์?

ซึ่งจัดหวัดแห่งนี้ คือ นางาซากิ (Nagasaki) จังหวัดที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา หลังจากที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเลือกทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เป็นจุดที่สอง เพื่อกดดันให้ญี่ปุ่นยอมยกธงขาวในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2488 เวลา 11:02 น. เป็นช่วงเวลาที่คนญี่ปุ่นทั้งประเทศต้องจดจำจนชั่วชีวิต

หลังสิ้นเสียงคร่ำครวญถึงความสูญเสียที่จังหวัดฮิโรชิมา และ นางาซากิ ญี่ปุ่นก็เริ่มหันกลับมามองข้อบกพร่องของตนเอง เรียนรู้ และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อก้าวเดินต่อไป

ทุกวันนี้ทั้งสองเมืองที่เคยบอบช้ำก็กลายเป็นเมืองที่เข้มแข็ง พร้อมเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาเรียนรู้ปูมหลังที่แสนเศร้าของประวัติศาสตร์ที่โลกต้องจารึก

ซึ่งแต่เดิมญี่ปุ่นเคยเป็นประเทศปิดและเปิดบ้านต้อนรับเพียงบางคนเท่านั้น ซึ่ง "ฮอลแลนด์" คือ หนึ่งในเพื่อนบ้านที่ได้รับการยอมรับจากเจ้าบ้าน ผ่านการติดต่อค้าขายทางมหาสมุทรของเกาะคิวชู

ญี่ปุ่นจึงได้ซึมซับและเรียนรู้วัฒนธรรมจากฝั่งตะวันตก ถึงได้รับความเจริญรุ่งเรืองมากมายผ่านเข้ามาทางจังหวัดนางาซากิ

บรรยากาศยามเย็นเช่นนี้ ยิ่งทำให้เหมือนเมืองในยุโรปขึ้นอีก .. ว่ามั้ย?

ขอย้อนกลับมากล่าวถึงดอกทิวลิปที่บานในใจกันอีกครั้ง ซึ่งดอกไม้เป็นสิ่งที่มอบให้กันเมื่อต้องการแบ่งปันความรู้สึกดี หรือตอบแทนบุญคุณ

Huis Ten Bosch จึงเปรียบเสมือนดอกไม้ที่ญี่ปุ่นมอบแทนคำขอบคุณกลับคืนให้แก่ "เพื่อน" ซึ่งผูกพันกันมานานแสนนาน

ซึ่งได้คำตอบสำหรับคำถามที่อยู่ในใจแล้วนะ ก็มาเที่ยวกันต่อ

ยิ่งมืด อากาศยิ่งเย็นลง บวกกับลมทะเลที่พัดเข้ามาตลอด ยิ่งทำให้หนาวจับใจ ได้เวลาหาบะหมี่ราเมงร้อนๆ แก้หนาวซักชาม ก่อนไปชมขบวนพาเหรดกันต่อ

ซึ่งถือเป็นไฮไลต์อย่างหนึ่งของการมาเที่ยวในสถานที่แห่งนี้ อีกทั้งยังได้ชมแสงสียามค่ำคืนอีกด้วย

ขบวนพาเหรดหลากหลาย พร้อมเสียงดนตรีและเพลงสนุกสนานที่สามารถแด๊นซ์ไปด้วยกัน

ซึ่งมีอีกอย่างที่ตามหาเพื่อมาชมการแสดง Huis Ten Bosch 3D Projection Mapping ซึ่งเป็นการฉายภาพเคลื่อนไหวไปยังตัวปราสาท บอกเล่าเรื่องราว

ซึ่งเคยได้ดูจากคลิปที่รับมาจาก Line ก่อนหน้านี้ ซึ่งดูตื่นตาตื่นใจ พอมาเห็นของจริงยิ่งชอบมากขึ้นอีก

จึงมายืนโต้ลมหนาวรอชมการแสดงในเวลา 20:46 น. และถ่ายคลิปนี้มาฝากกัน โดยสามารถกดดูจากข้างล่างนี้

สนุกสนานดี แต่ทำเอาเมื่อยมือยืนถ่ายได้เหมือนกัน แต่ก็คุ้มค่าในการชมการแสดงในเวลาเพียง 6 นาทีกว่าๆ

เมื่อชมการแสดงจบ ก็เดินย้อนกลับมายังทางเข้า เพื่อกลับเข้าโรงแรม เพราะเริ่มจะทนความหนาวไม่ไหว ทั้งที่อยู่ในช่วงปลายเดือนมีนาคม แต่ทว่าหนาวจากลมทะเล เย็นจับใจจริงๆ

เมื่อกลางวันเดินผ่านและนั่งเรือผ่าน โดยไม่ทราบเลยว่า มีการใส่หลอดไฟใต้น้ำสีสันสวยงามสลับไปมาไว้ด้วย

รวมทั้งบริเวณสวนต่างๆ จะถูกเนรมิตไปเป็นทุ่งแห่งแสงสีสันยามค่ำคืนอีกด้วย

เดินมาถึงโรงแรม Nikko Huis Ten Bosch เพื่อเข้าพักผ่อนเติมแรง และต้องออกเดินทางกันต่อในตอนเช้า

ตื่นเช้ามาด้วยความสดใสกับเช้าวันใหม่ มองไปยัง Huis Ten Bosch ที่ยังเงียบสงบ แต่ก็พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในวันนี้ และวันต่อๆ ไป

เก็บความประทับใจไว้ในภาพถ่าย และความทรงจำ โดยจะหากโอกาสกลับไปอีก

หลงใหลในมนต์เสน่ห์เกาะคิวชู (Kyushu) อย่างมาก และจะกลับไปใหม่ในปลายปีนี้ ... แล้วเจอกันอีกนะ

อ้างอิง : Huis Ten Bosch (ภาษาไทย)

แผนที่ : Huis Ten Bosch Guide Map