Disable Preloader




ตะลึงค์ ตึ่ง ตึง ... กับมื้ออาหารวิวสุดยอดที่ ภูฏาน

รถบัสประจำทริปพาพวกเรามุ่งสู่เมืองพูนาคา (Punakha) แต่ก่อนถึงเมืองดังกล่าวประมาณ 10 กิโลเมตร ก็ได้จอดแวะพักที่หมู่บ้าน Sopsokha แห่งนี้ เพื่อรับประทานอาหารเที่ยงกัน แม้ว่าอาหารจะธรรมดา แต่วิวที่อยู่ตรงหน้า ขอบอกว่า "สุดยอด"

วิวสองข้างทางตลอด 5 วันในทริปนี้ ยอมรับว่าเป็นทริปที่ผมไม่ได้แอบงีบแม้แต่นาทีเดียว

เพราะว่าวิวสองข้างทาง ช่างดึงดูดความสนใจที่ไม่อยากจะละสายตาไปจริงๆ อีกทั้งอากาศที่บริสุทธิ์ สูดได้อย่างเต็มปอด คงมีส่วนที่ทำให้ไม่รู้สึกง่วงนอน สีเขียวของทุ่งช่วยให้รู้สึกเย็นสบายตาและใจอย่างมาก และภาพที่เห็นผ่านกระจกนั้น ก็คือ หมู่บ้าน Sopsokha นั่นเอง

ที่เรากำลังจะแวะลงไปรับประทานอาหารกัน

มาถึงแล้ว เมื่อรถบัสจอดสนิท พวกเราก็เดินลงรถ เพื่อตรงเข้าไปข้างใน ซึ่งมีภัตตาคารอยู่ลึกเข้าไปตามทางเดิน

มีสถาปัตยกรรมที่มีสไตล์ตามแบบของภูฏาน

บ้านเรือนที่มีรูปแบบเหมือนกัน ไม่ว่าจะเดินทางอยู่เมืองไหนในภูฏาน บ่งบอกถึงเอกลักษณ์อย่างแท้จริง

และแล้วก็เจอเข้ากับภาพวาดตามฝาผนังของบ้านแต่ละหลัง

ทำเอาตะลึง และเสียงหัวเราะ คิกคั๊กๆ ของพวกเราด้วยความที่ไม่คิดว่าจะได้เจออะไรแบบนี้

ระหว่างทางเดิน มีสายน้ำเล็กๆ บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ และชุ่มชื้น

มาถึงภัตตาคารกันแล้ว และสิ่งก่อสร้างสีเหลี่ยมนั้น ภายในจะมีกงล้อมนตรา ซึ่งหมุนอยู่ตลอดเวลาด้วยพลังจากสายน้ำ

ด้วยความศรัทธาต่อศาสนาอย่างแรงกล้า และน่าชื่นชม

มองไปทางด้านหลังของภัตตาคาร จะมองเห็นทุ่งสีเขียวขนาดใหญ่ และชุมชนหมู่บ้านที่ตั้งอยู่

ต้องขอบันทึกภาพพร้อมฉากหลังสุดโรแมนติคกันซักหน่อย ... แช๊ะ!

รวมทั้งบันทึกภาพเดี่ยว เป็นที่ระลึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ประทับใจ

เรียกได้ว่า วิวที่อยู่ตรงหน้า ชูรสอาหารให้โดดเด่นเอร็ดอร่อยกว่าผงชูรส

เป็นมื้อหนึ่งที่จะจดจำวิวไว้ ไม่ลืมเลือน

ทานไป ชมทุ่งมัสตาร์ดและนาข้าวไปด้วย ลมที่พัดทำให้ใบพริ้วไสวตามแรงลม

มองภาพวิวได้รอบด้านมากกว่า 240 องศา

หลังจากอิ่มหนำแล้ว ทุกคนก็ต้องเข้ามายังห้องนี้ ซึ่งอาจคิดไปว่า นี่เป็นห้องพัก แต่ความจริงแล้วคือ "สุขา" อย่างนี้นี่เอง

ลองซูมไปยังบริเวณหมู่บ้าน จะมองเห็นสภาพบ้านเรือน ฝูงวัว และที่ตั้งบนเขา คาดว่าจะเป็นวัด Chimi Lhakhang นั่นเอง

อยากมีเวลา จะได้เดินเข้าไปเที่ยวยังหมู่บ้านนั้น และแล้วเราก็ต้องรีบเดินทางต่อไปยังตัวเมือง พูนาคา เพื่อไปชมป้อม Punakha Dzong ที่ถือเป็นป้อมปราการที่สวยที่สุดของภูฏาน ซึ่งได้เคยนำภาพและเรื่องราวมาฝาก หรือ กดลิงค์นี้ (+)= เพื่ออ่านและชมภาพอย่างจุใจ

พวกเราก็ขอเก็บภาพกันทั้งก๊วน กับสภาพบ้านเรือนที่มีจิตรกรรมฝาผนัง

ซึ่งภาพเหล่านี้ สื่อถึงความเชื่อเรื่องการไล่ภูตผีปีศาจ จะไม่ได้มองในเรื่องของอนาจารแต่อย่างใด

เป็นเรื่องธรรมชาติ

ถือเป็นรูปแบบวัฒนธรรมความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น

แต่สิ่งที่ชื่นชอบ คือ การที่ดำรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของบ้านเรือน ซึ่งมีการกำหนดรูปแบบไว้ ไม่ว่าจะสร้างขึ้นใหม่ ใช้วัสดุใหม่ แต่จะต้องคงรูปแบบไว้อย่างเคร่งครัด

มีศิลปะในแต่ละซอกมุม คงความมีเอกลักษณ์ และมีความละเอียดอ่อนของชิ้นงาน

ได้เวลาเดินทางกันต่อแล้ว เก็บภาพประทับใจไว้ในเมมโมรีของร่างกายแบบห้ามลบ

ลองถามเจ้าวัวตัวนี้ว่า เอนทรีนี้ต้องระบุ น.18 หรือไม่? ได้คำตอบว่า "No" เลยปล่อยเลยตามเลย ถือว่าผ่าน กบว. เรียบร้อย