Disable Preloader




ใครๆ ก็ไป "ปักกิ่ง" ตอนที่ 3 : "กู้กง" พระราชวังต้องห้าม ... พลาดชม

เข้ามายังภายในพระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) หรือ "กู้กง" คือ พระราชวังหลวงอันยิ่งใหญ่ เคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิจีนรวม 24 พระองค์ เป็นสัญลักษณ์แห่งศูนย์กลางจักรวาลของจีน

โอบล้อมด้วยกำแพงสูง เป็นเขตหวงห้ามสำหรับสามัญชนตั้งแต่สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1420 จวบจนจักรพรรดิองค์สุดท้ายถูกบังคับให้สละราชสมบัติในต้นศตวรรษที่ 20 โลกยุคใหม่จึงเริ่มรุกล้ำเข้าไปตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 1949 และในที่สุดสาธารณชนก็ได้รับอนุญาตให้ก้าวสู่เขตพระราชฐาน

เอ๊ะ! นั่นเขามุงดูอะไรกัน ในฐานะไทยมุง ขอไปสร้างกระแสจีนมุงดูบ้าง เขากำลังฝึกทหารอยู่ ได้เห็นถึงความมีระเบียบวินัย ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างมาก

โดยเฉพาะชาวจีนนั้น มีความจริงจังในเรื่องนี้มากๆ เห็นได้จากการจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิค 2008 ที่ยิ่งใหญ่ จนมาถึง กีฬาเอเชียนเกมส์ 2010 ที่ขณะนั่งดูถ่ายทอดสด แอบคิดในใจ "ทำได้ไงเนี่ย ถ้าขาดความสามัคคี หรือผิดพลาดแค่คนเดียว ก็คงมองเห็น แต่แสดงถึงความมีวินัยในการซ้อม จังหวะต่างๆ ไม่มีที่ติเลย"

มาเที่ยวกันต่อ ภาพที่เห็นนี้คือ "อู่เหมิน" (Meridian Gate) เป็นทางเข้าดั้งเดิมของวังหลวง

ลานระเบียงด้านบนนั้น เป็นที่จักรพรรดิตรวจทัพ และทำพิธีเซ่นไหว้รับตรุษจีน

เดินผ่านเข้ามาอีก จะมาถึงสะพานหินอ่อน 5 สะพาน (Golden Water) เป็นตัวแทนความดี 5 ประการ ตามคำสอนของขงจื้อ ได้แก่ มนุษยธรรม ยุติธรรม ความเป็นผู้ดี การศึกษา และความซื่อสัตย์

ทอดข้ามแม่น้ำทองซึ่งไหลจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก มาถึงประตูที่ 4 (Gate of Supreme Harmony) และเป็นประตูสุดท้ายเข้าสู่พระราชฐานชั้นใน

ซึ่งเป็นศูนย์กลางของพระราชวังต้องห้าม มีสิงโตสำริดเฝ้าประตู ตามธรรมเนียมความเชื่อที่ว่า เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ อยากถามว่ามีวิธีการดูอย่างไรว่า สิงโตตัวไหนตัวผู้ ตัวไหนตัวเมีย

รู้นะคิดอะไรอยู่ ?? แต่ไม่ต้องติดเรต น.18 แบบนั้น เฉลยคือ สิงโตตัวเมียจะใช้เท้าเล่นอยู่กับลูกสิงโตแบบนี้

ได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ ใหญ่โตของพระราชวังต้องห้าม

ได้หยุดชม Hall of Supreme Harmonry ซึ่งเป็นพระที่นั่งที่ใหญ่ที่สุด ภายในมีบัลลังก์มังกรทำจากไม้หอม ซึ่งจักรพรรดิจีนทรงประทับว่าราชการ รวมทั้งสิ้น 24 พระองค์

แต่ละพระที่นั่งต้องเดินเท้าไกลพอสมควร ท่ามกลางอากาศหนาวไม่กี่องศา

มาถึง Hall of Preserving Harmony

ซึ่งมีสิ่งที่โดดเด่นห้ามพลาดชม คือ บันไดหินอ่อนทางด้านเหนือ ที่แกะสลักรูปนูนเป็นลายมังกรและก้อนเมฆอย่างวิจิตรพิสดาร ด้วยหินก่อนทั้งแผ่นที่หนักกว่า 200 ตัน

ยังมีนกกระเรียนและเต่า อันเป็นสัญลักษณ์ของความยั่งยืนซึ่งบ่งบอกถึงความมั่นคงของราชวงศ์ที่ปกครอง โดยนกกระเรียน เป็นพาหนะของผู้เป็นอมตะทั้งหลาย

เต่า ยังเป็นสัญลักษณ์ของจักรวาล กระดอง หมายถึง สวรรค์ และท้อง หมายถึง พื้นโลก

ตามไปดู เขามุงดูอะไรกัน

ขอแหงนมองความงดงาม เก็บความประทับใจทุกรายละเอียดไว้ในภาพประทับใจ

มีแต่สัญลักษณ์มังกร นั่นคงหมายถึง สถานที่แห่งนี้คงจะเป็นที่ประทับขององค์จักรพรรดิ หรือเรามักติดภาพจากหนังจีน คือ "ฮ่องเต้" นั่นเอง

พยายามหามุม เพื่อให้มองเห็นบังลังก์มังกร แต่จะมองไม่ชัดเจน เนื่องจากแสงน้อย และคนเยอะมาก จึงขอนำภาพมุมนี้มาฝากแทนแล้วกัน

เดินต่อไปยังพระที่นั่งถัดไปอีก มองดูภาพไกลๆ โดยรอบไปด้วย

และชื่นชมข้าวของเครื่องใช้ไปด้วย ถือเป็นงานศิลปะจีนที่ทรงคุณค่าอย่างแท้จริง

ยังเดินไม่ครบซึ่งยังไม่ถึงทางออก ซึ่งในตอนต่อไปจะพาเดินไปจนถึง Imperial Garden

โดยจะเก็บภาพบรรยากาศไปเรื่อยๆ และนำมาฝากกันในแต่ละตอนนะ โดยสัญญาว่าจะเขียนต่อเนื่องไม่ให้เว้นวรรครอนานเหมือน 2 ตอนที่แล้ว