Disable Preloader




ใครๆ ก็ไป "ปักกิ่ง" ตอนที่ 6 : พาเที่ยว "พระราชวังฤดูร้อน" ในฤดูหนาว

เป็นความเข้าใจเดิมว่า ปักกิ่ง ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ ซึ่งอากาศน่าจะหนาวเย็นตลอดปี แต่ความจริงแล้ว ในฤดูร้อน อากาศในปักกิ่งจะร้อนมาก ดังนั้น ราชวงศ์จะแปรราชฐานจากพระราชวังต้องห้าม ไปยังพระราชวังฤดูร้อนแห่งนี้ ที่รายล้อมด้วย ศาลา สวน และวัด ซึ่งเรียงรายอยู่รอบทะเลสาบคุนหมิง

ระหว่างเดินไปยังประตูทางเข้าพระราชวัง

เห็นดวงอาทิตย์แบบนี้ ท่ามกลางอุณหภูมิประมาณ 1 องศา แทบไม่ได้ช่วยให้อุ่นขึ้นเลย

น้องๆ แต่งตัวแบบจัดหนักเลย โต้ลมหนาว

มา ... เข้าไปเที่ยวชมภายในพระราชวังฤดูร้อนกัน

คำถามอีกครั้ง สิงโตตัวนี้ ตัวผู้หรือตัวเมีย สามารถดูเฉลยได้จากตอนที่ผ่านมา

เดินเข้าสู่ภายใน ได้บรรยากาศของต้นไม้สีเขียว ซึ่งน่าจะเป็นต้นสน เพราะต้นไม้อื่นๆ ต่างผลัดใบจนหมด จึงถือว่า ต้นสนเป็นไม้ที่มีความอดทนสูงมาก

ไม่แน่ใจว่า เจ้าตัวนี้ คือ กิเลน หรือไม่?

แถมด้วย นกกระเรียน และ มังกร

ไม่แน่ใจว่า จะเรียกว่า ท้องพระโรงได้หรือไม่ เนื่องจากมีขนาดไม่ใหญ่นัก

แต่ติดใจกับเจ้ามังกรเริงร่าตัวนี้ น่ารักดี

ได้ยินเสียงนกร้องจำนวนมาก จึงเงยหน้ามองเห็นนกตัวอ้วนอยู่จำนวนมากบนต้นไม้

มาทำความรู้จัก พระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace) กันเพิ่มเติมซักหน่อย

พระราชวังฤดูร้อน เป็นอุทยานที่มีทิวทัศน์สวยงาม เดิมเป็นวังสำหรับการแปรพระราชฐานของราชวงศ์ เพื่อหลบร้อนจากพระราชวังต้องห้ามในช่วงฤดูร้อน

พระนางซูสีไทเฮา ทรงโปรดปรานที่นี่เป็นพิเศษ และสั่งให้บูรณะถึง 2 ครั้ง หลังถูกกองทัพฝรั่งเศสและอังกฤษทำลายในปี ค.ศ. 1860 และหลังกบฏนักมวยซึ่งปล้นทำลายในปี ค.ศ. 1902

แต่เนื่องจากการมาท่องเที่ยวครั้งนี้ อยู่ในช่วงฤดูหนาว ทำให้ไม่เห็นสีสันความงดงามของต้นไม้ ดอกไม้ รวมทั้งปริมาณน้ำในทะเลสาบคุนหมิงที่มีน้อย และบางส่วนกลายเป็นแผ่นน้ำแข็ง

ยังมองเห็นหิมะค้างบนหลังคาตำหนัก

แค่เห็นภาพก็เย็นยะเยือกแล้ว

ระหว่างเดินตามเส้นทาง ก็ได้เดินชมผ่านกระจกห้องต่างๆ

เครื่องเรือนที่ตกแต่งภายในจะเป็นเครื่องเรือนสมัยราชวงศ์ชิง สังเกตว่าสมัยนั้นก็มีนาฬิกาตั้งโต๊ะกันแล้ว

ยังเก็บรักษาไว้อย่างดี เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ แม้กระทั่งชาวจีนด้วยกัน เข้ามาเที่ยวชม

ที่ประทับของพระนางซูสีไทเฮา (Hall of Happiness and Longevity) ยังคงสภาพเหมือนเดิมตอนที่พระนางเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1908 ข้างในตกแต่งด้วยเครื่องเรือนสมัยราชวงศ์ชิง ในบริเวณพระราชวังแห่งนี้ ยังมีหมู่ตำหนัก สวนหิน สระน้ำ และโรงงิ้วส่วนพระองค์ของพระนางซูสีไทเฮา

มองเห็นทะเลสาบกว้างใหญ่ (Kunming Lake)

มีมุมถ่ายภาพสวยๆ มากมาย

เดินออกนอกระเบียงขนานทะเลสาบจากสวนแห่งความดีและความกลมกลืน ตลอดทางมีศาลา 4 หลังคั่นเป็นระยะ ตัวเสาและเพดานระเบียงเขียนภาพจิตรกรรมเล่าเรื่องเทพนิยายจีนและทิวทัศน์ รวม 14,000 ภาพ

มองเห็นฝูงนกอยู่ไกลๆ ในบรรยากาศเหงาๆ

หันไปอีกด้าน จะมองเห็น เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม (Tower of the Fragrance of Buddha) ... มุมนี้ถือเป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวพระราชวังแห่งนี้ หากใครไปเยือนลองไปหาจุดที่สามารถถ่ายภาพมุมนี้ เพราะมีจุดที่ถ่ายได้เพียงจุดเดียว และมุมอื่นจะถ่ายได้ไม่ชัดเจนเท่าจุดนี้

อย่างจุดนี้ก็จะไกลเกินไปหากจะบันทึกภาพ เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม ตั้งอยู่บนดอยหมื่นปี

ถ่ายภาพหน้าโรงงิ้วส่วนพระองค์ของพระนางซูสีไทเฮา (Hall for Listening to Orioles - Tingli Guan)

เรือหินอ่อน (Marble Boat) พระนางซูสีไทเฮาทรงใช้งบประมาณในการปรับปรุงกองทัพเรือมาสร้างของเล่นชิ้นนี้ โครงสร้างส่วนบนทำจากไม้ แต่ทาสีให้ดูเหมือนหินอ่อน สามารถล่องเรือไปยังเกาะทะเลสาบด้านใต้ได้จากท่าเรือที่อยู่ใกล้ๆ

ถ้าเดินทางมาช่วงฤดูร้อน คงเห็นเรือเหล่านี้ล่องลอยไปมาในทะเลสาบ

มองเห็นสะพานสวยๆ

น้องๆ ขอถ่ายภาพกับไกด์สาว ... แช๊ะ!

มองเห็นหิมะเป็นหย่อมๆ

เห็นป้ายห้ามเหยียบแบบเข้าใจง่ายๆ ไม่ต้องแปล

พบกับบรรยากาศเต้นรำอย่างมีความสุขอีกแล้ว ช๊อบ ... ชอบ

ถึงทางออกแล้ว ถือว่าเดินไกลพอสมควรในเช้าวันนี้ แต่ก็เพลินมากจากทิวทัศน์และอากาศหนาวเย็น ซึ่งถ้ามาเดินช่วงฤดูร้อน คงดื่มน้ำหมดไปหลายขวด

คนจีนกับการค้าขาย เป็นของคู่กัน

ได้อุดหนุนผลไม้สดๆ มาทานเล่นกันระหว่างเที่ยวและอยู่บนรถ มาติดตามสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ต่อไปเร็วๆ นี้