วัดใหญ่ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ถือเป็นสักการสถานที่สวยงามที่สุดในปักกิ่ง และเป็นวัดพุทธนอกทิเบตที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ "วัดลามะ" แห่งนี้

ขอบันทึกภาพที่ระลึกกันก่อน ... แช๊ะ!

อีกแช๊ะ!

ต้องเดินเข้าไปทางนี้ มองเห็นอุโมงค์ต้นไม้ในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ จึงได้เห็นแต่กิ่งไม้แห้งๆ สวยไปอีกแบบ

ก็เห็นมีแต่ "ต้นสน" ที่ทนความหนาวได้ ยังคงเขียวสวยงามอยู่

และท้องฟ้าสวยใสไร้เมฆ

ภายในประกอบด้วย วิหารหลัก 5 หลัง แต่ละหลังจะสูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และประดับด้วยรูปแกะสลักวิจิตรงดงาม จากประตูทางเข้าจะมองเห็น หอกลองและหอระฆัง (Drum and Bell Towers) ตั้งอยู่บริเวณลานหน้าสุดจากประตูทางเข้า ปัจจุบันระฆังใบใหญ่ได้ถูกย้ายจากหอสูงลงมาตั้งที่พื้น

วิหารหลังแรก "Hall of the Heavenly Kings" ประดิษฐานพระสังกัจจายน์ หลังพิงกับพระพุทธรูปผู้ปกปักรักษาพระธรรมวินัย และยังประดิษฐานท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่

สิงโตขนาดใหญ่ บ่งบอกให้รู้ว่าหมู่วิหารนี้ เคยเป็นตำหนักองค์ชายหย่งเจิ้ง ซึ่งต่อมาได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิในปี ค.ศ. 1722 พระองค์จึงทรงทำตามประเพณี คือ พระราชทานตำหนักเดิมให้วัด

มีผู้คนมาสักการะกันเป็นจำนวนมาก ด้วยความศรัทธา

เดินผ่านเข้ามายังวิหารหลังถัดไป

วิหารหลังที่ 2 (Hall of Eternal Harmony) ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ หมายถึง พระพุทธเจ้าในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต รวมทั้งรูปพระอรหันต์ 18 องค์

มองเห็นลูกอะไรเต็มต้น ตามมาก่อนเดี๋ยวค่อยเฉลย

วิหารหลังที่ 3 (Hall of Eternal Protection) ประดิษฐานพระพุทธรูปแห่งการมีอายุยืนและการแพทย์ และแขวน "ทังกา" 2 ผืน ที่เลื่องลือว่าเป็นฝีมือของพระมารดาจักรพรรดิเฉียนหลง

ลูกส้มๆ ที่เห็นก็คือ "พลับ" (Persimmon) นั่นเอง

เป็นการจุดธูปที่ร้อนแรงไม่เบา ... ทั่วทั้งวัดมีกระธางธูป ตั้งอยู่หน้าโต๊ะบูชา

สังเกตจากภาษาที่ไม่ใช่อักษรจีนทั่วไป

และยอดแหลมบนวิหาร ที่แสดงออกถึงศิลปะแบบทิเบต

วิหารหลังที่ 4 ตั้งรูปปั่นขนาดใหญ่สูง 6 เมตร ของ "ท่านซองขะปะ" ผู้ก่อตั้งพุทธศาสนานิกายหมวกเหลือง ซึ่งมีบทบาทการเมืองในทิเบตมานานหลายศตวรรษ

ซึ่งในวันที่เดินทางมา มีการทำพิธีกรรมและสวดมนต์ภายใน ผู้คนเยอะมากและมีโอกาสเข้าไปเดินรอบพิธีดังกล่าว

ชมภาพสะท้อนแห่งศรัทธาธรรม

กงล้อสวดมนต์ (Prayer Wheel) จะส่งให้ผู้สวดขึ้นสวรรค์

โดยหมุนตามเข็มนาฬิกา

วิหารหลังที่ 5 ท้ายสุด (Hall of Thousand Happinesses) ประดิษฐานพระพุทธรูปสูง 25 เมตร ที่แกะสลักจากไม้จันทน์ต้นเดียว

และต้องไม่พลาดที่เข้าไปชมด้านหลังของวิหาร มีการแสดงพระพุทธรูปแบบทิเบต ซึ่งมีปางแบบ "อิโรติค" ที่ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อนอยู่จำนวนมาก และยังมีศิลปวัตถุที่งดงามอีกมาก

ถือเป็นการมาวัดจีน ที่แปลกแตกต่างจากวัดอื่นๆ ที่ไปมา

เป็นการท่องเที่ยวที่ได้สักการะ และชมศิลปะของสถาปัตยกรรม ศิลปวัตถุที่แปลกแตกต่าง เป็นความสุขในการท่องเที่ยวอีกอย่างหนึ่ง

ของที่ระลึก ก็มีวางจำหน่าย

ไว้เอนทรีต่อไป ขอเป็นการนำไฮไลท์จุดอื่นๆ ที่พบเห็นมารวมฮิตในเอนทรีปิดท้ายทริปนี้ และเตรียมพบกับเอนทรีทริปต่อไปแบบมหากาพย์ 50 ตอน เร็วๆ นี้