Disable Preloader




เส้นทางที่สวยสุด หยุดสะกดทุกสายตา มุ่งหน้า หวงหลง

ด้วยความตั้งใจว่าจะนำภาพของอุทยานแห่งชาติหวงหลง มาโพสต์ต่อจากเอนทรีที่แล้ว แต่พอนำรูปมาคัดเลือก อดไม่ได้ที่จะขอแทรกอีกซักหนึ่งเอนทรี ซึ่งเป็นเส้นทางสีขาวสวยอีกบรรยากาศหิมะขาวโพลนแต่ก็แตกต่างจากเอนทรีที่แล้ว

จากเส้นทางหิมะขาวกับต้นสนสวยงาม ก็เริ่มเข้าสู่บริเวณที่ราบ มองเห็นบ้านเรือนสไตล์ทิเบต

เป็นเส้นทางที่มีความสวยงามได้บรรยากาศและกลิ่นอายความเป็นทิเบต

มีชาวสวน ชาวไร่ กำลังปลูกผักแปลงใหญ่

มองเห็นตัวอักษรขนาดใหญ่ น่าจะเป็นภาษาทิเบต แถมนกโบยบินอยู่ตรงนั้น ไม่นานนักจากจุดนี้จะได้เวลาแวะพักอีกครั้ง

ซึ่งพวกเราก็แวะชิมชากันก่อนรับประทานอาหารกลางวัน เพื่อเติมพลังก่อนเดินตลุย อุทยานแห่งชาติหวงหลง (Huánglóng) ตลอดบ่ายวันนี้

ซึ่งใบชาในแถบนี้จะแตกต่างจากใบชาอื่นๆ โดยจะมีใบเรียวยาว รสชาดออกไปทาง ชาเขียว อย่างนี้นี่เอง!

จากร้านใบชา นั่งรถไม่นานนัก ก็มากันต่อที่ภัตตาคารอาหารจีน ขอแช๊ะ! ภาพเป็นที่ระลึกซักภาพ

ศิลปะสวยงาม มีส่วนคล้ายใกล้เคียงกับตอนที่พวกเราไปท่องเที่ยวที่ประเทศ ภูฏาน กันเมื่อปีที่แล้ว

ภาพนี้เป็นการยืนยันชัดเจนว่า ที่นี่ ประเทศจีน อย่างแน่นอน ... ด้วยสถาปัตยกรรมที่บ่งบอก แต่ทว่าฉากหลังนี่ดูยุโรปจริงๆ

หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางต่อ มุ่งตรงสู่ อุทยานแห่งชาติหวงหลง (Huánglóng) เส้นทางเริ่มไต่ระดับความสูง

เห็นเจ้าจามรี ยืนอยู่ตรงนั้น เท่ห์มว๊าก!

บริเวณนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน

เริ่มเห็นความสวยงามของถนนที่คดเคี๊ยวไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ

ไม่นานนัก ต้นสนต่างๆ เริ่มหายไป แสดงว่าขึ้นมายังบริเวณที่มีความสูงและปกคลุมด้วยหิมะ

อิจฉาม้าตัวนี้ดีมั้ย ยืนชมวิวสวยอยู่ตรงนี้ แต่ทว่าคงหนาวพอดู

ทุกสายตาของผู้ร่วมเดินทางในรถ เริ่มดื่มด่ำความงดงามจากธรรมชาติที่เราคนไทย ไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้ง่ายนัก

ทำเอาสะกดทุกสายตาให้สนุก และสุขไปกับการชมความงามธรรมชาติ

ไม่เพียงแต่ความงามจากทิวเขา แต่ทว่าแหล่งน้ำและท้องฟ้า ช่วยผสานและส่งเสริมกันให้สวยงามสมบูรณ์แบบ

ถนนที่เอียงไต่ระดับความสูงขึ้นในภาพ

 อาจจะพูดได้ว่า บริเวณนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของหลังคาโลกก็ว่าได้

หากมองจากภูมิศาสตร์ทิวเขานี้ก็จะเป็นผืนที่เชื่อมโยงกับเทือกเขาหิมาลัย

ภาพนี้ตั้งใจจะถ่ายให้เห็นรูปรถบัสของพวกเรา ที่กำลังไต่ระดับขึ้น

หิมะสวยขาวบริสุทธิ์ กับท้องฟ้าสวย

อยากเห็นภาพแบบนี้ด้วยสายตาตัวเองได้ ไม่ไกลจากเมืองไทยนัก โดยเดินทางมายังเมืองเฉินตู กับโปรแกรม จิ่วจ้ายโกว-หวงหลง รับรองได้ชมภาพแบบนี้อย่างแน่นอน และช่วงเหมาะสมในการท่องเที่ยวที่สุด จะอยู่ในช่วงเดือน ตุลาคม ของทุกปี

ได้ไปศึกษาโปรแกรมท่องเที่ยวใหม่ๆ แถบนี้ เริ่มมีโปรแกรมสกีรีสอร์ตเพิ่มเข้ามาด้วย ถือเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ชอบกีฬาเมืองหนาว

มองภาพนี้ แอบนึกว่า กำลังอยู่ในบริเวณขั้วโลก จากที่เคยชมภาพสารคดีต่างๆ

รถบัสของพวกเราก็จอดยังจุดแวะพัก ให้ได้สูดอากาศเย็นบริสุทธิ์ และบันทึกภาพเป็นที่ระลึกกัน

แช๊ะ!

แช๊ะ!

แช๊ะ!

ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ทริปนี้คุ้มสุดๆ

ประทับใจในหลายๆ อย่างที่ได้พบเห็น

ที่สำคัญ เดินทางไม่ไกลจาก กรุงเทพฯ โดยบินตรงถึงเมืองเฉิงตู แต่ก็ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถบัสแต่ก็ได้ชมความงามทางธรรมชาติได้เต็มที่

ซึ่งทริปของเราเดินทางแบบวงกลม คือ เดินทางไม่ซ้ำเส้นทางเดิมได้วิวไม่ซ้ำ เริ่มจากเฉิงตูไปจิ่วจ้ายโกวด้วยเส้นทางหนึ่ง และกลับเฉินตูด้วยเส้นทางเม่าเสี้ยนอีกเส้นทางหนึ่ง ทำให้เราได้เห็นสภาพความเสียหายที่ยังเหลืออยู่ เมื่อครั้งแผ่นดินไหวครั้งใหญ่กว่า 7.9 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

จะเห็นได้ว่าธรรมชาตินั้น ก็มีทั้งคุณและโทษปะปนกันไป ... เส้นทางนี้สวยงามมาก แอบอิจฉาระบบคมนาคมของประเทศจีนที่ดีมาก ถนนคุณภาพดี ไม่เหมือนบ้านเราที่ใช้ไม่กี่ปีก็ต้องซ่อมใหม่ เพราะถูกกินหินกินทรายกันไป

 เหมือนการที่เราใช้เงินไม่คุ้มค่า ใช้ภาษีไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย คงจะพัฒนาประเทศไปได้ไม่รวดเร็ว ซึ่งต้องดูประเทศจีนเป็นแบบอย่างในเรื่องความเข้มเรื่องห้ามโกงกิน

ชมความงามของเส้นทางต่อดีกว่า ไม่รู้วกมาการเมืองได้อย่างไร มาวกวนกับถนนกันต่อดีกว่า

เอาเป็นว่า ทุกอย่างย่อมมีทั้งดีและไม่ดี ปะปนกันไป เพียงแต่ต้องร่วมมือกันปกป้องและรักษาความดี ความถูกต้อง และคัดค้าน ห้ามปราม ความไม่ถูกต้อง จะได้อยู่กันอย่างสงบสุข

ใช้ความเย็น ลดความร้อนแรง ... ใช้สีขาว ลดสีดำ

เอนทรีต่อไปจะพาไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติหวงหลง (Huánglóng) ที่สวยงาม และเป็นความอัศจรรย์ของธรรมชาติอย่างแท้จริง