หลังจากที่ตั้งใจไว้หลายต่อหลายปี ที่อยากมาท่องเที่ยวยัง อุทยานธารสวรรค์ "จิ่วจ้ายโกว" จนมาปีนี้ สามารถหาสมัครพรรคพวกที่อยากมาชมความงามธรรมชาติที่งามดั่งสวรรค์ได้ 10 กว่าคน จึงได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเก็บภาพความงามมาแบ่งปันกัน
ทางบริษัทฯ ทัวร์ จัดรถเหมาอุทยาน มารอรับตั้งแต่เช้าที่หน้าโรงแรมที่พัก ซึ่งเมื่อคืนนี้เราพักที่เมืองจิ่วจ้ายโกวแห่งนี้
ไม่เช่นนั้น เราคงต้องเดินเท้าจากหน้าโรงแรม มายังหน้าอุทยานจิ่วจ้ายโกว ซึ่งที่เห็นในภาพ จะมีผู้ที่มาท่องเที่ยวประมาณ 5 หมื่นคนต่อวัน ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งถือเป็นช่วงที่สวยที่สุด
เมื่อรถมาถึง เราก็เดินลงมาหน้าประตูทางเข้า และรับบัตรเข้าอุทยานคนละหนึ่งใบ
และเดินผ่านประตูเข้าไปภายใน เพื่อไปขึ้นรถเหมาอุทยาน ซึ่งจอดรอพวกเราไว้แล้ว
เมื่อรถแล่นเข้าสู่อุทยาน ก็เริ่มเห็นต้นไม้เปลี่ยนสี ทำให้ตื่นเต้นว่าจะได้พบกับความงามอะไรบ้างต่อจากนี้
มองเห็นนักท่องเที่ยว ตากล้อง ยายกล้อง มายืนถ่ายภาพกันแต่ละจุด
บวกกันเริ่มเห็นลำธารข้างทาง ซึ่งมีน้ำเป็นสีเขียว ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น
ไม่นานนัก เริ่มเห็นสายน้ำเป็นสีฟ้าสดใส ... โอ้ว!
เป็นความงามที่ไม่สามารถบรรยายให้เห็นภาพเป็นคำพูดหรือตัวอักษร จึงต้องใช้ภาพในการบรรยายแทน
เริ่มเห็นผืนน้ำขนาดใหญ่ ทำให้เริ่มนั่งไม่ติด กดชัตเตอร์เป็นการใหญ่ ซึ่งเราจะเดินทางเข้าไปจุดชมด้านในก่อน และในขากลับเราจึงมาจอดแวะทะเลสาบแรดแห่งนี้
จิ่วจ้ายโกว มีความหมายว่า หุบเขาเก้าหมู่บ้าน ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ และไม่ให้มีการพักอาศัยแล้วในเขตนี้ ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเทือกเขาหมินซาน และอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน
ซึ่งประกอบไปด้วย ทะเลสายแรด ทะเลสาบมังกรหลับ ทะเลสาบซูเจิง และอีกหลายทะเลสาบนับสิบแห่งภายในอุทยาน รวมทั้งน้ำตกที่มีความสวยงามอีกจำนวนมาก โดยท่องเที่ยวอย่างเต็มอิ่มตลอดทั้งวัน
ด้วยความยิ่งใหญ่และสวยงามจากธรรมชาติที่บริสุทธิ์ สมกับที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2535
มีน้ำตกขนาดกว้างใหญ่ ที่มีสายน้ำลดหลั่นให้ได้ชมไปตลอดทาง อากาศที่เย็นสบายและสดชื่น
ชื่นชมความงามของต้นไม้เปลี่ยนสี เพิ่มสีสันตามธรรมชาติ
ขอแนะนำข้อสำคัญ คือ การมาท่องเที่ยวที่อุทยานนั้น ต้องเลือกทัวร์ที่จัดรถเหมาอุทยานในโปรแกรมเท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะเสียเวลารอรถประจำทางของอุทยาน ในแต่ละจุด ซึ่งต้องรอคิวยาวมาก
รถอุทยานแล่นผ่านมองเห็นน้ำตกอยู่ใกล้ๆ จึงบันทึกภาพไว้ระหว่างรถกำลังแล่น
รถของเราพามาแวะยังจุดแรก เพื่อลงไปบันทึกภาพ "น้ำตกซูเจิง"
ต้องขอบันทึกภาพไว้เป็นที่ระลึกกัน
เป็นน้ำตกที่ไม่สูงนัก แต่มีขนาดกว้างใหญ่
ต้องถ่ายภาพแบบพาโนรามา เพื่อให้เห็นความสวยงามมุมกว้าง
กดที่ภาพด้านบนนี้ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่
ละอองน้ำใสเย็น ปลิวเข้ามาให้สัมผัส
ซึ่งยังมีน้ำตกที่สวยกว่านี้อีกหลายจุด ซึ่งจะพาชมในเอนทรีต่อๆ ไป
พาเที่ยวชมโดย หนุ่ม(ใหญ่)เกาหลี(เหนือ)
ขอบันทึกภาพหมู่กันก่อนเดินทางกันต่อไปยังจุดเที่ยวชมถัดไป
ไม่เช่นนั้น นักท่องเที่ยวที่เราเห็นกำลังเดินจากโรงแรม มายังประตูทางเข้าอุทยาน กว่า 5 หมื่นคนต่อวัน เข้ามาสมทบ คงจะไม่สามารถถ่ายภาพแบบโล่งๆ แบบนี้เป็นแน่
ระหว่างเดิน ก็มีลำธาร น้ำตกขนาดเล็กตลอดทางเดิน ซึ่งต้องชื่นชมที่ทำทางเดินอย่างดี ไม่ลื่น ในทุกจุดที่เดินท่องเที่ยว
ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีแล้ว ได้ชมแบบใกล้ๆ
เดินทางมาขึ้นรถเหมาอุทยานที่รอรับเฉพาะกรุ๊ปเราเพื่อเดินทางกันต่อ
ระหว่างรถแล่นไป ก็มองเห็นทะเลสาบข้างทางเป็นสีฟ้า จนต้องร้อง โอ้ว! ว้าว!
ซึ่งก็คือ ทะเลสาบนกยูง ที่สวยงาม
เมื่อมองเงยขึ้นไปบนเขา จะเห็นต้นไม้เปลี่ยนสี ยิ่งเพิ่มความงามให้ทะเลสาบเหมือนนกยูงระแพนหาง
ไว้มาติดตามในเอนทรีต่อๆ ไป เร็วๆ นี้ จะนำเสนอทะเลสาบนกยูงให้เต็มอิ่ม จุใจอย่างแน่นอน