Disable Preloader




ตามรอยหนัง อวตาร ต้องมาอุทยานแห่งชาติ จางเจียเจี้ย : ตอนที่ 2

หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงในเมืองจางเจียเจี้ย พวกเราก็นั่งรถกลับมายังทางเข้าบริเวณอุทยานจางเจียเจี้ยอีกครั้ง เพื่อขึ้นรถบัสของอุทยานฯ เพื่อพามาส่งยังบริเวณที่ขึ้นกระเช้า

กระเช้าไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ยิ่งพบกับแท่งหินที่สวยแปลก ต้นไม้ที่ขึ้นแทรกตัวยิ่งทำให้ดูสวยงาม

ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ก็มาถึงยอดเขา

และมองเห็นแท่งหินแหลม แถมอากาศหนาวเย็น

เมื่อลงจากกระเช้า พวกเราก็เดินกันต่อ และมีการแวะถ่ายภาพกัน

ไกด์ของเรา แนะนำให้ไปชมจุดไฮไลท์ต่างๆ เช่น เขาพู่กัน, เขาจักรพรรดิ, เขาสวนสวรรค์ และภาพต่อไปนี้ที่เห็น คือ เขานางฟ้าโปรยดอกไม้

หากสังเกตที่กลางภาพ จะมองเห็นหินเรียงราย รูปคล้ายนางฟ้าเดินเรียงกัน และกำลังโปรยดอกไม้อยู่

 มองดูคล้ายป่าหินขนาดใหญ่

มีชื่อว่า เขาพู่กัน (Imperial Writing Brush Peaks)

เป็นความแปลกแตกต่าง ไม่เคยเห็นภูเขารูปทรงแบบนี้มาก่อน

เมื่อลองซูมขยายไปใกล้ๆ ยิ่งเห็นรายละเอียด ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์เหมือนเป็นผลงานศิลปะชิ้นงาม

ใกล้ๆ จะมีเจดีย์ซึ่งไม่ทราบรายละเอียด แค่เดินเข้าไปถ่ายภาพ และมองเห็นป้ายที่มีแต่ภาษาจีน ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่มีเอกสารแจกเพื่ออธิบายเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ ในนี้ มองเห็นแต่ป้ายไม้เพื่อบอกเส้นทาง แต่ก็เข้าใจว่า ทางการจีนคงกังวลว่า หากแจกเอกสารอาจกลายเป็นขยะภายในอุทยานฯ ได้ แต่ปกติมักจะหยิบเพื่อเก็บกลับมาเป็นข้อมูลในการเขียนบล๊อกได้ดี

ในบริเวณสวนแห่งนี้จะมีรูปสลักของนายพลเฮ่อหลง ซึ่งท่านนายพลเป็นหนึ่งในขุนพลชาวท้องถิ่นจางเจียเจี้ย ที่ยืนหยัดปฏิวัติร่วมกับ ท่านประธาน เหมาเจ๋อตุง แห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ระหว่างเดินผ่านสวนแห่งนี้ ก็อดเก็บภาพสวยแบบแห้งๆ แบบนี้ไม่ได้

พวกเรานั่งรถอุทยานฯ กันต่อ เพื่อมายังบริเวณเขาเทียนจื่อซาน และมาชมจุดที่เป็นไฮไลท์ของทริปนี้

ไกด์ของเรากำลังอธิบายเส้นทาง โดยให้เดินเลี้ยวซ้ายไปตลอดเส้นทาง

เริ่มตื่นตาตื่นใจมองลอดผ่านพุ่มไม้ออกไป

กำลังเดินไปยังสะพานหินธรรมชาติขนาดใหญ่ มีชื่อว่า เทียนเสี้ยตี้อี้เฉียว (สะพานใต้ฟ้าอันดับ 1)

 เป็นสะพานหินธรรมชาติขนาดยักษ์ ลองมองเทียบกับตัวคนที่กำลังเดินอยู่ตรงนั้น

หลายชายคนเล็กเดินนำกลุ่มพวกเรา ท่าทางจะชื่นชอบการท่องเที่ยว

มองลอดสะพานหิน ก็ยังเห็นภูเขาอื่นๆ ที่ยังสวยงามและลึกลับอยู่จำนวนมาก ว่ากันว่าทหารชาวจีนเคยพยายามลงไปสำรวจข้างล่าง แต่ก็ได้ยินเสียงแปลกๆ มีสัตว์ร้าย และมืดมาก เนื่องจากถูกปกคลุมด้วยต้นไม้สูง จึงต้องล้มเลิกภารกิจไป

แอบดีใจที่ได้เห็นดวงอาทิตย์ เพราะอยากได้แสงสีทอง สาดส่องไปยังแท่งหินเพื่อสะท้อนเป็นสีส้ม

แม้จะไม่ได้เห็นปุยเมฆหมอกในฤดูกาลนี้ ก็ขอแสงสีทองเพิ่มสีสันแทนแล้วกัน

เขาเทียนจื่อซาน (天子山)  ตั้งอยู่ในเขตเอี๋ยนเจียเจี้ย มีเนื้อที่ 65 ตารางกิโลเมตร บนยอดเขาเทียนจื่อซานสูงประมาณ 1,250 เมตร

อุทยานแห่งชาตินี้โด่งดังภายหลังจากภาพยนตร์ฮอลลีวู๊ด ได้นำภาพของเสาหินและแท่งหินเหล่านี้ มาเป็นฉากในภาพยนตร์เรื่อง อวตาร (Avatar) ทั้งที่ผู้กำกับชื่อดัง เจมส์ คาเมรอน ไม่ได้เดินทางมาถ่ายทำหรือเก็บบันทึกภาพที่นี่มาก่อน

แต่ภายหลังที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จมากๆ และผู้กำกับท่านนี้ จึงได้เดินทางมาชมความงามในฉากของ ดินแดนแพนดอร่า ด้วยตาตัวเอง

เดินไป ชมไป ถ่ายรูปไป

พยายามเดินเร็ว เพื่อไปให้ถึง เสาอวตาร ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน

ไม่นานนัก ก็มาถึงจุดหมายแล้ว "เสาอวตาร"

เราทำสำเร็จแล้ว .. เย้!

สำหรับเสาอวตาร (The Immortal Pine) นี่้ ทางการจีนเป็นผู้ตั้งชื่อ เพื่ออ้างอิงกับภาพยนตร์เรื่อง อวตาร (Avatar) นั่นเอง ทั้งที่ถูกคัดค้านจากประชาชนชาวจางเจียเจี้ย ให้ใช้ชื่อภาษาจีนแทน แต่ก็ต้องยอมรับว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ช่วยให้คนรู้จักสถานที่นี้อย่างมาก

ขอกดไลค์ ถูกใจ ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์

 น้องๆ และหลาน ก็มาบันทึกภาพประทับใจในมุมนี้กัน

 ขอเก็บภาพด้วย ... แช๊ะ! 

 เป็นความอัศจรรย์ที่แท่งหินเหล่านี้มาอยู่รวมกันได้อย่างไร

 คล้ายกับถูกกัดเซาะลง จนกลายเป็นแท่งหิน สูงเสียดฟ้า

 มาวัดใจกันต่อกับทางเดินข้ามช่องเขา มองลงไปลึกมากๆ

 จัดแจงถ่ายภาพแบบพาโนรามาให้เห็นว่า กำลังยืนอยู่ในจุดนี้และมองเห็นเสาอวตารที่สูงตระหง่านยังไม่นับรวมส่วนที่อยู่ใต้ระดับความสูงต้นไม้ด้านล่าง

 หลังจากผ่านข้ามสะพานเหล็ก ก็เดินต่อตามทางเดินก็ได้พบกับเจ้าลิงกัง ซึ่งอาศัยอยู่ตามธรรมชาติ และในเอนทรีที่แล้วมองเห็นอยู่ 5 ตัว ภายในกรง นอนกอดกันกลมเพื่อความอบอุ่น 

 ดวงอาทิตย์กำลังสาดแสงสุดท้ายของวันนี้

เพิ่มอรรถรสในการชมอย่างยิ่ง

มีหุ่นนกยักษ์จากหนังเรื่อง อวตาร เพื่อให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปขี่เพื่อถ่ายภาพ สนนราคา 10 หยวน 

 ดีใจที่ได้แสงทองสาดส่อง ช่วยเพิ่มสีสัน ซึ่งตอนแรกกลัวจะเห็นแต่ภาพหมอกขมุกขมัวเท่านั้นในฤดูหนาวเช่นนี้

 ยิ่งทำให้เห็นภาพความยิ่งใหญ่ อลังการแบบพาโนรามา

 ประทับใจในสถานที่นี้ และตั้งใจว่าจะกลับมาท่องเที่ยวอีกในฤดูกาลอื่นดูบ้าง

 แต่ข้อดีของฤดูกาลนี้คือ นักท่องเที่ยวจำนวนไม่มากนัก สามารถถ่ายภาพกันได้อย่างสะดวก

 แถมได้สัมผัสอากาศหนาวเย็นแบบสุดขั้ว

 สูดอากาศที่บริสุทธิ์สดชื่น

จนกระทั่งดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ก็ได้เวลาลงลิฟท์แก้วไป่หลงเทียนที (天子山) เป็นลิฟท์แก้วที่ตั้งอยู่บนเขาแห่งเดียวในโลก ด้วยความสูง 326 เมตร

ด้วยความเร็วประมาณ นาทีกว่าๆ ก็พาลงมาจากระดับความสูง 326 เมตร เพื่อมาต่อรถอุทยานฯ พามาส่งยังประตูทางออกของอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย

เป็นทริปหนึ่งที่ได้ท่องเที่ยวธรรมชาติ การเดินทางสะดวก โดยมีการทำทางเดินขนานไปกับภูเขา ได้ชมภาพสุดอลังการของธรรมชาติ ทำให้มีความประทับใจ และจะหาโอกาสกลับมาท่องเที่ยวอีกอย่างแน่นอน