ด้วยความชื่นชอบการท่องเที่ยวประเทศจีนเป็นพิเศษ อีกทั้งได้เดินทางไปเที่ยวหลากหลายเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงต่างๆ มาแล้ว แต่ทว่ายังไม่มีโอกาสมาท่องเที่ยวที่เมืองลี่เจียง (Lijiang) ซักที
ถามเพื่อนๆ หลายคนก็มาเที่ยวกันแล้ว พร้อมกับบอกว่าสวยมาก จนกระทั่งสัปดาห์ที่แล้วจึงถือโอกาสมาสัมผัสเมืองลี่เจียง (Lijiang) แห่งนี้ว่าจะสวย น่าประทับใจขนาดไหนกันเชียว เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาทางตอนเหนือของเมืองต้าหลี่ (Dali)
รถบัสของพวกเราพาลัดเลาะขนานไปกับทิวเขาที่มีชื่อว่า ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) ด้วยความตื่นเต้น พลันหยิบกล้องคู่ใจถ่ายภาพผ่านกระจก เพื่อบันทึกความประทับใจแรกของภูเขาแห่งนี้
ภูเขาที่มีหิมะปกคลุมด้านบนตลอดทั้งปี ซึ่งตั้งอยู่ราว 15 กิโลเมตร จากเมืองลี่เจียง ด้วยความสูงถึง 5,596 เมตร จากระดับน้ำทะเล
แม้บริเวณที่รถบัสแล่นผ่านนี้ ก็ยังอยู่ที่ความสูงถึง 3,100 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ขนาดถุงขนมยังพองได้ขนาดนี้ และยังมองเห็นสระน้ำจำนวนมากอยู่ระหว่างทาง ซึ่งไกด์ได้เล่าให้ฟังว่า ทางการเพิ่งขุดสระเหล่านี้และมีน้ำใส่ไว้เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้น นำไปสู่การเกิดฝนและหิมะตกเหนือยอดเขาหิมะมังกรหยก
อย่างที่เราทราบถึงปัญหาสภาวะโลกร้อน (Global Warming) ที่กำลังรุนแรงขึ้นในขณะนี้ ทำให้ปริมาณหิมะลดลง ไม่เพียงแต่ที่ภูเขาแห่งนี้ ยังเกิดขึ้นกับทุกๆ จุดรอบโลก จึงต้องชื่นชมรัฐบาลจีนที่ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ ซึ่งไม่เพียงแต่กระทบแหล่งท่องเที่ยวระดับ AAAAA ของประเทศจีนแห่งนี้
ซึ่งหาทางแก้ไข อีกทั้งในบริเวณสถานที่แห่งนี้ ยังเข้มงวดในเรื่องของไฟ ซึ่งมีการห้ามในเรื่องของสิ่งต่างๆ ที่จะเป็นต้นเหตุให้เกิดไฟป่าอีกด้วย เพราะถ้าเกิดเหตุไฟป่า คงยากมากและใช้เวลานับร้อยปีกว่าจะฟื้นคืนสภาพดังเดิม
ถือเป็นการดีที่สถานที่แห่งนี้ ตั้งอยู่ในประเทศจีน เพราะต้องใช้ระเบียบที่เคร่งครัดบังคับให้ได้ผลจริง เพื่อรักษาธรรมชาติเหล่านี้สืบต่อไปตราบนานเท่านาน
พวกเราเดินทางมาถึงบริเวณที่เข้าไปชมการแสดงที่มีชื่อว่า "Impression Lijiang" ก็ลงรถและเดินเข้ามาบริเวณทางเข้า
เพื่อให้ทันการแสดงในเวลาประมาณ 9.00 น.
ซึ่งเป็นการแสดงทั้งร้องและเต้นกลางแจ้งของชาวบ้านกว่า 600 ชีวิต ที่แต่งตัวสีสันสวยงาม แสดงออกถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนาซี่ (Naxi), ชาวไป๋ (Bai) และ ชาวยี่ (Yi)
ซึ่งได้ จางอวี้โหมว (Zhang Yimou) ผู้กำกับฝีมือเยี่ยมและมีชื่อเสียงก้องโลกเป็นผู้กำกับการแสดง
ซึ่งได้เนรมิตเวทีการแสดงกลางแจ้งสีแดงขนาดใหญ่ขึ้นมา โดยมีภูเขาหิมะมังกรหยกอันยิ่งใหญ่เป็นฉากหลัง
ด้วยความโชคดีที่วันนี้ ฟ้าใสเป็นใจไร้เมฆ ทำให้มองเห็นภูเขาหิมะมังกรหยกได้สวยงามชัดเจน ถือเป็นความประทับใจก่อนการแสดง
เริ่มการแสดงจากชาวบ้านโดยใช้เวลาการแสดงราว 1 ชั่วโมง
รวมถึงแสดงการขี่ม้า ให้เห็นถึงการใช้ม้าเป็นพาหนะสำคัญในดินแดนที่เต็มไปด้วยเทือกเขา
ในระดับความสูงกว่า 3,000 เหนือระดับน้ำทะเลเช่นนี้ ชาวบ้านยิ่งมีความแข็งแรง เพราะต้องอยู่ในสภาวะอากาศเบาบาง อีกทั้งการใช้เสียงตะโกนเรียกกัน จึงทำให้การแสดงร้องก้องกังวาลไปทั่วโดยไม่ต้องใช้เครื่องขยายเสียง
สำหรับ ภูเขาหิมะมังกรหยก หรือ อวี้หลงเซี่ยซาน ที่มองเห็นเป็นฉากหลังนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลี่เจียง เพราะไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็สามารถมองเห็นภูเขาหิมะมังกรหยก ที่ประกอบด้วยยอดเขารวม 13 ยอด ทอดยาวคล้ายตัวมังกรที่กำลังเลื้อยอยู่
บนยอดเขายังมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดทั้งปี ซึ่งสีขาวของหิมะที่ปกคลุมดูราวกับหยกขาว ที่ตัดกับสีน้ำเงินของท้องฟ้าอันสดใส
ทำให้ดูเหมือนกับมังกรขาวบนฟากฟ้า จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อ "ภูเขาหิมะมังกรหยก" (Jade Dragon Snow Mountain)
เป็นภาพที่สวยงามประทับใจในการถ่ายภาพ เพราะได้จังหวะของท้องฟ้า และเมฆขาวล่องลอยเล็กน้อย
การแสดงดูตระการตา เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง
ซึ่งเป็นดนตรีบรรเลงตลอดการแสดง และมีการร้องสดประกอบในบางช่วงเป็นภาษาจีน ซึ่งบล๊อกเกอร์ไม่เข้าใจความหมายอย่างแน่นอน
แต่ก็พอคาดเดาในบางช่วงได้
อย่างในตอนที่ สาวเจ้าจะต้องพลัดพรากกับชายหนุ่ม
ย่อมต้องอาลัยอาวรณ์อย่างแน่นอน เพราะไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจะได้พบกันอีก
เพราะการเดินทางอันยากลำบาก อีกทั้งย่อมมีการเสี่ยงอันตรายจากการเดินทางอย่างแน่นอน จึงเป็นฉากสะเทือนใจในการแสดงชุดนี้
เป็นการยากที่จะคาดเดาสภาพฟ้าอากาศในการแสดง เพราะเป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริง ไม่สามารถกำกับฉากหลังได้อย่างแน่นอน
ไกด์จีนยังออกปากว่า วันนี้ฟ้าเปิดและไม่มีเมฆ ซึ่งไม่ค่อยได้พบบ่อยนัก ถือเป็นโชคดีในการเห็นภาพที่สวยงามในวันนี้
แต่ก็มีเพียงเมฆที่ลอยผ่านบริเวณยอดเขาไปอย่างรวดเร็ว
เป็นความประทับใจซึ่งไม่ง่ายนักที่จะได้ชมการแสดงกลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่แบบนี้
มีการแสดงตีกลองทั้งบนยอดของเวที และยังมาเดินตีในบริเวณอัฒจรรย์ของผู้ชมอีกด้วย ให้ได้ตื่นเต้นจากเสียงกลอง
ถือเป็นการแสดงที่ผสานทั้งวิถีชีวิต และฉากหลังของธรรมชาติ ซึ่งภาพแบบนี้เป็นภาพที่เคยได้เห็นมาก่อน อีกทั้งกระตุ้นความอยากให้มาสัมผัสด้วยสายตาตนเอง
เชื่อว่าเป็นความประทับใจในภาพที่อยู่ตรงหน้าสำหรับผู้ชม
ลองชมภาพคลิปที่บันทึกไว้ด้วย ช่วยเพิ่มอรรถรสในการชม
ซึ่งปัจจุบันก็ถ่ายทอดผ่านสังคมออนไลน์ต่างๆ ต่างช่วยกันแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้
จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนจากเมืองอื่นๆ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยวไทยให้มาเยือนสถานที่แห่งนี้ เพียงนั่งเครื่องบินตรงจากสุวรรณภูมิ มาถึงยังเมืองลี่เจียง ประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ได้สัมผัสความงามของภูเขาหิมะมังกรหยกได้แล้ว
จึงเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวคนไทยก็ว่าได้ เชื่อว่าจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน ... เมืองลี่เจียง (Lijiang) แห่งนี้