Disable Preloader




มาถึง "เมืองเก่าซู่เหอ" ทำฉันเผลอรัก อยากกลับไปเยือนอีก

หากเดินทางมาที่เมืองลี่เจียงแล้ว นอกเหนือจากการเที่ยวที่ "เมืองโบราณต้าเอี้ยนเจิ้น" ซึ่งสร้างขึ้นในราชวงศ์ถังแล้ว ยังมีเมืองโบราณอีกแห่งที่เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุดของเมืองนี้ นั่นก็ "เมืองโบราณซู่เหอ" (Shaowu) ตามภาษาของชาว Naxi

ซึ่งพวกเราเดินทางมาถึงประมาณ 4 โมงเย็น อากาศกำลังเย็นสบายได้บรรยากาศเหมาะแก่การเดินเที่ยวชมหมู่บ้านโบราณย้อนไปในอดีตเช่นนี้

เมืองโบราณแห่งนี้อยู่ห่างจากใจกลางเมืองลี่เจียง เพียงประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาว Naxi เมื่อสมัยก่อนโดยเป็นเมืองเก่าที่รักษาอารยธรรมที่มีชื่อเรียกว่า Chama ไว้

จากครั้งก่อนที่เป็นวิถีชีวิตที่เน้นการเพาะปลูก ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นวิถีชีวิตการค้าขายแทน

ซึ่งสมัยก่อนถือเป็นจุดสำคัญของเส้นทางชาม้ายูนนาน หรืออาจเรียกอีกอย่างว่า "เส้นทางสายไหมใต้" และเป็นตลาดค้าเครื่องหนังในอดีต ในสมัยราชวงศ์หมิง มีผู้ปกครองแซ่ถู ได้ว่าจ้างช่างกลุ่มหนึ่งมาจากทางใต้มาทำผลิตภัณฑ์เครื่องหนังต่างๆ และอยู่อาศัยในที่แห่งนี้ จนทำให้หมู่บ้านแห่งช่างปะรองเท้าที่ลือชื่อระหว่าง มณฑลยูนนาน มณฑลเสฉวน และ ทิเบต มีการผลิตรองเท้าหนัง อานม้า เสื้อผ้าเครื่องหนัง สายเชือก เครื่องโลหะ และเครื่องไม้ไผ่

ถือโอกาสแวะร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ข้างๆ สะพานแห่งนี้ ถือโอกาสเข้าสุขา และใช้ Free WIFI ของร้านกาแฟ เพื่อเช็คอินปักหมุดในแผนที่ผ่าน Intragram และ Facebook ซักหน่อย

ดื่มกาแฟร้อนลาเต้ แก้วละ 20 หยวน และขนมปังเพียง 5 หยวน ซึ่งรสชาติกาแฟยูนนานดีมากๆ และที่สำคัญ คือ วิวภูเขาหิมะมังกรหยก ที่สามารถมองเห็นจากโต๊ะกาแฟ เพิ่มอรรถรสในการดื่มยิ่งนัก ดังภาพถัดไป

ชื่อเมืองโบราณ "ซู่เหอ" นั้น มีความหมายว่า "รวบรวมเงินทอง" อันหมายถึง ด้านหลังของหมู่บ้านมีภูเขา Jubao ที่มีลักษณะซ้อนทับกันเหมือนเป็นการเก็บสะสมเงินทอง จึงได้ตั้งชื่อหมู่บ้านตามชื่อของภูเขา และมีความหมายว่า "หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ภายใต้ภูเขาสูง"

นั่งจิบกาแฟกว่าครึ่งชั่วโมงจนเพลิน จึงออกมาเดินเที่ยวชมเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศโดยรอบ มองเห็นสภาพบ้านเรือนที่ได้รับการดูแลไว้อย่างดี น่าชื่นชมแม้ว่าจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมขนาดเล็กอยู่เป็นจำนวนมาก

แต่ก็ยังมีบ้านที่อยู่อาศัย ได้เห็นถึงวิถีชีวิต ความสดใสของหนูน้อย

ด้วยความชื่นชมสถานที่ท่องเที่ยว ที่ยังรักษาวิถีชีวิตแบบโบราณไว้

อีกทั้งการพักอยู่อาศัย มีการทำสวนทำไร่ เพื่อยังคงรักษาวิถีชีวิตที่มีมาดั้งเดิมให้สืบทอดและคงอยู่ต่อไป

จุดที่เป็นเสน่ห์ของเมืองนี้ คือ มีลำธารน้ำใสที่ขนานไปกับถนนทางเดินขนาดเล็กที่ปูด้วยก้อนหิน

มองเห็นร้านอาหารนำลังเบียร์และเครื่องดื่มมาแช่ กลายเป็นตู้เย็นธรรมชาติ

น้ำใสสะอาด แม้กระทั่งสาหร่ายสามารถเจริญเติบโตอย่างสวยงาม

เมื่อเดินลึกเข้าไปตามเส้นทางเล็กของหมู่บ้าน ยิ่งพบกับบ้านเก่า โรงแรมขนาดเล็กอยู่มากมาย

ยิ่งทำให้รู้สึกเสียดายที่เรามีเวลาเดินเล่นเมืองโบราณแห่งนี้เพียงชั่วโมงกว่าๆ ซึ่งอยากหยุดพักในหมู่บ้านนี้ เดินเที่ยวและถ่ายรูปไปด้วยซัก 2-3 วัน

แต่เราใช้เวลาที่ร้านกาแฟไปมากพอสมควรทำให้เหลือเวลาสัมผัสเมืองนี้เพียงครึ่งชั่วโมง จึงรู้สึกอยากกลับมาเยือน "เมืองโบราณซู่เหอ" แห่งนี้อีกในอนาคตอย่างแน่นอน

อยากเลือกมาพักโรงแรมที่อยู่ในเมืองเก่าแห่งนี้ จะได้มีเวลาในการเก็บเกี่ยวบรรยากาศได้อย่างเต็มที่

รวมไปถึง ร้านอาหาร และร้านกาแฟน่านั่งอยู่เต็มไปหมด

ไม่ว่าจะมองไปมุมไหน ก็มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ

และที่สำคัญคือ รู้สึกว่ามาเที่ยวประเทศจีนในระยะหลังๆ รู้สึกถึงความสะอาด ความมีระเบียบที่เปลี่ยนแปลงขึ้นมาก และความยิ้มแย้มของชาวจีน

ดูเวลาแล้ว ยิ่งรู้สึกเสียดายที่ต้องเดินกลับไปยังจุดนัดพบ ทั้งที่ยังอยากเดินต่อสำรวจไปอีก

มาเจอกับคู่บ่าวสาวกำลังถ่ายภาพแต่งงานอยู่พอดี

ตากล้องอย่างเรา ขอทำตัวเนียนว่าเป็นตากล้องมืออาชีพจากเมืองไทย มารับจ้างถ่ายคู่บ่าวสาวไกลถึงเมืองจีน

ต้องขอขอบคุณ คู่บ่าวสาว ที่มาเป็นนายแบบนางแบบ ให้บันทึกภาพบรรยากาศโรแมนติคของ เมืองโบราณซู่เหอ แห่งนี้

แดดร่ม ลมตก อากาศเริ่มเย็นขึ้นตามไปด้วย

เดินไป เสียดายไป อยากได้เวลามากขึ้นกว่านี้จริงๆ

หนูน้อยกำลังวิ่งเล่น หยอกล้อกัน

ด้วยความโชคดีที่ได้ภาพนางแบบวัยใสน่ารัก

รวมไปถึง เจ้าตัวเล็ก ตาละห้อย

เดินกลับมาถึงสะพานแรกที่เราแวะจิบกาแฟกันแล้ว

ชอบบรรยากาศเมืองนี้จริงๆ เชื่อว่าถูกใจทุกคนที่มาเยือนอย่างแน่นอน

เดินถัดไปเล็กน้อย เห็นมีการถ่ายแบบตรงสะพานนี้พอดี เราก็ถือโอกาสแช๊ะ! ภาพอย่างรวดเร็ว ไว้เป็นที่ระลึก

ก่อนจะรีบเดินกลับไปยังรถตามเวลานัดหมาย เดินไวตามสายน้ำที่ไหลหลากข้างๆ ทางเดิน เปรียบเสมือนประปาของแต่ละบ้านนั่นเอง

ถึงอย่างไรจะต้องกลับมาเที่ยวเมืองนี้อีกให้ได้

คุยกับไกด์ไว้แล้วว่า อาจเดินทางตรงมาที่ลี่เจียง แล้วจัดโปรแกรมเที่ยวเองโดยหาไกด์จีนคอยดูแล

ใช้เวลาให้เดินไปช้าๆ น่าจะเป็นการดี แอบมองบ้านโน้น บ้านนี้ แอบเห็นแอ๊ปเปิ้ลอยู่เต็มต้น

ทริปนี้จึงเหมือนเป็นการชิมลางไปก่อน ค่อยวางแผนเที่ยวแบบตามใจ ซึ่งยอมรับว่า มีความประทับใจเมืองลี่เจียง (Lijiang)

เมืองที่มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะมีเมืองโบราณอยู่ถึง 3 แห่ง และยังมีภูเขาหิมะมังกรหยก ที่เป็นฉากหลังที่สำคัญ อากาศที่เย็นสบาย

จึงขอแค่ลาที ... ลี่เจียง ... ไม่ใช่ ... ลาก่อน ... แล้วพบกันใหม่นะ จุ๊บๆ