สำหรับการเดินทางมาเที่ยวเมืองต้าหลี่ (Dali) ในทริปนี้ พวกเราใช้การบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ สู่เมืองลี่เจียง และในวันถัดไปก็เป็นการนั่งรถย้อนลงมาทางใต้ เพื่อมาเที่ยวและพักค้างคืนที่เมืองต้าหลี่หนึ่งคืน
จากเมืองลี่เจียง ซึ่งมองเห็นภูเขาหิมะมังกรหยกได้แทบจะทุกมุมของเมือง กับบ้านเรือนที่สวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ของเมืองลี่เจียง
มองเห็นผืนน้ำขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Lijiang Lashihai Wetland Park เป็นบรรยากาศที่สวยงาม และเป็นฉากหลังของภาพถ่ายได้อย่างลงตัว
เป็นการเดินทางในช่วงกลางเดือนตุลาคม จึงมองเห็นการเก็บเกี่ยวข้าว เห็นทุ่งรวงทอง ก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว
และต้องชื่นชมความขยันขันแข็งของชาวจีน โดยเห็นการใช้แรงงานคนมากกว่าเครื่องจักรกล
ได้มีโอกาสเห็นใบไม้เปลี่ยนสีเป็นของแถมอีกด้วย
เรียกได้ว่า เป็นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างที่ทราบกันว่า ประชาชนจีนเองก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน แต่ก็สร้างผลิตผลต่างๆ ในพื้นที่ได้อย่างดี ต่างจากบ้านเรามักมองแต่จะขายทรัพย์สินผืนดินมากกว่าที่จะมองเรื่องการทำประโยชน์จากผืนดิน
มองเห็นทุ่งนาแทบจะตลอดเส้นทางระหว่างเมืองลี่เจียง ไปยังเมืองต้าหลี่่ (大理) เป็นเมืองเอกของ เขตปกครองตนเองชนชาติไป๋ ต้าหลี่ มณฑลยูนนานทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่บนที่ราบสูงระหว่างเทือกเขาชางซานทางด้านตะวันตก และทะเลสาบเอ๋อไห่ทางด้านตะวันออก เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวไบ๋และชาวอี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ
พวกเราก็มาแวะเที่ยวชมที่ หมู่บ้านชาวไป๋ และเมืองต้าหลี่แห่งนี้ ยังเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรน่านเจ้า ซึ่งเป็นอาณาจักรของชาวไป๋ในราวศตวรรษที่ 8-9 ต่อมาได้เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรต้าหลี่ในปี พ.ศ. 1480 - 1796
เพื่อชมประเพณีและวัฒนธรรมของระบำพื้นเมืองชาวไป๋
และยังได้ชิมน้ำชา 3 ถ้วย 3 รส ที่มีรสชาติแปลกแตกต่างกัน
มองเห็นสภาพบ้านเรือนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมืองต้าหลี่ โดยจะมีตัวอาคารสีขาว ดูโดดเด่นเป็นทางยาว และเมืองต้าหลี่ ยังมีชื่อเสียงในฐานะเป็นแหล่งผลิตหินอ่อนหลากหลายชนิด ซึ่งนำไปใช้ในการก่อสร้างและประดับตกแต่งอาคารอีกด้วย
หลังจากที่พักรับประทานอาหารกลางวันกันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็มาท่องเที่ยวกันที่ โรงถ่ายภาพยนตร์ 8 เทพอสูรมังกรฟ้า จากบทประพันธ์อันเลื่องชื่อของ "กิมย้ง" โดยมีการแสดงชุดต่างๆ เริ่มจาก โชว์เปิดประตูเมือง
เห็นชาวจีนหลายๆ คนที่มาท่องเที่ยวยังโรงถ่ายแห่งนี้และเช่าชุดแบบจอมยุทธ์ เพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึกและแชร์กันในสังคมออนไลน์
เดินเที่ยวชมการแสดงต่างๆ ประกอบด้วย โชว์โยนลูกบอล, เชิดสิงโต, โชว์ไม้ต่อเท้า, กายกรรม และ ชมตอนอวสานของเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า รวมไปถึงมุมการเล่นต่างๆ และร้านค้าของที่ระลึก
แต่โปรแกรมการท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของวันนี้ก็คือ "ต้าหลี่กู่เฉิง" หรือ "เมืองโบราณต้าหลี่" 大理古城 แห่งนี้
เมืองโบราณต้าหลี่เป็นเมืองโบราณเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน อยู่ห่างจากเมืองต้าหลี 13 กิโลเมตร
เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1382 มีกำแพงเมืองและป้อมกำแพงล้อมรอบตามแบบผังเมืองในอดีต กำแพงที่ล้อมรอบเมืองโบราณต้าหลี่นั้นมีความสูง 5 เมตร มีความหนา 8 เมตร มีประตูเมืองทั้ง 4 ทิศ
ภายในเมืองโบราณมีถนนสายหลักพาดผ่าน สองข้างถนนล้วนประดับด้วยสิ่งปลูกสร้างแบบจีนโบราณ
ปัจจุบันบ้านเก่าแก่สองข้างถนนภายในเมืองโบราณต้าหลี่ ถูกใช้เป็นร้านจำหน่ายของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวเกือบหมด โดยเฉพาะมีร้านขายเครื่องเงินอยู่จำนวนมาก
และยังมีร่องน้ำไหลเอื่อยๆ ขนานไปกับถนนอีกด้วย สร้างบรรยากาศชุ่มชื่น รวมทั้งต้นหลิวที่ปลูกไว้ตลอดแนวทางเดิน
ด้วยความบังเอิญที่เจอเข้ากับ เห้งเจีย กับ ตือโป้ยก่าย แห่งไซอิ๋ว
สร้างความสุขให้กับผู้ที่มาเดินเที่ยวชมเมืองเก่าได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกัน
การเดินชมเมืองหรือช้อปปิ้งในเมืองโบราณต้าหลี่ ยังคงบรรยากาศแบบโบราณได้ดี เหมือนการที่ได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต
อีกทั้งยังมองเห็นทิวเขาสูงอยู่รายล้อมเมืองแห่งนี้
สภาพบ้านเรือนที่ยังคงรักษาสภาพแบบเดิมไว้ได้อย่างดี
แสงแดดยามบ่ายที่ร้อนแรง จำเป็นที่ต้องลองบันทึกภาพแบบ ขาว-ดำ ดูบ้าง เพราะต้องถ่ายย้อนแสงเพื่อให้เห็นสภาพบรรยากาศของตลาด
มองเห็นร้านกาแฟน่านั่งอยู่ตรงนั้น ขออนุญาตจิบกาแฟยูนนาน และถือโอกาสพักเท้าสักหน่อย
รสชาติกาแฟสดแถบยูนนานนี้ หอมอร่อย ถูกใจคอกาแฟอย่างแน่นอน ในราคาแค่ 20 หยวน หรือประมาณ 110 บาท เท่านั้น
แต่ลองถามราคาเม็ดกาแฟอีกร้านดู ราคาไม่ใช่ย่อยเลยทีเดียว ตัดใจไม่ซื้อดีกว่า รสชาติดีอาจเพราะบรรยากาศช่วยไว้ด้วยอุณหภูมิราว 20 องศาเซลเซียส และร้านกาแฟสไตล์เมืองโบราณอีกด้วย สำหรับบรรยากาศเมืองโบราณต้าหลี่ ยังไม่จบแค่นี้แต่ขอเก็บไว้ตอนที่ 2 ไว้มาติดตามกันต่อเร็วๆ นี้นะ