Disable Preloader




ร้อนนัก ไปพักร้อน 2011 ตอนที่ 6 : จากโบสถ์ซาเกรเกอร์ ไปชะเง้อ ย่านมงมาตร์

หลังจากเดินขึ้นเนินมายังตัวโบสถ์ซาเกร์เกอร์ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย อีกทั้งวันนี้ยังเป็นเช้าวันอาทิตย์ ซึ่งมีการประกอบศาสนกิจภายในโบสถ์

หากหันหลังไปอีกฝั่ง จะมองเห็นความยิ่งใหญ่ของมหานครปารีส เมืองที่ใหญ่โตมีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามเต็มไปหมด จากจุดนี้พยายามมองหาหอไอเฟล แต่มองไม่เห็นเพราะถูกต้นไม้บังอยู่อีกข้าง

ไม่รีรอ ขอเข้าไปในโบสถ์ก่อน แต่ก็ขอหยุดบันทึกภาพด้านหน้า ถึงความใหญ่โตและสวยงามในรายละเอียด

ทั้งซุ้มและเพดาน รวมทั้ง ประตูทองแดง มีภาพนูนสูงอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู (บานขวามือ)

เมื่อเดินเข้าสู่ภายใน กำลังประกอบพิธี ทำให้เราต้องเดินอย่างเงียบ แต่ผู้คนเยอะมากในนั้น

มองเห็นรูปปั้นพระเยซูทำด้วยโมเสกในยุคไบเซนไทน์ เป็นผลงานของ ลุก โอลีวีเย แมร์ซง ระหว่างปี ค.ศ. 1912-1922

เดินไปชื่นชมไป ช่างสวยงามใหญ่โตเสียนี่กระไร

กระจกสี และรูปแบบจำลองของโบสถ์แห่งนี้

และที่รู้สึกประทับใจจนถึงทุกวันนี้ คือ เสียงที่ก้องกังวาลสดใสภายใน ซึ่งมีการร้องเพลงสวดพร้อมเครื่องออร์แกน ที่ช่างไพเราะ ก้องกังวาล ไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อน ถึงเข้าใจเอฟเฟกต์แบบ "Hall" ที่แท้จริงในวันนี้ ทำให้ยังอยากยืนฟังอยู่จุดนั้นอีกนานๆ

ในบรรยากาศที่สงบและอบอุ่น

พร้อมแสงระยิบระยับจากเทียนไข

เมื่อเดินออกมาภายนอก ก็ได้สัมผัสกับบรรยากาศการแสดงของนักแสดงเปิดหมวก

เพิ่มสีสันและเสียงเพลง เพิ่มบรรยากาศให้สดใส

มองไปยังตัวโบสถ์ เจอเข้ากับสัตว์ประหลาดหลายตัว

พวกเราไม่ได้เดินรอบโบสถ์ แต่เดินไปทางซ้ายมือ เข้าสู่ย่านมงมาตร์

ซึ่งเป็นแหล่งละลายเงินยูโรนั่นเอง

เรียกได้ว่า ซื้อเล็กผสมน้อยไป พอครบ 10 วัน ก็คงต้องมาบ่นว่า กระเป๋าเดินทางทำไมมันใบเล็กจัง และจะยัดลงกลับเมืองไทยอย่างไรกันเนี่ย!

ได้ของที่ระลึกมาหลายชิ้นอยู่

เพื่อนซื้อขนม มาการูน "Macaroon" ซึ่งเป็นขนมสัญชาติฝรั่งเศสมาชิมกัน

มาปารีสทั้งที ลองชิมอะไรที่เป็นฝรั่งเศสไปหลายอย่างแล้ว

ย่านมงมาตร์ (Montmartre) แห่งนี้ เป็นย่านของ ศิลปิน นักวาด และกวี ตั้งแต่ปีกัสโซถึงอาโปลีแนร์ เป็นคนจับคู่คำว่า "ศิลปะ" กับ "มงมาตร์"

เดินเพลินไป ระวังรถไฟด้วยนะ

ยังคงมีศิลปินอาศัยอยู่แถวนี้จำนวนมาก คอยวาดภาพนักท่องเที่ยว

เดินเพลินชมบรรยากาศและภาพวาด สีสันฉูดฉาด

สนนราคาเท่าไร ไม่ได้สอบถาม คงหลายยูโรอยู่พอสมควร

ขอเสพย์ศิลป์ และไม่เสพติดแบบนี้ดีกว่า

เดินไป ท้องเริ่มร้องแล้ว

เริ่มมองแผนที่หาที่ปักหลัก จัดหนัก จัดเต็มมื้อเที่ยง

ระหว่างเดินไป เจอกับ "หอไอเฟล" ด้วยตาตัวเองซะที ถือเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสหอไอเฟล หลังจากดูภาพถ่ายหรือภาพยนตร์มาแล้วหลากหลาย

ทั้งที่เดินทางมาถึงปารีสตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็ยังไม่เห็นหอไอเฟล

พวกเราเดินทางจัตุรัสแห่งนี้ คราคร่ำไปด้วยร้านอาหาร ก็ตกลงใจเลือกร้านนี้ที่หัวมุมถนนพอดี

ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ต้องสั่งเครื่องดื่มก่อนสั่งอาหาร ให้ได้คลายเหนื่อย

ก็จัดแจงสั่ง สลัด และอาหารจานหลักของแต่ละคน

และเมนูเส้นที่ชอบ

ได้เวลาเปลี่ยนโหมดของปาก จากพูดคุย เป็นหม่ำแทน

เมื่อได้สารอาหารและพลังงานเต็มที่สำหรับบ่ายวันนี้ ซึ่งพวกเรายังมีภารกิจที่ต้องท่องเที่ยวกันอีก

ไว้มาคอยติดตามตอนต่อไปว่าจะพาไปไหนกันบ้างนะ