Disable Preloader




ร้อนนัก ไปพักร้อน 2011 ตอนที่ 14 : เดินจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ มูฟไปโบสถ์โนเตรอดาม

หลังจากใช้เวลาภายในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เกือบ 6 ชั่วโมง พวกเราก็ต้องเดินเท้าไปยังจุดหมายต่อไป ก็คือ โบสถ์โนเตรอดาม (Notre Dame Cathedral) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของฝรั่งเศสทั้งในแง่ภูมิศาสตร์และจิตวิญญาณ

แต่ก่อนจะไปยังโบสถ์ดังกล่าว จะขอพาชมภายนอกพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ไปพร้อมกัน ให้สมกับการเที่ยวชมพระราชวังเก่าในอดีต

เป็นความตั้งใจที่มีการสร้างพีรามิดด้วยกระจกใส ทำให้เป็นสัญลักษณ์ที่ช่วยในการจดจำพิพิธภัณฑ์ที่ลือชื่อแห่งนี้ เวลาที่มองเห็นสถาปัตยกรรมพีรามิดแก้วใสแบบนี้

กลายเป็นที่นั่งพักผ่อนอีกด้วย

ต้องขอมายืดขา พักเท้ากันก่อนเดินทางต่อ

หลังจากเดินเที่ยวภายในไปหลายชั่วโมง

หมดแรง หมดสภาพ ไปตามๆ กัน ต้องเติมพลังชเวปซ่าส์ๆ กันซักหน่อย ค่อยมีแรงเดินกันต่อ

ด้วยความเป็นสถาปัตยกรรมที่มีรายละเอียดในทุกมุมอย่างแท้จริง ซึ่งมักได้ยินว่า ปารีสนั้นเป็นเมืองที่สวยมาก เห็นจะจริง

ที่เห็นจะเป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งการที่สร้างสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่งดงาม ย่อมเป็นการบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของผู้นำในยุคนั้น

และในวันนี้ พวกเราในฐานะนักท่องเที่ยวก็ได้อานิสงฆ์ในการชื่นชมความงาม ซึ่งเชื่อได้ว่าในยุคนี้ คงไม่มีการสร้างอะไรที่ยิ่งใหญ่และมีรายละเอียดที่งดงามทุกกระเบียดแบบนี้กันอีก

ซึ่งมักจะสร้างเน้นความทันสมัยแต่ไม่มีรายละเอียดที่ใช้แรงงานมนุษย์เช่นนี้

สมควรแก่เวลาที่ต้องหามุมอื่นๆ ของปารีสกันต่อไปในบ่ายวันนี้ เก็บไว้ในความทรงจำพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้

เมื่อเดินผ่านประตูออกไปด้านติดแม่น้ำแซนด์ (Seine)

ก็ยังต้องผ่านตัวอาคารขนาดใหญ่อีกส่วน

ลองซูมเลนส์ไปยังรายละเอียดบนนั้น เพื่อให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งสื่อความหมายในทุกส่วน

เห็นนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ใช้การล่องเรือ ชื่นชมความงามของเมืองปารีส ก็น่าได้อีกอรรถรส

เดินไป ถ่ายไป เมื่อไรจะถึง ... นี่ไง คล้องกุญแจ อีกแล้ว ไม่รู้ว่าริเริ่มที่ไหน ใช่เกาหลี รึป่าว?

ใครหมดแรง จะขอนอนพักก็ได้นะ

แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างพวกเรา คงเดินไป คุยกันไปดีกว่า

เห็นอะไรสวยแปลกตา ก็ยกกล้องขึ้นกดชัตเตอร์โดยไม่รอช้า

เรือก็สวย สะพานก็สวย ตึกก็สวย เรียกว่าเก็บบันทึกกันวันละกว่าหนึ่งพันรูปเลยทีเดียว

เผื่อจะมีโอกาสเปิดแกลลอรีริมถนน เพื่อโชว์ภายสวยๆ แบบนี้บ้าง

แอบอิจฉาว่า บ้านเราไม่ค่อยมีมุมสวยๆ ริมแม่น้ำ เพราะมักเจอแต่สายไฟระโยงระยาง และกองวัสดุรกตาเต็มไปหมดแล้วจะให้ถ่ายภาพสวยงามได้อย่างไร

หากถ่ายไปแล้วต้องสบายตา นำเสาไฟฟ้าลงใต้ดินให้หมด ไม่เห็นทำได้ซักที

ไม่เอาเลิกบ่นดีกว่า เดี๋ยวจะถูกหาว่าแก่ขี้บ่น มาชมความงามตามเส้นทางกันต่อ ซึ่งจากนี้ไม่ไกลนักก็จะถึงโบสถ์โนเตรอดาม แต่สถาปัตยกรรมอยู่ทางขวาของเส้นทางเดินที่เห็นในภาพนี้ คือ Place Saint Michel ซึ่งมองเห็นน้ำพุ (St. Michael Fountain) และรูปปั้นของ สมเด็จพระจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส หรือ พระเจ้านโปเลียนมหาราช ซึ่งชื่อเดิมคือ นโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte)

ไม่ใช่สีเต่าทองนะ นึกว่ากำลังเตรียมถ่ายปกแผ่นเสียงซะอีก

เห็นรถเปิดประทุนพานักท่องเที่ยวชมความงามของปารีส แต่พวกเราขอเดินเท้าดีกว่า ... ประหยัดกันไว้ก่อน พ่อสอนไว้

เห็นป้ายชี้นำไปโบสถ์แล้ว อีกอึดใจเดียว

มองเห็นตัวโบสถ์แล้วที่มุมซ้ายนั้น

นี่ไง โบสถ์โนเตรอดาม (Notre Dame Cathedral) ที่เลื่องชื่อ ซึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเกี่ยวอะไรกับหนังเรื่อง The Hunchback of Notre Dame ไว้ค่อยไปค้นคว้าเพิ่มเติมก่อน

แต่ที่แน่ๆ ขอกดไลค์ และเช็คอินก่อนนะ ไว้เอนทรีหน้าจะพาเข้าไปชมภายใน และโดยรอบซึ่งมีสวนดอกไม้สวยๆ เป็นของแถม ไว้มาติดตามกันเร็วๆ นี้