หลังจากเติมพลังเบียร์กันคนละแก้ว พวกเรายังมีเป้าหมายที่ต้องเดินไปถึง ประตูชัยฝรั่งเศส (The Arc de Triomphe) เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีส ประเทศ ฝรั่งเศส ตั้งอยู่กลางจัตุรัสชาร์ลส์ เดอ โกลล์ (Place Charles de Gaulle) ขอไปสัมผัสแบบใกล้ๆ ซึ่งเราเดินผ่านและมองเห็นแบบไกลๆ เมื่อวันก่อน
เราเดินย้อนกลับมาเส้นทางเดิมและผ่าน Place Saint Michel ซึ่งมองเห็นน้ำพุ (St. Michael Fountain) และรูปปั้นของ สมเด็จพระจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส หรือ พระเจ้านโปเลียนมหาราช ซึ่งชื่อเดิมคือ นโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoleon Bonaparte)
ถือโอกาสถ่ายภาพกันเป็นที่ระลึก และด้วยสายตาซุกซนของตากล้อง ก็มองเห็นหญิงชายคู่หนึ่ง กำลังทำไรอยู่
อาจดูเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยในบ้านเรา แต่นี่คงเป็นจุมพิตที่เรียกว่า French Kiss ที่เคยได้ยิน จนแอบคิดเล่นๆ ว่า หากมาฝรั่งเศสแล้วไม่จุมพิตแบบนี้ เหมือนยังมาไม่ถึงฝรั่งเศส ... เราดูดดื่มกับความงามของสถาปัตยกรรมได้ไม่นานก็ต้องรีบเดินต่อไปยังประตูชัยก่อนมืด
ถูกใจกับลายต้นไม้บนตึกนี้ ก่อนเดินผ่านซอยเล็กๆ ไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน (Metro)
ไม่แปลกใจที่ใครๆ ก็หลงรักและหลงเสน่ห์มหานครปารีสแห่งนี้ เพราะมองไปมุมไหนก็ดูสวยไปทั้งเมือง
เรียกได้ว่า สามารถแวะถ่ายภาพได้ทุกมุมตึก แต่คงไม่สามารถแวะได้บ่อย เพราะกลัวไปไม่ทันแสงสุดท้ายที่ประตูชัย
มาลงรถไฟใต้ดิน (Metro) สถานี Trocadero เพื่อตรงไปยังประตูชัย
ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า ทำเอาตื่นเต้นถึงความใหญ่โต
ใหญ่ขนาดที่ว่า หลังจากพิธีสวนสนามในกรุงปารีสในปี ค.ศ. 1919 นักบินชาร์ลส์ โกดฟรัว ได้ขับเครื่องบินนีอูปอร์ต (Nieuport) ผ่านกลางประตูชัยฝรั่งเศส เพื่อเป็นการสดุดีเหล่าทหารอากาศที่เสียชีวิตในสงครามโลกครัั้งที่ 1
ประตูชัยแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1806 เสร็จในราวปี ค.ศ. 1836 เพื่อสดุดีวีรชนทหารกล้าที่ได้ร่วมรบเพื่อประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามนโปเลียน ยังเป็นศูนย์กลางการชุมนุมและงานพิธีต่างๆ
จากการล่มสลายของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ในปี ค.ศ. 1815 ประตูชัยกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติ ขบวนศพของจักรพรรดินโปเลียนเดินลอดประตูชัยแห่งนี้ ขณะมุ่งหน้าไปยังเลแซงวาลิด เพื่อพิธีฝังศพ ซึ่งพวกเราก็ได้ไปเที่ยวชมไว้จะนำภาพและเรื่องราวมาฝากในตอนต่อๆ ไป
ขอภาพรวมก๊วนกันซักหน่อย กับมิตรภาพที่ยาวนานกว่า 25 ปีของพวกเรา
ใครจะนึกว่า จะมีโอกาสมาท่องเที่ยวกันนับจากวันที่สนุกสนานในชั้นเรียนมัธยม
ทั้งภาพกลุ่ม ภาพเดี่ยว ... จัดไป
น้องชัย ... น้องในก๊วนกำลังดีใจที่มีได้มายังประตูของดัวเอง "ประตูชัย" โดดโลดเต้นดีใจเป็นการใหญ่
ขอสารภาพว่า เข้าใจผิดมาตลอดที่จำภาพประตูชัยฝรั่งเศสแห่งนี้ และเรียกเป็น "ฌ็องเซลิเซ่" มาตลอดจนกระทั่งได้มาสัมผัส มาศึกษาข้อมูลจึงได้ทราบว่า ความจริงแล้วมีชื่อเรียกว่า "อาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล" แต่ชื่อที่จำผิดเป็นชื่อถนนนั่นเอง
ดังนั้น การท่องเที่ยวแต่ละครั้ง อาจเรียกเป็นการทัศนศึกษาไปด้วย เพราะได้ศึกษา เข้าใจ เรียนรู้ข้อมูลที่หลากหลายมากขึ้นในทุกครั้ง
รวมไปถึง ความสุขจากการได้บันทึกภาพไว้ชื่นชมนานๆ
ต้องเดินลอดอุโมงค์เพื่อไปโผล่ยังประตูชัยดังกล่าว นึกย้อนถึงบ้านเราที่มักไม่ออกแบบให้ไปชื่นชนอนุสาวรีย์ใดๆ ใจกลางถนน จึงไม่มีการออกแบบการสร้างอุโมงค์ไว้ คงแค่สร้างให้ชมจากไกลๆ เข้าหลักที่ว่า มองดูคนอื่นเขา ย้อนดูตัวเรา จึงทำให้นึกเสียดายคุณค่าสถาปัตยกรรมหลายๆ แห่งของเรา ที่ไม่ได้ออกแบบเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรืออวดสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ ... มองเห็นภาพโรแมนติค เลยเก็บภาพไว้ซักหน่อย แช๊ะ!
มาถึงแล้ว ยืนอยู่หน้าประตูชัย โดยมีรูปแกะสลัก 4 กลุ่ม บริเวณฐานประตูชัย ... รูปแกะสลักซ้าย มีชื่อว่า "La Paix de" (1815) ส่วนขวามือคือ "La Résistance de" (1814)
แต่ความจริงแล้วยังมีอีกฝั่งหนึ่ง แต่เนื่องจากจะมืดจนมองไม่ชัดเจนนัก แต่มองเห็นจากภาพแรกของประตูชัยในเอนทรีนี้ มีชื่อว่า "Le Départ de" (1792) และ "Le Triomphe de" (1810)
ยังภาพแกะสลักหินนูนต่ำ 6 ชิ้นที่อยู่บนประตูทั้งสี่ทิศ เล่าเหตุการณ์การปฏิวัติและจักรวรรดิฝรั่งเศส อยู่เหนือรูปแกะสลักลอยตัวทั้งสี่ชิ้นอีกด้วย ... หากเรามองประตูชัยจากถนนฌ็องเซลิเซ่ จะเห็นภาพนูนตรงฐานซ้ายเป็นรูป Triumph of Napoleon ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองสัญญาสันติภาพแห่งเวียนนาที่ลงนามกันในปี ค.ศ. 1810 อีกทั้ง Frieze รูปกองทหารฝรั่งเศสกำลังเดินทางไปทำสงคราม (ทิศตะวันออก) และการกลับบ้านด้วยชัยชนะ (ทิศตะวันตก)
ยังมีภาพ Battle of Austeritz ภาพชัยชนะในสงครามเป็นรูปกองทัพของนโปเลียนทุบน้ำแข็งในทะเลสาบในออสเตรีย ทำให้ทหารศัตรูจมน้ำตายและฝรั่งเศสได้ชัยชนะ ... ภาพ Battle of Aboutkir สื่อถึงชัยชนะของนโปเลียนต่อชาวเติร์กในปี ค.ศ. 1799 ... รวมไปถึง Thirty Shields โล่ 30 อันที่มีชื่อชัยชนะในสงครามต่างๆ ของนโปเลียน ยังไม่หมดแต่ขอนำมาเสนอแค่บางส่วน ถึงบอกว่าเพิ่งเข้าใจประวัติอนุสรณ์สถาน เพราะไม่ได้รบชนะเพียงครั้งเดียวก็มาสร้างประตูชัยอย่างที่เห็น แต่กลับมีประวัติยาวนาน
จุดนี้มีชื่อว่า Tomb of the Unknown Soldier ตั้งอยู่ ณ ใจกลางประตูชัย คือ เปลวไฟที่ไม่เคยมอดดับบนหลุมฝังศพเหล่าทหารนิรนาม ซึ่งเป็นเหยื่อในสงครามโลกครั้งที่ 1
พอเป็นข้อมูลให้ทราบถึงรายละเอียดของประตูชัยที่มีชื่อเสียงแห่งนี้
ถือเป็นความสนุกและประทับใจในการมาท่องเที่ยวกันของพวกเรา ขอทำตัวย้อนวัยกันบ้าง
มาซึมซับความหมายของคำว่า "เพื่อนสนิท"
แสงสวยของวันนี้กำลังแสดงให้ชมอยู่
เป็นการชื่นชมความงามอย่างเต็มอิ่มครบรส
เป็นอีกความทรงจำดีๆ ที่จดจำไว้นานเท่านาน
เดินลอดอุโมงค์จากประตูชัย เมื่อเดินมายังถนนฌ็องเซลิเซ่ ซึ่งในวันพรุ่งนี้พวกเราจะเข้าวังกันตั้งแต่เช้า ไปท่องเที่ยว "พระราชวังแวร์ซาย" (Château de Versailles) ที่งดงาม ไว้มาติดตามกันต่อเร็วๆ นี้