หลังจากชื่นชมความงดงามของพระราชวังแวร์ซายในช่วงเช้า และเดินผ่านสวนสวยๆ ที่มีดอกไม้เมืองหนาวคอยชูช่อ ต้อนรับผู้มาเยือนให้ชื่นใจ ก็ได้เวลาเดินต่อเข้าไปด้านใน อาจจะเรียกว่าเดินทางไกลก็ว่าได้ เพราะระยะทางทำเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่ทว่าอุตส่าห์มาทั้งที ขอชมให้ครบโปรแกรมดีกว่า

มองไปไกลเห็นนักท่องเที่ยวก็เดินตามไปกันเป็นจำนวนมาก จะให้ถอดใจกองอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร

เดินไปคุยไป แค่ไม่ถึงอึดใจก็ไปถึง

อีกอย่างคือ ฟ้าสวย อากาศหนาว แม้จะแดดแรงก็ยังหนาว แบบนี้ไม่มีปัญหาในการเดินอย่างแน่นอน

เหมือนการมาเดินเที่ยวสวนสาธารณะออกกำลังกายยังไงอย่างงั้น

แต่ทว่ามีประติมากรรมที่สวยงามตลอดทางให้ได้หยุดชมพักเหนื่อยกัน

หลากหลายท่วงท่า หลายอิริยาบถ

ตลอดทางเดินขนานไปกับบึงน้ำขนาดใหญ่

เห็นรูปปั้นฝูงม้านี้ ทำให้นึกถึงเมืองโบราณ จ.สมุทรปราการ บ้านเรา ช่างเหมือนกันจริง

เสียงดังของห่าน 2 ตัวกำลังทะเลาะกันอยู่

เห็นมั้ยทะเลาะกันไม่นาน ก็กลับมาดีกันดังเดิม

อยู่กันได้ทั้งห่านและเป็ดอย่างมีความสุข ไม่เห็นต้องแบ่งแยก แบ่งสีกัน

หลงดีใจนึกว่าเลี้ยวขวาเดินเข้าพระตำหนักน้อย ไฉนไปอีกไกลสุดสายตาขอบฟ้าสีครามเช่นนี้ล่ะ

เดินไป มองฟ้าไป ไอพ่นเครื่องบินตัดกันไปมา ก็ยังไม่ถึงอีก

แต่เลี้ยวซ้ายอีกครั้งก็พบแล้ว พระตำหนักน้อย (Petit Trianon) ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1762-1768 โดยรับสั่งของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 สำหรับนางอันเป็นที่รัก Madame de Pompadour และเป็นภรรยาลับก็ว่าได้ แต่ทว่านางเสียชีวิตลงก่อนที่จะสร้างเสร็จ

แต่ภายหลังที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 1774 เมื่อมีพระชันษา 20 พรรษา ทรงยกพระตำหนักแห่งนี้พร้อมทั้งสวนขนาดใหญ่ ให้กับพระมเหสี มารี อ็องตัวแน็ต (Marie Antoinette) เมื่อทรงขึ้นเป็นพระราชินีแห่งฝรั่งเศส (Queen of France and Navarre) เพื่อเป็นสถานที่ส่วนพระองค์

เข้ามาด้านในจะมีอาคารหลายหลังเชื่อมต่อกัน

บริเวณต่างๆ ภายใน ซึ่งไม่แน่ใจว่าแต่ละห้องใช้เพื่อการใดบ้าง คาดว่าห้องนี้น่าจะเป็นโบสถ์ (Chapelle)

แต่ทว่าพระนางใช้ชีวิต สะดวกสบาย หรูหรา แสนสิ้นเปลือง จัดงานเลี้ยงที่ฟุ้งเฟ้อบ่อยครั้ง ตั้งวงพนันกับราชนิกุลด้วยเงินเดิมพันจำนวนมหาศาล สร้างความอิจฉาริษยาให้แก่นางสนมและราชนิกูลพระองค์อื่นๆ เป็นอย่างมาก

พระนางมารี อ็องตัวแน็ต ยังคงใช้ชีวิตในพระราชวังแวร์ซายที่แวดล้อมไปด้วยพระสหายสนิทที่เป็นผู้ทรงศักดินาจำนวนหนึ่ง อย่างฟุ้งเฟ้อกับสิ่งบันเทิงเริงรมย์ นอกจากนี้ ยังกล่าวกันว่าพระนางพยายามมีอิทธิพลทางการเมืองเหนือพระมหากษัตริย์ เห็นได้จากการที่แต่งตั้งและถอดถอนรัฐมนตรีหลายคนตามพระทัย หรือไม่ก็จากคำแนะนำของพระสหายสนิท จึงไม่แปลกที่มีกระแสต่อต้านพระนางเริ่มก่อตัวขึ้น

กลุ่มคนที่ต่อต้านพระนาง ได้ใช้วิธีโจมด้วยการแจกใบปลิวกล่าวหาว่า พระนางมีชายชู้ หรือแม้กระทั่งมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับสตรีด้วยกัน ใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย ไม่ว่าพระนางจะพยายามทำทุกวิถีทางที่จะต่อสู้กับกลุ่มที่ต่อต้าน แต่ทว่าก็ไม่ประสบผลสำเร็จ

ในห้องโถง (The Salon) นี้น่าจะเป็นห้องดนตรี และจะมองเห็นเครื่องดนตรีที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับพิณ มีชื่อเรียกว่า "ฮาร์ปซิคอร์ด" (Harpsichord) เป็นเครื่องดนตรีตะวันตก ในยุคบาโรค ประเภทเครื่องดีด โดยมีการพัฒนามาจากเครื่องดนตรีประเภทพิณ และกีตาร์ กลไกการเกิดเสียงจะใช้การเกี่ยวดึงสายโลหะซึ่งมีขนาด และความยาวแตกต่างกันเพื่อให้ได้เสียงความถี่ต่างๆ และด้วยวัยเพียง 13 ชันษา พระนางถูกกำหนดให้เตรียมพร้อมในการเข้าพิธีอภิเษกสมรส ด้วยการหัดเล่นฮาร์ปซิคอร์ด กับคีตกวีชื่อดัง รวมทั้งเรียนนาฏศิลป์ฝรั่งเศสด้วย

ยังมีห้องบรรทม และห้องรับแขก ที่ดูสวยงามแบบเรียบๆ มาเล่าเรื่องต่อ ... พระนางยังมีเรื่องราวให้ผู้ที่ต่อต้านกล่าวถึงมากมาย ไม่ว่าจะการถูกกล่าวหาว่า พัวพันกับคดีกีเนส เรื่องอื้อฉาวในคดีสร้อยพระศอที่แม้ว่าพระนางจะไม่มีความผิดแต่ก็เสียพระเกียรติเป็นอันมาก

การใช้จ่ายจำนวนมากในยามที่บ้านเมืองแร้นเเค้น ทั้งการใช้เงินจำนวนมากปรับปรุงพระตำหนักของพระนาง รวมทั้งเสียงประชดที่พระนางหลบไปใช้ชีวิตเลียนแบบธรรมชาติอย่างไร้เดียงสาที่ "พระตำหนักเปอติ ทรีอานง" (Petit Trianon) ที่สร้างเป็นหมู่บ้านชนบท มีฟาร์มขนาดเล็กในพระราชวังแวร์ซายที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 สร้างขึ้นเพื่อมอบให้กับพระนาง

จะเห็ยได้ว่า มีโรงละครส่วนพระองค์ภายในพระตำหนักน้อยแห่งนี้ (Theatre de la Reine) บริเวณติดกับสวน Jardin Francias

จึงไม่น่าแปลกใจที่พระนางถูกต่อต้านอย่างหนัก (ภาพส่วนนี้ เพื่อนๆ ที่แยกเดินไปอีกกลุ่ม เป็นผู้บันทึกภาพไว้ น่าเสียดายที่ไม่ได้เดินไปชมด้วย เพราะเดินไปอีกทาง เลยขอนำภาพถ่ายจากเพื่อนมาฝากไว้ด้วยกัน)

เพราะแค่มองผ่านหน้าต่างออกไปไม่ได้เดินเข้าไปบริเวณสวนด้านใน

ในอีกห้องยังชุดเครื่องแต่งกายแสดงให้ชมอยู่ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นฉลองพระองค์หรือไม่?

มาชมครัวกัน

อีกทั้งห้องเกมส์ ทำให้สงสัยว่า สนุกเกอร์ และ บิลเลียด นั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร

แต่ห้องที่ตามหาให้เจอให้ได้ นั่นคือ สุขา ... อยู่หนใด

ออกมายืนอยู่ภายนอกของพระตำหนัก

ซึ่งภาพที่เห็นก่อนหน้านี้ เหมือนกับบ้านชนบทจะต้องเดินเข้าไปในบริเวณสวนแห่งนี้ ซึ่งอยู่ด้านหลังของพระตำหนักน้อย โดยมีแผนผังฝากได้ตอนท้ายเอนทรีนี้

มองเห็น Temple de l'Amour เชื่อมกับบริเวณสวน Jardin Anglais

ไว้มาติดตามชมบริเวณ พระตำหนักใหญ่ (Grand Trianon) กันต่อเร็วๆ นี้