เดินถัดจาก "Karlsplatz" ก็จะมาถึงบริเวณนี้ ซึ่งเคยได้ยินชื่อ "Marienplatz" (St. Mary's Square) มานานแล้ว ย่านนี้ถือเป็นศูนย์กลางหรือหัวใจของเมือง Munich ซึ่งจตุรัสแห่งนี้ เดิมมีชื่อว่า "Schrannenplatz" และได้เปลี่ยนมาเป็น "Marienplatz" เพื่อเป็นเกียรติแด่ Patroness Maria ซึ่งประชาชนได้สวดอ้อนวอนต่อ St. Mary ให้ช่วยปกป้องเมืองจากการระบาดของอหิวาตกโรคเมื่อครั้งในอดีต จนกระทั่งโรคร้ายผ่านพ้นไป ...
จากจุดนี้ จะมองเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของ New Town Hall (Neues Rathaus) ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางด้วยความสูง 79 เมตร สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1867 ถึง 1909 โดย Georg Joseph Hauberrisser ในศิลปะแบบกอธิก (Flemish Gothic) และในเวลา 11, 12 and 17 นาฬิกาในแต่ละวัน เราจะมองเห็นตุ๊กตาที่ออกมาเต้นรำ (Glockenspiel หรือ Carillon) ด้วย
จากจุดนี้ ผมขอบันทึกภาพ "Old Town Hall" ทางขวามือ ถ้ามองลอดช่องออกไปจะมองเห็น "New Town Hall" ได้อย่างชัดเจน อาจสงสัยว่าทำไม "Old Town Hall" (Altes Rathaus)จึงดูใหม่กว่า เพราะอาคารเก่าเคยถูกไฟไหม้ในปี ค.ศ. 1460 และได้ถูกบูรณะขึ้นใหม่ในระหว่างปี ค.ศ. 1470-1480 พอมาถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ถูกทำลายหมดทั้งอาคารอีกครั้ง จึงได้สร้าง "Old Town Hall" ขึ้นมาใหม่หลังยุติสงคราม โดยยังคงรูปแบบเมื่อครั้งศตวรรษที่ 15 เพียงแต่วัสดุก่อสร้างเพิ่งผ่านไปไม่นาน
ซึ่งในยุคกลาง (Middle Ages) สถานที่นี้จะเป็นตลาด และเป็นสถานที่จัดงานต่างๆ แต่ในปี ค.ศ. 1807 จึงได้ย้ายตลาดจากบริเวณนี้ไปยัง "Viktualienmarkt" ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กันนี้ ตามผมมา ... จะพาไปชม
ได้ยินมาว่า คืนนี้จะมีฟุตบอลนัดสำคัญของทีม FC Bayern Munich มองเห็นแฟนบอลมาฉลองกันเต็มไปหมด
เพื่อนไปเข้าคิวซื้ออาหารกัน ผมก็เก็บบรรยากาศโดยรอบไปพลางๆ ได้แซนวิชหลากหลายแบบรวม 5 ชิ้นยักษ์ไม่ซ้ำแบบ โดยผมเลือกแซนวิชใส้ขาหมูทอด พร้อมหนังทอดกรอบ
เพื่อนอีกคนก็ซื้อมะกอกยัดไส้ชีส นำมาแจมกับแซนวิสที่หม่ำกัน เข้ากันดีมาก ... พวกเราแบ่งกันชิมในแต่ละแบบ อร่อยมาก แต่ละชิ้นก็ใหญ่มากๆ ด้วย ... หากสังเกตที่หอนาฬิกาฝั่งซ้ายมือ จะมองเห็นคนยืนอยู่ข้างบนเต็มไปหมด คงจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินขึ้นไป และสามารถถ่ายภาพเมืองมิวนิคจากมุมสูงในย่านนี้ ซึ่งผมเคยเห็นภาพจากบางเว็บไซต์มาแล้ว แต่พวกเราไม่ได้เดินขึ้นไปบนนั้น
สังเกตเห็นน้ำพุอยู่หลายๆ จุดทั่วบริเวณ ไม่แน่ใจว่าตั้งเพื่อความสวยงาม หรือไว้ให้ล้างมือกันแน่ แต่ก็มองเห็นใครหลายๆ คนมาล้างมือกันด้วย เลยถือโอกาสทำบ้างตามคำพังเพย "เข้าเมืองตาหลิ่ว ... ต้องหลิ่วตาตาม"
เดินต่อไปหาอะไรดื่มและนั่งซึมซับบรรยากาศ ... แอบพักขา ... ล้อเล่น!
คำเตือน : การดื่มสุรา จะทำให้ความสามารถในการเขียนบล๊อกลดลง
ดื่มไป แกล้มขนมไป รวมทั้งขนมปังอบ "Pretzel" อันยักษ์ โรยเกล็ดเกลือเค็มๆ เข้ากันได้ดีกับเบียร์จริงๆ ต้องบอกก่อนว่า เบียร์แก้วนั้น ผมไม่ได้ดื่มคนเดียวนะครับ ไม่เช่นนั้นมีหวังบันทึกภาพตลอดบ่ายนี้ไม่ไหวแน่เลย อดได้ภาพบรรยากาศมาฝากกัน
หลังจากอิ่ม ต้องขอเดินชมตลาด ... ปลาตัวนี้น่ากลัว มากกว่าน่ากิน
ผักสด ผลไม้สด หลากหลายให้จับจ่ายกัน
ใครชอบทาน Apple คงจะถูกใจ
แต่ถ้าใครคิดถึง "ผลไม้เมืองไทย" จัดให้โดยเฉพาะ "ทุเรียน"
แต่พวกเราเลือกซื้อสตรอเบอรี่ มาชิมกัน เพราะทนความยั่วยวนของสีสันฉ่ำได้ใจ ลูกใหญ่น่าหม่ำ
เห็นพริกแล้วยังเฉยๆ เพราะแค่วันที่สองของการเดินทาง แต่ค่ำวันนี้เราได้ไปทานร้านอาหารไทยในมิวนิค ได้รสชาดความเผ็ดนิดจากข้าวแกงบ้าง
ยังมี Artichoke ดอกสีเขียวรับประทานได้ และผล Walnut ลูกโตๆ
และสิ่งที่พลาดไม่ได้หากไปเยอรมัน ก็คือ "ไส้กรอกเยอรมัน" หลากหลายชนิด และอร่อยมากๆ
หรือใครชอบ "ชีส" (Cheese) ก็ทานได้ แล้วหุ่นดีเหมือนพรีเซนเตอร์ตาหวานหน้าร้านนี้