Disable Preloader




ร้อนนัก ไปพักร้อน 2009 ตอนที่ 9 : พาไปชมพระราชวัง Residenz München

ในบริเวณนี้ยังมีพระราชวังเมื่อในอดีตสมัยราชวงศ์บาวาเรีย และได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมจำนวนกว่า 130 ห้อง เป็นที่เก็บสมบัติล้ำค่าและงานศิลปะต่างๆ ทำให้พระราชวังแห่งนี้ "Residenz München" เป็นพระราชวังที่มีขนาดใหญ่โต ตกแต่งหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ... อาคารที่เห็นนี้มีชื่อเรียกว่า "Alte Residenz" (Old Residence) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1385 โดยในส่วนของกำแพงและห้องนิรภัยชั้นใต้ดิน ถือเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดในพระราชวัง

ซึ่งกาลเวลาผ่านไปยาวนาน ก็มีการปรับปรุงต่อเติมเสริมแต่งอีกทั้งยังผสมผสานศิลปะต่างๆ ทั้ง Baroque, Rococo และ Classicism

มองขึ้นไปชั้นบน จะเห็นงานศิลปกรรมงดงาม และมีตาข่ายขึงไว้ เพื่อไม่ให้นกบินเข้าไป ซึ่งอาจทำให้ผลงานที่ทรงคุณค่าเสียหายได้

เดินเข้ามาภายใน "Kaiserhof" (Emperor's Court) สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1612 ถึง 1618 ในสมัยของ Duke Maximilian I ซึ่งส่วนของ "Kaiserhof" จะเปิดใช้ในงานพิธีที่สำคัญเท่านั้น ... สามารถมองเห็นความยิ่งใหญ่ เมื่อดูเทียบกับคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น และนี่เป็นแค่เพียง 1 court จากจำนวนทั้งหมดถึง 10 courts ในพระราชวังแห่งนี้ ... โอ้แม่เจ้า!

ข้างๆ "Kaiserhof" จะมีซุ้มประตูเพื่อเดินผ่านเข้าไปในสวน "Hofgarten" ผ่านเข้ามาจะมองเห็นส่วนของ "Festsaalbau" อยู่ทางขวามือ และทางซ้ายมือจะเป็นบริเวณสวน เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ชมภายในพระราชวังแห่งนี้ คงต้องมีเวลาอยู่ใน Munich ซัก 1 สัปดาห์ ... ไว้โอกาสหน้า จะมาใหม่

ซึ่งมีทั้ง "Renaissance Hall" เป็นห้องโถงเพดานโค้งที่มีศิลปะ Renaissance ที่ใหญ่ที่สุดในดินแดนตอนเหนือของเทือกเขา Alps อีกทั้งยังมี "Cuvilliés Theatre" ซึ่งได้บูรณะขึ้นใหม่ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

มองเห็นป้ายบอกเส้นทางภายใน "Englischer Garten" ที่ใหญ่โตมาก คงต้องมีเวลาเดินเป็นวัน จึงจะเดินทั่ว

แบบว่าเดินเมื่อย ก็นั่งพัก ... เพิ่งเคยเห็นเก้าอี้เมื่อยหรือง่วงนอน เลยเอนหลับคาโต๊ะ

ได้เดินชมสีเขียวสบายตา ภายใต้อากาศที่หนาวเย็น ช่างมีความสุขเสียนี่กระไร ตรงกับคอนเซ็บต์ "ร้อนนัก ... ไปพักร้อน"

มาอยู่ใน "Hofgarten" (Court Garden) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1613 มี "Central Pavilion" ออกแบบในปี ค.ศ. 1615 โดย Heinrich Schön และมีโดมอยู่ตรงกึ่งกลางของเส้นทางเดิน 8 เส้นที่พุ่งออกโดยรอบโดมกลางหลังนี้ รวมทั้งมี น้ำพุ และดอกไม้สีสันสะดุดตา

ภายในโดมยังมีน้ำพุประดับอยู่ข้างกำแพง ที่ทำจากเปลือกหอย รวมทั้งพื้นโมเสค ... จากมุมนี้มองออกไปภายนอกได้สวยงาม

ออกจากสวนแห่งนี้ พาไปยังมุมอื่นๆ ของพระราชวัง ... เดินผ่าน "Alte Residenz" อีกครั้ง เพื่อตรงไปยัง "Königsbau" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังเช่นเดียวกัน

มาถึง "Königsbau" ซึ่งต้องสะดุดตากับภาพวาดบริเวณจั่วของอาคาร อีกทั้งมีรูปปั้นต่างๆ ที่เห็นนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพในบริเวณนี้กันเป็นจำนวนมากนั้น อยู่ตรงบริเวณอนุสาวรีย์ตรงกึ่งกลางลานแห่งนี้

เดินถัดจากบริเวณนี้ไปไม่ไกล ก็มาถึงร้านอาหารที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง คือ "Alois Dallmayr"

ร้านแห่งนี้ถือเป็นร้านอาหารหรูหรา เปิดบริการมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 17 ซึ่งมีผู้คนมาที่ร้านนี้กว่า 2.5 ล้านคนต่อปี รวมทั้งผู้ที่มีชื่อเสียงต่างๆ ระดับ VIP และสินค้าที่มีชื่อเสียง ถือว่าหรูเลิศมากก็คือ "กาแฟ Dallmayr"

ได้เห็นกรรมวิธีการบด และเก็บเมล็ดกาแฟไว้ในไหแบบนี้ ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ... ว่ามั้ย!

หรือจะลองชิมเนื้อปลาที่แล่ให้เห็นเป็นแผ่นบางๆ ก็มีให้จับจ่ายในราคาไม่เบาๆ ... สำหรับตอนต่อไป จะพาไปเที่ยวโบสถ์ คอยมาติดตามเร็วๆ นี้