หลังจากขบวนรถไฟจากเมือง Füssen ลดความเร็วเข้าสู่ชานชาลาของเมือง Munich พวกเราก็เตรียมตัวลงรถไฟ ด้วยสายตาที่สอดส่องไปทั่วของตากล้องอย่างเรา ก็ไปสะดุดเข้ากับหัวรถจักรไอน้ำเข้าอย่างจัง
ด้วยความชื่นชอบ ชื่นชมในรถจักรไอน้ำอยู่แล้ว จึงทำให้ต้องขอเดินไปชื่นชมใกล้ๆ ซักหน่อย ได้เห็นถึงการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดี ดูสะอาดใหม่เอี่ยมแม้จะเป็นรถไฟโบราณอายุกว่า 102 ปี
รถไฟขบวนนี้มีชื่อว่า "2455 Posen" สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1906 และถือว่าเป็นรถจักรไอน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงในยุคนั้น ด้วยเทคโนโลยี "Two-Cylinder Driving Gear" ทำให้มันสามารถแล่นด้วยความเร็วสูงสุดถึง 110 ก.ม. ต่อชั่วโมง และถูกปลดประจำการเมื่อปี ค.ศ. 1974 ไม่นานมานี้เอง
รถจักรไอน้ำขบวนนี้ มีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์ กล่าวคือ รถไฟขบวนนี้ได้เคยอพยพเด็กและเยาวชนชาวยิว (Jewish) กว่า 12,000 ชีวิต ให้รอดพ้นจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Nazi "race policy") ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในระหว่างปี ค.ศ. 1940 - 1944
ในปัจจุบัน รถไฟขบวนนี้ได้ถูกจัดทำเป็น "Train of Commermoration" เพื่อเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ที่เคยอพยพเด็กเมื่อครั้งอดีต และจัดทำเป็นนิทรรศการเคลื่อนที่ภายในตู้โบกี้ ซึ่งคณะทำงานฯ ได้หวังเป็นการกระตุ้นให้เสาะหาเด็กที่ครั้งหนึ่งเคยรับการช่วยเหลืออพยพด้วยรถไฟขบวนนี้ในแต่ละเมือง
นอกจากนี้ คณะทำงานฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รวบรวมภาพ, ข้อมูลในอดีตที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงได้มีโอกาสพูดคุยกับเด็กผู้รอดชีวิตในอดีต เมื่อรถไฟขบวนนี้ผ่านไปยังแต่ละเมือง ซึ่งถึงปัจจุบันแต่ละคนในเหตุการณ์สมัยนั้น ก็น่าจะเป็นผู้สูงวัยกันหมดแล้ว
ลองบันทึกภาพลักษณะขาว-ดำ ซึ่งดูแล้วมีมนต์ขลังดีจัง ... ถ่ายทอดสีหน้าของผู้คนได้เต็มอิ่มกว่าภาพสี
ดูเครื่องยนต์กลไกต่างๆ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นยอด เพราะไม่น่าเชื่อว่าผ่านมาถึง 102 ปี ยังใช้งานได้ดีอยู่ และยังทำความเร็วได้สูงอีกด้วย
โครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างดีซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 หลังจากนั้นทางกระทรวงคมนาคม ในกรุงเบอร์ลิน จึงอนุมัติและให้ความช่วยเหลือโครงการ ในการจัดนิทรรศการไปยังจุดต่างๆ ในทวีปยุโรป นอกจากนี้ยังได้รับความช่วยเหลือเรื่องเงินทุนจากหน่วยงานหลายภาคส่วน ซึ่งมองดูแล้วน่าจะต้องใช้เงินอย่างมาก
ทั้งค่าซ่อมบำรุง, ค่าจอดเทียบในชานชาลาสถานีรถไฟ และยังค่าถ่านหินซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลัก มองเห็นแบบนี้แล้วรู้สึกชื่นชมในการอนุรักษ์ และความช่วยเหลือ ความร่วมมือกันอย่างจริงจัง ... จากมุมนี้ มองเห็นเชื้อเพลิงถ่านหิน และคนขับรถที่ดูแล้วเข้ากันได้อย่างลงตัวกับรถไฟขบวนนี้จริงๆ
มีรถไฟทันสมัยอีกขบวนเข้ามาจอดเทียบ กินกันไม่ลงเลย ... ยังไงรถจักรไอน้ำก็ยังสวยงามคลาสสิคมากกว่า
ด้วยความเป็นแฟนพันธุ์แท้รถจักรไอน้ำ ... ในเชิงของความชื่นชอบรถไฟประเภทนี้ แต่อาจยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับรถจักรไอน้ำมากนัก ... จึงขอถ่ายภาพคู่ซักหน่อย แช๊ะ!
หากย้อนไปดูเอนทรีเก่าๆ ที่เคยพูดถึงเกี่ยวกับรถจักรไอน้ำ และอยากให้ลองอ่านกันดู ได้แก่
- ชื่นชม "ขบวนรถจักรไอน้ำ" มรดกไทย ณ สถานีรถไฟหลวงจิตรลดา
- จัดเดินขบวน "รถจักรไอน้ำ" เพื่อร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ "พระปิยมหาราช"
- "สถานีรถไฟหัวลำโพง" ... ในมุมที่คุณอาจจะยังไม่เคยเห็นมาก่อน
และมีข่าวประชาสัมพันธ์สำหรับผู้ที่อยากลอง "นั่งขบวนรถจักรไอน้ำขบวนพิเศษในเมืองไทย" ซึ่งจัดขึ้นใน วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2552 นี้ โดยเดินทางไป-กลับ จากสถานีหัวลำโพงไปยังอยุธยาในช่วงเช้า และพากลับมากรุงเทพฯ ในช่วงเย็น สามารถซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ในราคา 120 บาท อ่านรายละเอียดได้จาก "นั่งรถจักรไอน้ำ ชมเมืองมรดกโลก" โปรแกรมนำเที่ยวขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษ ที่ 901/902 เส้นทาง กรุงเทพ - อยุธยา แล้วพบกันวันที่ 12 สิงหาคม นี้ ไปนั่งขบวนรถจักรไอน้ำกันนะ