Disable Preloader




ร้อนนัก ไปพักร้อน 2009 ตอนที่ 18 : อีกหนึ่งราตรี ... ที่ Munich

หลังจากบันทึกภาพรถจักรไอน้ำจนหนำใจ ก็เดินกลับมาโรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟแห่งนี้ ท้องฟ้าเริ่มมืดลง จึงขอถ่ายภาพโทน "ขาว-ดำ" ดูบ้าง ซึ่งได้อีกอารมณ์จากภาพที่เห็น

นิ้วมือก็ยังกดชัตเตอร์บันทึกภาพความประทับใจไปตามทาง ซึ่งรถยนต์ Porsche นั้น ผมถือว่าเป็นงานศิลปกรรมชั้นยอดของเยอรมัน ไม่เพียงแต่เป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูง ... ซึ่งค่ำคืนนี้ หลังจากพวกเรารับประทานอาหารสเปน จะขอพาไปชมงานศิลปกรรม บริเวณพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในเมืองมิวนิคแห่งนี้

เดินลงสถานีรถไฟใต้ดิน เพื่อเดินทางไปสถานีอื่นแทนการเดิน

โผล่จากใต้ดิน ขึ้นมาบนดิน ท้องฟ้าแสงสุดท้าย ตัดกับขบวนรถไฟสีแดงยิ่งดูโดดเด่น

เดินผ่านร้านอาหารต่างๆ ชอบแสงสวยๆ ยามค่ำคืน ขอบันทึกภาพไปด้วย ... แล้วเราก็ไปหยุดกันตรงร้านอาหารสเปนแห่งหนึ่ง เสียดายที่หิวจนตาลาย เลยไม่ได้บันทึกภาพไว้ มัวแต่เอร็ดอร่อยกับอาหาร พร้อมไวน์รสเลิศ

หลังจากอิ่มท้องด้วยอาหาร ก็ขอมาเดินย่อย และดื่มด่ำผลงานสถาปัตยกรรมกันต่อ บริเวณนี้เรียกว่า "Lenbachhaus" ซึ่งก็เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บภาพเขียนศิลปะที่มีชื่อเสียงมากมาย

มาถึงบริเวณแห่งนี้ซึ่งถือว่าเป็น"Kunstareal" หรือดินแดนแห่งศิลปะ(Art District) โดยมีจตุรัส "Königsplatz"... อาคารที่เห็นนี้มีชื่อเรียกว่า "Propyläen" สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงยุคสมัย "Otto" แห่งกรีก

มีตัวอาคารตั้งอยู่ 3 มุมด้วยกัน โดยมีถนนตัดผ่านกลาง

ซึ่งถ้าเป็นบ้านเรา คงต้องล้อมรั้วแน่นอน ซึ่งทำให้ไม่สามารถได้ชื่นชมความงามยามค่ำคืนเหมือนแบบนี้

อาคารนี้มีชื่อว่า "Glyptothek" ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในเมืองมิวนิค ซึ่งเป็นพระราชประสงค์ของกษัตริย์ "Ludwig I" แห่งแคว้น Bavaria สร้างขึ้นเพื่อเก็บสะสมผลงานศิลปะรูปปั้นยุคสมัยกรีกและโรมัน บริเวณภายนอก มองเห็นรูปปั้นต่างๆ เรียงรายอยู่

เหมือนกับกำลังเดินชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน ... ไม่เสียตังส์ด้วย ซึ่งภายในจะมีผลงานศิลปกรรมจำนวนมาก

ดีที่รูปปั้นเหล่านี้ ไม่เคลื่อนไหวได้เหมือนในภาพยนตร์ "Night at the Museum" ไม่งั้นมีหวังตัวใครตัวมัน วิ่งหนีกันตับแลบ

สถานที่แห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย "Leo von Klenze" ในรูปแบบนีโอคลาสสิค "Neoclassical Style" และสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1816-1830

อาคารหลังที่ 3 นี้มีชื่อว่า "Staatliche Antikensammlungen" ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับ "Glyptothek" เป็นเก็บวัตถุโบราณล้ำค่า (The State Collection of Antiques) ... ตัวอาคารสวยงามมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามค่ำคืนที่หนาวเหน็บเช่นนี้

ด้วยการจัดแสงเงาให้ดูโดดเด่น

ชอบประตูแบบนี้ ดูมั่นคงแข็งแรงดีจัง คงเป็นเพราะมีหมุดโดยรอบ

และความสูงใหญ่โอ่อ่า

อดไม่ได้ที่ต้องแหงนมองดู

มุมนี้เป็นอีกฝั่งของ "Propyläen"ซึ่งอยู่ข้ามกับอาคาร "Glyptothek" พอดี จนมองแล้วราวกับอาคารแฝด เพราะรูปร่างคล้ายกันมาก

ดีที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ได้สร้างเสียหายมากนักให้กับผลงานศิลปะภายในพิพิธภัณฑ์ "Glyptothek" หลังจากนั้นได้เริ่มเปิดให้ชมอีกเมื่อปี ค.ศ. 1972

ยิ่งดึกอากาศยิ่งหนาว เห็นทีต้องขอกลับไปนอนพักเอาแรง พรุ่งนี้ไปเที่ยวต่อที่พระราชวัง

ต้องลงรถไฟใต้ดิน เพราะย่านนี้อยู่ห่างไกลจากโรงแรมที่พวกเราพักอยู่มาก

ประตูรถเปิดออก ก็เดินขึ้นบันไดเลื่อน และรีบเดินเท้าไปยังโรงแรมที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานี

ถึงแล้ว ... ขอตัวไปพักผ่อนก่อนสำหรับเอนทรีนี้ แล้วพบกันใหม่ในเอนทรีต่อไป ...จุ๊จุ๊! อาหารเช้าโรงแรมนี้เลิศมากครับ ขอบอก!