เช้านี้อากาศสดใสซึ่งตั้งใจไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่า จะแบบขาตั้งกล้องออกไปเก็บภาพบรรยากาศยามเช้าซักหน่อย หลังจากที่ฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจ ขมุกขมัวแถมยังมีฝนตกใน 2 วันที่ผ่านมา
ยิ่งได้เห็นหนังสือภาพถ่ายเมือง Dresden ที่มีแสงสีทองสาดส่องตัวสถาปัตยกรรม เกิดประกายสีส้ม ยิ่งยั่วยวนใจให้มาถ่ายภาพยามเช้าเหมือนหนังสือเล่มนี้บ้าง
ตื่นประมาณ 6 โมงเช้า ใช้เวลาเตรียมตัวซักเล็กน้อย ก็เดินออกจากที่พัก พร้อมแบบขาตั้งกล้องคู่ใจมาด้วย มองเห็นดวงอาทิตย์สาดแสงแบบนี้ ก็พอมีหวังให้ได้ภาพสวยงามยามเช้าอย่างแน่นอน
สวมแจ็คเก็ตออกมาในชุดนอน เพื่อไม่ให้เสียเวลา
เพื่อไปยังจุดที่น่าสนใจต่างๆ ในการเก็บบันทึกภาพไว้
รวมทั้งประติมากรรมต่างๆ ซึ่งไม่ได้ศึกษาหรืออ่านรายละเอียด ขอแค่บันทึกภาพพร้อมแสงสวยๆ ไว้ก่อน
และที่ไม่ได้คาดไว้ก็คือ ทำไมไม่มีคนเลยซักคนเดียว เหมือนเรากำลังเดินอยู่ในเมืองร้างซะงั้น
ผู้คนหายไปไหนกันหมด ไม่ว่าจะมองไปที่มุมไหนมีแต่ความว่างเปล่า
เดินเข้าไปในวัง Zwinger กลายเป็นวังเวงไปซะงั้น
บรรยากาศหวิวๆ
ออกจากวังเวง มามองที่ลานหน้าโรงโอเปร่า ก็ไม่มีใครซักคน นี่เราอยู่ในความฝันอยู่รึป่าว!
แต่ทว่า เราถือเป็นโอกาสที่ดีในการถ่ายภาพเมือง Dresden แบบ Exclusive ส่วนตั๊วส่วนตัว
ไม่ต้องเสียเวลาไปรีทัชภาพคนอื่นออกเลย
แม้แต่รถราง รถยนต์ ก็ไม่มีแล่นซักคัน
เดินไป ถ่ายไป ไม่มีใครให้แคร์
เดินออกจากย่านเมืองเก่าข้ามสะพานไปย่านเมืองใหม่
เก็บภาพแม่น้ำ Elbe และมีสถาปัตยกรรมเก่าตลอดแนว
ก็ยังไม่เห็นมีใครซักคน ... ชักจะเหงาแล้วซิ!
เดินมาตามหาซากุระ (Cherry Blossom) กำลังเบ่งบาน อวดโฉม ซึ่งวันนี้มีท้องฟ้าสวยใส ช่วยเพิ่มความงดงามได้มาก
สีชมพูอ่อนสวยงาม ซึ่งซากุระนั้นก็มีหลายสายพันธุ์ หลากสีสัน
หากมีลมพัด ก็จะเห็นกลีบดอกร่วงเป็นสาย
หากมองภาพจากมุมนี้ผ่านกรอบสีแดง จะมีชื่อว่า "The Canaletto-View" ซึ่งเป็นมุมมองของจิตรกรที่มีนามว่า Bernardo Bellotto (ค.ศ. 1722-1780) ซึ่งได้สร้างสรรค์ผลงานต่างๆ และเป็นผู้ที่วาดภาพจากมุมนี้ เพื่อให้ชาวโลกรู้จักกับเมือง Dresden แห่งนี้อีกด้วย
เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปี เมือง Dresden ก็ยังคงความงามเช่นนี้อย่างแน่นอน
ด้วยความที่ให้ความสำคัญของการรักษาสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่า และมีความรักในการศิลปะของชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นพื้นฐานการอนุรักษ์ที่สำคัญ
สังเกตได้จากมุมต่างๆ ของเมืองในประเทศเยอรมัน จะมีประติมากรรมอยู่แทบจะทุกแห่ง
และความสะอาดของเมือง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ ทำให้ภาพถ่ายนั้น สะอาดสวยงามไม่ว่าจะบันทึกในมุมใด
อีกทั้งแม่น้ำลำคลองต่างๆ มีความสะอาดมาก ซึ่งบ่งบอกถึงความใส่ใจในธรรมชาติอีกด้วย
และที่สำคัญอีกอย่างคือ การปลูกต้นไม้ ดอกไม้ ที่ช่วยเพิ่มอากาศที่ดี และยังเพิ่มสีสัน ความสดชื่นได้ดีที่สุด
ยอมรับว่า หลงเสน่ห์เมือง Dresden แห่งนี้อย่างมาก เคยถามเพื่อนๆ ที่เคยมาเที่ยวที่เมืองนี้ ต่างก็บอกว่าชื่นชอบในความงาม ความสงบ ซึ่งหาได้ไม่ง่ายในเมืองอื่นๆ
เมืองขนาดไม่ใหญ่นัก สามารถเดินเที่ยวได้สบาย
ซึ่งในช่วงกลางวันและบ่ายวันนี้ พวกเรา 3 คน ยังจะมีโปรแกรมเดินเที่ยวกันต่อ รวมทั้งเข้าไปในโบสถ์ที่อยู่ในภาพนี้ รวมทั้งพระราชวัง Zwinger อีกด้วย
ได้เวลาเดินกลับไปที่พักแล้ว เพื่อนๆ น่าจะตื่นและแสดงฝีมือในการทำอาหารเช้า
ซึ่งเช้านี้ได้ภาพถ่ายมากมาย แดดเริ่มแรงอีกด้วย
เก็บรายละเอียดได้จุใจ
ท้องฟ้าสวยช่วยได้เสมอ ยิ่งทำให้ถ่ายภาพแล้วให้ท้องฟ้าเป็นฉากหลัง ช่วยให้เห็นรายละเอียดได้ชัดเจน
เดินผ่านสวนข้างวังเวง ที่ผ่านมาเมื่อเช้านี้
ดอกแดฟโฟดิวสีเหลือง (Daffodil) อวดความงาม
แม้จะใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง แต่ก็ได้บันทึกภาพความประทับไว้ได้อย่างเหงาๆ
เดินเที่ยวคนเดียวที่ว่าเหงา แต่เดินเที่ยวในเมืองที่ไม่มีใครสักคนนั้นยิ่งเหงากว่า