หากเห็นตึกรามบ้านช่องเก่าๆ กับรถยนต์สมัยใหม่วิ่งเต็มบ้านเต็มเมือง ก็จะทำให้เสน่ห์แห่งเมืองเก่าขาดหายไป ... ในทางกลับกัน เมื่อมีรถม้าเทียมเกวียนแบบโบราณ นี่ซิ ย้อนไปในอดีตอย่างแท้จริง
เดินเล่นไปเรื่อยๆ มองไปตามอาคารบ้านเรือน ก็จะพบกับงานศิลปะที่งดงามราวกับกำลังเดินอยู่ในพิพิธภัณฑ์ หรือหอศิลป์ แต่ก็มีบ้างที่ทรุดโทรมไป ปล่อยอาคารให้รกร้าง เพราะไม่ได้บูรณะอะไรก็น่าเสียดาย แต่คิดอีกที ก็ยังดีกว่าทุบทิ้งแล้วสร้างตึกใหม่ที่ใช้รูปแบบทันสมัยแบบเมืองใหม่ๆ ทั่วไป ... อยากให้คงแบบนี้ไว้ไปนานๆ รอรับนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนจะดีกว่า
เดินเลาะขนานไปกับแม่น้ำดานูบ ก็พบตุ๊กตาเจ้าหญิงน้อยที่ทำด้วยโลหะ ถือเป็นจุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่ง และฉากหลังจะเห็นพระราชวังบูดาอย่างชัดเจน
เดินต่อไปลัดเลาะไปในระหว่างช่องตึก ซึ่งเป็นทางเดิน มีร้านค้ามากมาย ก็ไปพบกับจุดรวมพล คนกินดื่ม ... ควันไส้กรอก และขนมต่างๆ ตลบอบอวลชวนหิว
เห็นขนมทำด้วยแป้ง ย่างไฟ กลิ่นหอมเลยต้องซื้อมาชิมกัน ก็อร่อยแปลกใช้ได้ และก็ยืนชมการแสดงดนตรีไปด้วย เรียกว่าบรรยากาศสนุกสนานเฮฮากันดี
เจ้าหนูน้อยพอได้ยินเสียงดนตรี ก็วิ่งกระโดดขึ้นเวทีโชว์สเต็บ เรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมได้ไม่น้อย เรียกว่า มีดนตรีในหัวใจตั้งแต่วัยเด็ก
เดินวันแรกจนบรรยากาศเริ่มมืด เพราะใกล้จะค่ำแล้ว เราก็เดินต่อเพื่อกลับมายังที่พัก ก็พบเห็นตึกรูปทรงสวยๆ มีตุ๊กตาแกะสลักสวยงามตามมุมตึก ให้เพลิดเพลิน
ถัดมาอีกเล็กน้อย ก็พบกับตึกที่ใหญ่โตสวยงาม เรียกได้ว่า ใครที่ชอบสถาปัตยกรรมแบบโบราณ คลาสสิค ต้องหาโอกาสเหมาะๆ มาเที่ยว "บูดาเปสต์" รับรองว่าเพลิดเพลิน ถูกใจแน่นอน ... พบกับตอนต่อไป จะพาไปเที่ยวโรงอาบน้ำโบราณ ซึ่งผมอ่านเจอในหนังสือท่องเที่ยวซึ่งกล่าวว่า โรงอาบน้ำโบราณ (Thermal Bath) ของบูดาเปสต์ เปรียบได้กับ ฌ็องเอลิเซ่ (Champ Elise) ของปารีส เรียกว่า ใครมาเยือนบูดาเปสต์ ต้องไปลงแช่น้ำในโรงอาบน้ำโบราณ ... จึงได้ชื่อว่า ได้มาเยือนบูดาเปสต์อย่างแท้จริง