จากโบสถ์ "Salute" พวกเรามีภารกิจอย่างหนึ่งถ้าไม่ได้ทำ จะถือว่ายังมาไม่ถึงเวนิสอย่างแท้จริง นั่นคือ การนั่งเรือกอนโดล่า ซึ่งเดินไปไม่ไกลนัก ก็มาถึงท่าเรือ
โดยปกติแล้วการล่องเรือกอนโดล่า ในระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ฝีพายเขาคิดราคาอยู่ที่ 80 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,500.- บาท
แต่ถ้าใครเดินทางมากับหวานใจแบบนี้ (+) โปรดกดเพื่อดูภาพ ซึ่งมองในภาพ จะเห็นสาวนั่งซบไหล่หนุ่ม แบบนี้ก็ดูน่าจะโอเคที่จะล่องเรือกอนโดล่าสุดโรแมนติค
แต่ถ้ามาเที่ยวแบบขำขำ เก็บตังส์ไปดื่มไวน์รสนุ่มดีกว่า แล้วเลือกลงเรือกอนโดล่า ข้ามฟากแบบนี้ ก็ถือว่าได้มีโอกาสนั่งเรือกอนโดล่าแล้วในราคา 1 ยูโร หรือ 45 บาท ต่อคน
จะเลือกฝีพาย หน้าตาละม้ายคล้ายดาราฮอลลีวู๊ด Russell Crowe พระเอกในภาพยนตร์เรื่อง Gladiator มาพายให้ก็ได้
อยากนำเรือพายบ้านเรา มาพายในแกรนด์คาแนล (Grand Canal) น่าจะดี ขอคิดตังส์แค่ครึ่งยูโรพอ สงสัยชาวอิตาลีคงมาลองกัน เพราะเป็นของแปลกในบ้านเขา
มองเห็นฉากหลังเป็นโบสถ์ "Santa Maria della Salute" แถมฝีพายกอนโดล่า บอกยี่ห้อเวนิสได้ครบเลยภาพนี้
ล่องเรือโดยสวัสดิภาพข้ามมาถึงอีกฝั่งแล้ว ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ประทับใจ ไม่ลืมเลือน ไว้โอกาสหน้าจะมาใช้บริการอีก
มาถึงโบสถ์อีกหลังคือ โบสถ์ซานตามารีอา เดล จิลโย (Chiesa di Santa Maria del Giglio) อยู่บริเวณจตุรัสข้างแกรนด์คาแนล (Grand Canal) ด้วยศิลปะแบบบาโรกเวนิส ซึ่งตระกูลบาร์บาโร มอบหมายให้สร้างขึ้น
ด้านหน้าอาคารจึงมีตราประจำตระกูล เรือ และรูปปั้น เพื่อยกย่องบรรพชนที่ประสบความสำเร็จในการเดินเรือและการเมือง แผนที่นูนต่ำตามฐานชั้นล่างเป็นภาพเมืองต่างๆ ที่สมาชิกของตระกูลถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่ เช่น ซารา, แกนดีอา, ปาดูอา, โรม, กอร์ฟู, สปาลาโต ภายในโบสถ์มีภาพวาดเพียงชิ้นเดียวของ "รูเบนส์" ศิลปินเอกชาวเฟลมิช เป็นรูปพระแม่มารีและพระบุตรที่อ่อนช้อย ส่วนงานศิลปะฝีมือตินโตเรตโต คือ ภาพผู้เผยแผ่ศาสนาคริสต์ ประดับประตูออร์แกน
เดินมาเจอมุมเด็ด เรือกอนโดล่าคู่กัน ยิ่งทำให้ภาพดูโรแมนติคยิ่งขึ้น
ชอบสีสันของเรือ 2 ลำนี้มากกว่าการใช้เบาะหนังสีแดงซะอีก
ดูขรึมแต่หรูหราไปด้วย และชอบราวสะพายเหล็ก เข้ากันได้ดีจริงๆ
ในบางบริเวณที่ไม่มีเรือกอนโดล่า แต่ก็ยังชอบสถาปัตยกรรม สีสันของตัวอาคาร และสีเขียวของพื้นน้ำ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเห็นแบบนี้ เพราะจะมีเรือกอนโดล่าล่องผ่านไปเสมอๆ
เท่าที่สังเกตดู มักจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเป็นส่วนมาก คงจะมากันเป็นกรุ๊ปทัวร์
แต่ละคนก็ยกกล้องขึ้นบันทึกภาพให้กันและกัน และยังบันทึกบรรยากาศรอบข้าง
นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านมาบนสะพานก็มักจะหยุดดู ชื่นชมการพายเรือผ่านไป
มาชมการตกแต่งเรือกอนโดล่ากันแบบชัดๆ ซักภาพ
ดูเหมือนง่าย แต่เชื่อว่าคงต้องฝึกฝนกันนานเป็นปี กว่าจะควบคุมเรือให้แล่นไปในคลองขนาดเล็กๆ แบบนี้ ซึ่งไม่ง่ายนัก อีกทั้งยังต้องมีการถ่วงน้ำหนักระหว่างพายไปด้วย
ฝีพายคนนี้คงจะมีประสบการณ์สูงอย่างแน่นอน
จากคลองเล็กๆ สู่คลองใหญ่ แกรนด์คาแนล ที่อยู่ข้างหน้า
พบเห็นเด็กวัยรุ่นจับกลุ่มนั่งคุยกับริมน้ำใสของคลองในเวนิส
เดินมาเจอกับโบสถ์อีกหนึ่งหลัง แต่ยังหาข้อมูลไม่พบเลยว่าเป็นโบสถ์ชื่ออะไร งั้นขออนุญาตข้ามเรื่องราวไปก็แล้วกัน
มองเห็นคนขายภาพวาดเมืองเวนิส สวยดีจัง และยังมีชายหญิงคู่นั้น แต่งตัวย้อนยุคเชิญชวนให้ชมการแสดงโอเปร่า
สำหรับเอนทรีนี้ ขอปิดท้ายที่ภาพโบสถ์แห่งนี้ ไว้จะไปค้นคว้าชื่อและข้อมูล แล้วย้อนกลับมาปรับปรุงเนื้อหาภายหลัง แต่เอนทรีต่อไปขอพาไปชม "จตุรัสซานมาร์โก้" ถือเป็นไฮไลท์อย่างหนึ่งของการมาเที่ยวเวนิสเลยก็ว่าได้ มาติดตามต่อไปเรื่อยๆ นะ
ใครจะนั่งเรือกอนโดล่ามั้ยครับ? ติดต่อได้เลยที่นี่ ผมจะพายให้ คิดราคาไม่แพงนะ แค่พิซซ่า 1 ถาดครับ ฮ่าๆ