บรรยากาศยามค่ำคืนในเวนิสนั้น มีความสวยงามไม่แพ้ช่วงกลางวัน ได้เห็นแสงสีจากสถาปัตยกรรมต่างๆ รวมไปถึงวิถีชิวิตของผู้คน ได้เห็นชายกำลังส่องไฟเพื่อตกปลาหมึกที่ยืนอยู่ตรงนั้น แสดงถึงความสะอาดและอุดมสมบูรณ์ของทะเลแห่งนี้ (+) กดที่นี่เพื่อชมภาพขยาย

มองเห็นโบสถ์ซานจอร์โจ มัจโจเร (San Giorgio Maggiore) ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากวิหารแบบกรีกซึ่งอยู่ตรงข้ามจุดที่ยืนอยู่นี้ ขอซูมภาพให้เห็นแบบใกล้ๆ กันว่า สวยงามมากจริงๆ

หากมองไปทางด้านขวามือ เห็นเรือกอนโดล่าที่หยุดพักการให้บริการ

ซึ่งกระทบแสงจันทร์ เพิ่มความงามในการชม "เวนิสยามค่ำ" ในคืนนี้ได้อย่างดี

ลมพัดเอื่อยๆ แต่เป็นลมหนาว ยิ่งเพิ่มความสุขในการเที่ยวชม สมกับการตั้งชื่อซี่รีส์นี้ "ร้อนนัก ไปพักร้อน" ได้จริงๆ

ถ้าหันหลังกลับ ก็จะมีร้านอาหารที่ยังเปิดให้บริการกันอยู่

เดินต่อไปตามทางเดิน ก็ได้เห็นเรือที่มาจอดเทียบท่า อย่างลำนี้เดินทางมาจากปานามา (Panama)

จากบนสะพานมองลึกเข้าไปในย่าน Castello ในฝั่งซ้ายมือ จะมองเห็นอาคารอยู่สุดสายตา ซึ่งเป็นอาคารประวัติศาสตร์ที่ถูกดัดแปลงมาใช้ประโยชน์อย่างอื่นในปัจจุบัน

นั่นก็คือ "Arsenale" อู่ต่อเรือประวัติศาสตร์อาร์เซนาเล ในอดีตเคยเป็นอู่ต่อเรือที่น่าเกรงขาม ตั้งชื่อตามภาษาอาหรับ darsina'a หมายถึง โรงงานอุตสาหกรรม ยุคที่รุ่งเรืองสุด เคยจ้างแรงงานถึง 16,000 คน ผลิตกองเรือรบที่แล่นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อขยายและปกป้องแสนยานุภาพของสาธารณรัฐผ่านการติดต่อค้าขายและความยิ่งใหญ่ของกองทัพเรือ (+) กดที่นี่เพื่อชมภาพขยาย

ด้วยความภาคภูมิใจในระบบการต่อเรือ ที่นี่สามารถต่อเรือหนึ่งลำ เสร็จได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

ตามบันทึกเมื่อปี ค.ศ. 1574 ขณะที่กษัตริย์เฮนรีที่ 3 ของฝรั่งเศส กำลังสนุกกับงานเลี้ยง ... อาร์เซนาเลโอบล้อมด้วยกำแพงและหอสูงที่มีสิงโตติดปีก

ซึ่งในภายหลังอู่เรือและโรงงานสมัยเก่าบางแห่ง ถูกดัดแปลงไปเป็นสถานที่จัดแสดงละครและนิทรรศการงานศิลปะ (+) กดที่นี่เพื่อชมภาพขยาย

ส่วนสิงโตหินที่เฝ้าประตูอยู่นี้ ได้มาจากการปล้นสะดมตามเกาะต่างๆ

เดินมาเจอ "น้ำนิ่ง ไหลลึก" อีกแล้ว

อาจมองคุ้นตาไปหมด แต่ขอบอกว่า "เดินหลงทางได้ง่ายมาก ไม่เพียงแต่หลงความงาม" (+) กดที่นี่เพื่อชมภาพขยาย

บรรยากาศยามค่ำนี่เงียบมาก เรียกว่าได้ยินแต่เสียงรองเท้าของเราที่ตกกระทบกับพื้น และเสียงที่เราพูดคุยกับเพื่อนที่เดินไปด้วยกัน สลับกับเสียงชัตเตอร์ ... แช๊ะ! แช๊ะ!

อีกมุมหนึ่งยามค่ำคืนของ แกรนด์คะแนล (Grand Canal) หรือ ทางด่วนของเวนิส เป็นหนึ่งของคูคลอง 177 สายที่ไหลผ่านเมือง

และจัตุรัสซานมาร์โก้ ที่เดินผ่านมากี่ทีไม่มีเบื่อ

บรรยากาศเป็นใจให้ได้กอดกัน

ร้านอาหารยังเปิดให้บริการกันอยู่ ล้อมรอบด้วยบรรยากาศสวยงาม

 

ชมโบสถ์ซานมาร์โก้ยามค่ำคืน ที่ซึ่งถูกนำไปสร้างเลียนแบบหลายแห่งในโลกนี้ แต่ก็ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ให้อยากมาชมของจริงที่นี่

โอ้ว! ชอบบรรยากาศ และสีสัน

ได้เวลาสงบนิ่ง คือหยุดพักเอาแรงบ้าง พรุ่งนี้ยังมีภารกิจตลุยเวนิสกันต่อ แถมยังไปเที่ยวยังเกาะอื่นอีก 2 เกาะ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับเวนิสอีกด้วย ... ไว้มาติดตามกันต่อ ถูกใจแน่นอน

ปิดท้ายด้วยแสงจากนอกหน้าต่างร้านเหล้าและบาร์ไวน์ (Osterie) ซึ่งมีอยู่หลายๆ แห่งในเวนิส ทั้งแบบบาร์มีชีวิตชีวา บาร์อึกทึกครึกโครม ให้เลือกได้ตามอำเภอใจ