พวกเราเดินทางมาถึงเกาะมูราโน (Murano) ซึ่งมีชื่อเสียงมานานในการทำแก้ว โดยมูราโนมีการพัฒนาเทคนิคการเป่าและหลอมแก้ว มาตั้งแต่สมัย ค.ศ. 1291
จะค่อยๆ พาชมบรรยากาศเริ่มจากท่าเรือ Colonna มองเห็นร้านอากาศบรรยากาศน่านั่งรับแดดในวันแดดแรง ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย และร้าน CAM เป็นร้านแรกที่มองเห็นเมื่อขึ้นฝั่งที่เกาะมูราโน ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องผลิตสินค้าทันสมัย จนเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ
เดินชมบรรยากาศไปเรื่อยๆ ตามมาเลยนะ
มองเห็นโมเสครูปไก่ข้างกำแพงดูสวยดี
มีร้านค้าขายเครื่องแก้วอยู่เรียงราย มีทั้งชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงชิ้นใหญ่
บนเกาะนี้ไม่มีเรือกอนโดล่า มีแค่เรือพายแบบนี้ ท่าทางน่าจะเป็นนักท่องเที่ยว มาทดลองพายเล่นกัน น่าสนุกดีจัง
มองเห็นสะพาน จึงเดินไปยืนอยู่กลางสะพาน เพื่อบันทึกภาพและมองเห็นเกาะ "ซานมิเกเล" อยู่ใกล้ๆ
ส่วนอีกด้านหนึ่งก็ยังเห็นระยะทางอีกไกล ที่เราจะเดินไปเที่ยวกัน ... มาเล่าต่อเกี่ยวกับเทคนิคการเป่าแก้วและหลอมแก้ว มาถึงจุดสูงสุดในทศวรรษ 1500
มีการระมัดระวังไม่ให้ความลับทางการค้านี้รั่วไหล ถึงขนาดช่างฝีมือย้ายถิ่นได้ ก็ต่อเมื่อเจ็บป่วยเจียนตายเท่านั้น
แม้การผูกขาดการค้าแก้วของมูราโนนั้น จะอยู่ถึงแค่ศตวรรษที่ 17 แต่ชื่อเสียงยังดำรงสืบต่อมา
ไม่ควรพลาดชมพิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วที่มีของจัดแสดงถึง 4,000 ชิ้น
และที่เพลินไม่แพ้กันคือ เดินชมเรือที่จอดอยู่ตามลำคลอง อยากเป็นเจ้าของซักลำจะได้แล่นลัดเลาะไปทั้งเกาะ
อย่างลำนี้เหมือนใครเอาไส้กรอกมาร้อยเรียงไว้
มีสาวเดินข้ามสะพาน ซึ่งชื่นชมบรรยากาศที่ดูสงบ ไม่เร่งรีบ ไม่มีมลพิษทางอากาศและเสียง
นอกจากเครื่องแก้วแล้ว มูราโนยังเป็นสถานที่สวยงามน่าเดินเที่ยว มีลำคลอง ตรอกซอกซอยและชาวเกาะที่เป็นมิตร
และยังมีร้านกาแฟน่ารักๆ ตามทางเดิน อย่างร้าน Segafredo ก็มาเปิดในบ้านเราเหมือนกัน
มองเห็นหอคอย หรือหอระฆัง ไม่แน่ใจขอเดินไปดูใกล้ๆ ก่อน
ได้หยุดแวะซื้อปลาแก้วมูราโนมาเป็นของฝากจากแหล่งผลิต ซึ่งมีกระเปาะแก้วบรรจุอากาศภายใน จะได้วางไว้ในขวดโหลแล้วปลาก็ลอยอยู่ได้
มองเห็นแก้วสีน้ำเงินขนาดใหญ่อยู่ตรงนั้น สมกับเป็นเกาะเป่าแก้วพิสดาร รูปร่างแปลกดี
เพื่อนถ่ายรูปให้ คนหรือหอคอยสูงกว่ากัน
มาถึงหัวมุมแล้ว พวกเราจะเดินข้ามสะพานไป และแวะร้านกาแฟซักหน่อย
ชอบสีสัน อิตาลี้ ... อิตาลี
เรือสองแม่ลูก ... อย่าดื้อนะลูก
เรามาแวะดื่มกาแฟ และทานอาหารกลางวันกัน ที่สำคัญที่สุด "สุขา ... อยู่หนใด"
ด้วยความที่เป็นคอกาแฟ Latte' ตัวจริง ไปร้านไหน ขอชิมร้านนั้น
ที่สำคัญคือ ขอชมการปรุงไปด้วย ซึ่งแต่ละร้านก็มีเทคนิคบางอย่างที่ต่างกันบ้าง และได้อร่อยกับรสชาดกาแฟที่ถูกปากคอกาแฟจริงๆ
แกล้มกับแซนวิชหลากหลายชนิดไปด้วย รวมทั้งสั่งเครื่องดื่มคอกเทลมาชิมกัน เพิ่มอรรถรสได้อย่างดี
อิ่มแปร้ ได้เวลาเดินย่อย และทำหน้าที่บันทึกบรรยากาศด้วยภาพถ่ายต่อไป
เรียกเพื่อนหันมาหน่อย จะถ่ายรูปให้ แช๊ะ! ... หัวหน้าทีมก๊วนซ่า พาตลุยทริปนี้ ซึ่งเพื่อนเคยมาเวนิสแล้วหลายครั้ง บอกว่าสวยมากๆ จึงอยากชวนให้ก๊วนมาเที่ยวกัน ถ้าไม่ชวนครั้งนั้นก็คงไม่เกิดทริปมหากาพย์ครั้งนี้ นี่ก็ปาเข้าไป 35 ตอนแล้ว ไม่รู้ว่าเบื่อกันหรือยัง?
ทำไงได้ ก็อยากเก็บบรรยากาศไว้ ย้อนกลับมาดูเมื่อไรก็นึกถึงวันเวลาดีๆ ที่น่าประทับใจ ... นั่งมุมนี้ ทานแซนวิชก็อร่อย เพราะได้เครื่องปรุงรสเป็นบรรยากาศสุดโรแมนติค ... แม้จะเอาสเต๊กจานใหญ่ในที่นั่งโรงแรมหรูหรามาแลก ก็ไม่ยอม!