Disable Preloader




ร้อนนัก ไปพักร้อน : ตอนที่ 43 "จากลา เวนิส ฉันจะปิ๊ก แฟรงค์เฟิร์ต"

ไม่มีงานเลี้ยงใด ไม่เลิกรา ฉันใด ... ก็ไม่มีการท่องเที่ยวใด ไม่เลิกรา ฉันนั้น ... อีกอย่าง ก็ต้องกลับมาทำงาน  ปั้มเงินก่อนนะซิ ถึงจะไปเที่ยวทริปต่อไป หากวันๆ ไม่ต้องทำงาน ก็ไม่แน่เหมือนกันว่า อาจจะเบื่อได้เหมือนกัน สู้แบบนี้ "ร้อนนัก ไปพักร้อน" ดีกว่า

ในย่านนี้ได้แต่เดินผ่าน หรือนั่งเรือผ่าน อย่างที่เคยบอก หากจะเดินเที่ยวเวนิสให้ครบ คงต้องอยู่ซัก 1 สัปดาห์เต็ม

แต่เดินมา 4 วันเต็มแล้ว หมดสภาพนักศึกษา เดินขาขวิดได้เหมือนกัน แต่เพื่อนบอก สบายมาก!

เดินลงสะพานนี้แล้ว เราก็จะมาถึงสถานีรถโดยสาร ที่เราต้องใช้เดินทางไปยังสนามบิน

ระหว่างรอเวลารถโดยสารออก ก็อดไม่ได้ที่ขอชนแก้ว ... Toast! ที่พวกเราทำภารกิจได้สำเร็จ

และต้องขอขอบคุณเพื่อนหัวหน้าก๊วน ที่พาพวกเรามาร่วมทำภารกิจได้ดังใจหมาย

พอนั่งรถประจำทางข้ามสะพานเขาสู่แผ่นดินของอิตาลี หลังจากติดเกาะบนเวนิสมาหลายวัน

บรรยากาศเป็นอีกแบบเลย ต่างจาก 3-4 วันที่ผ่านมา

เห็นสะพานแขวนสวยดี

เราก็มาถึงประตูทางเข้าสนามบิน Marco Polo Venice Airport สังเกตเห็น "Italian Kiss" พอดี (ภาพในมุมซ้าย) เรียกว่า มาถึงอิตาลีแล้วจริงๆ ทริปต่อไปต้องขอชม "French Kiss" ดูบ้าง

ช่วงที่เดินผ่านประตูเข้ามา มองเห็นป้ายโฆษณาสีขาวดำ เลยนึกสนุก ลองถ่ายภาพขาวดำแนวนี้ดูบ้าง ระหว่างรอบิน

ได้อารมณ์ไปอีกแบบ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของภาพขาวดำ ที่คลาสสิคเสมอ ทอดอารมณ์ไปกับกาแฟหอมกรุ่น

โดยเฉพาะการถ่ายภาพบุคคล ยิ่งได้ภาพที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี

เครื่องออก 17:25 Gate 010

เพื่อนขอนอนดู TV ไปก่อนเพราะอีกนาน แล้วเราก็กลับมาถึงสนามบิน Frankfurt ในช่วงเย็น

เช้าวันใหม่ใน Frankfurt ก่อนปิ๊กบ้านที่กรุงเทพฯ ตอนหัวค่ำ ดังนั้น มีเวลาเดินช๊อปปิ้งได้อีก 1 วันเต็ม

พวกเราก็เดินกันมาที่ร้านนาฬิกา ยี่ห้อ Frankfurt ซึ่ง 2 ปีที่แล้ว เราพลาดไป เพราะกลับมาจาก Berlin ในวันเสาร์ ช่วงเย็น ซึ่งร้านปิดไปแล้ว

มาปีนี้ เพื่อนๆ ก็เลยตั้งใจมาเลือกนาฬิกา ดีไซน์แปลกๆ ไว้ใส่เล่นและเป็นของฝากกัน ... ที่เห็นในภาพนั้น ไม่ได้เตรียมปล้นร้านนาฬิกานะ ... ขนาดเจ้าตูบยังวิ่งหนีเลย แต่เพื่อนๆ ก็ซื้อกัน 4-5 เรือน ก็เกือบเรียกว่าปล้นแล้ว แต่ก็จ่ายเงินเจ้าของร้านนะ

ดอกไม้หน้าร้าน ขาวโพลนไปหมด

ถนนหน้าร้านก็มีรถรางวิ่งไปมา ซึ่งอยากให้มีในบ้านเรามากที่สุด แต่คงไม่มีโอกาสเพราะบ้านเรามีรถมอเตอร์ไซด์มาก อีกทั้งวินัยจราจรที่รถยนต์ จะวิ่งตามก้นรถรางแบบนี้ คงทำไม่ได้

เหลือบไปเห็นดอกหญ้า ที่เคยเห็นใน Wallpaper มาบ้าง จึงขอโอกาสเก็บภาพแบบนี้เองบ้าง ... แช๊ะ!

ร้านนาฬิกาจะอยู่ใกล้ๆ กับร้านขาหมูทอด ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้วเรามาทานกันที่ร้านนี้ แต่ปีนี้เราเปลี่ยนไปลองที่ร้านอื่นแทน เหยือกที่เห็นนั้น จะเป็นไวน์ผลไม้ สีส้มๆ ดื่มแล้วเมาง่ายมากจริงๆ

ถือว่ากลับมาเยี่ยมเยือนอีกครั้ง สภาพยังเหมือนเดิม

ได้เวลาเดินต่อไปยังร้านค้า เดินผ่านร้านขายดอกไม้ ซึ่งมีอยู่หลายจุด แสดงว่าคนยุโรปเป็นคนรักธรรมชาติ

เหลือบไปเห็นเจ้า BMW คันงาม กับเส้นซิกแซก เดาว่าน่าจะเป็น "เขตห้ามจอด" เหมือนขาวแดงบ้านเรา

เป็นที่น่าเสียดายที่เราเดินทางไปถึงมิวนิคแล้ว แต่วันที่เราว่างนั้นเป็นวันจันทร์ ซึ่งทาง BMW Museum ปิด ก็เลยไม่ได้ไปเที่ยวชม คงต้องเก็บไว้ในโอกาสต่อไป ไว้มาตามในตอนต่อซึ่งเหลืออีก 2 ตอนก็จะปิดเล่มแล้ว มาติดตามต่อให้ได้นะ