Disable Preloader




ร้อนนัก ไปพักร้อน 2013 ตอนที่ 6 : ไปรอชมฟ้ายามโพล้เพล้ที่กรุงโรม โอ้วสุดโรแมนติค

หลังจากเดินออกจากเนินเขากาปิโตลีเน จะมาถึงบริเวณโรมันฟอรั่ม หากมองไปไกลๆ ยังได้พบกับโบราณสถานขนาดใหญ่ ก็คือ อิมพีเรียลฟอรั่ม (Imperial Forums) หรือ ฟอรั่มหลวง ประกอบไปด้วย เขตโบราณสถานที่ จูเลียสซีซาร์ และจักรพรรดิ 3 พระองค์สร้างขึ้น

มองเห็นโบสถ์ซานตีสชิโม โนเม ดิ มาเรีย และเสาคอลัมน์จักรพรรดิทราจัน (Trajan's Column) สูง 29.8 เมตร ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อฉลองชัยชนะของพระองค์ เมื่อปี ค.ศ. 106 เหนืออาณาจักรตาเซีย (Dacia) ซึ่งก็คือ ประเทศโรมาเนียในปัจจุบัน บนยอดเสาเคยมีรูปหล่อทองคำจักรพรรดิทราจัน ตั้งประดับไว้แต่ก็ได้สูญหายไป พระสันตะปาปาชิกตุสที่ 5 จึงรับสั่งให้นำรูปหล่อเซนต์ปีเตอร์ขึ้นไปตั้งไว้แทน

ตรงหน้าสถาปัตยกรรมสีอิฐแดงนั้น คือ ซากตลาดทราจัน (Mercati di Traiano) อาคาร 5 ชั้นรูปครึ่งวงกลม มีระเบียงทางเดินและร้านค้าราว 150 ร้าน เป็นสถานที่ขายอาหาร ผักสด และสินค้าต่างๆ

มีลานกว้างด้านหน้านั้นเป็นสถานที่จัดแสดง สร้างความบันเทิงเรียกลูกค้า มองไปแล้วคล้ายกับห้างสรรพสินค้าในยุคปัจจุบันของเรานั่นเอง

ขอนำภาพที่ได้จากอินเตอร์เน็ตมาประกอบ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของสถานที่บริเวณนี้

มองเห็นอนุสาวรีย์จักรพรรดิแนร์วา บริเวณนี้ยังได้เห็นซากปรักหักพังของ แนร์วาฟอรั่ม (Foro di Nerva) เพื่อบ่งบอกให้รู้ว่าที่นี่เคยเป็นเขตของพระองค์

ในบริเวณนี้สามารถเดินเที่ยวชมได้ตลอดถนนใหญ่ (Via dei Fori Imperiali) ที่ตัดผ่านจาก ปิอัซซ่าเวเนเชีย ไปยัง โคลอสเซียม

จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันเสาร์พอดี ซึ่งเปิดให้เป็นถนนคนเดินในช่วงบ่ายๆ

จึงได้มองเห็นการแสดงเปิดหมวก แบบแนวๆ หลายโชว์

เรายังเดินอยู่ในบริเวณโรมันฟอรั่ม ซึ่งบ่ายๆ อากาศดีวันนี้ และปิดเป็นถนนคนเดิน ทำให้มีผู้คนมาเดินเป็นจำนวนมาก

ถือโอกาสเก็บบันทึกภาพไว้หวนระลึก และเป็นความทรงจำที่ดีไว้

ซึ่งไม่ว่าจะมองไปทิศใด ก็ได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่รุ่งเรืองในอดีต สุดอลังการ แม้ในยุคนี้เทคโนโลยีการก่อสร้างจะก้าวไปไกลเพียงใด แต่เทียบไม่ได้กับความยิ่งใหญ่ในอดีตได้

เดินตรงไปทาง โคลอสเซียม ซึ่งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์โลกยุคใหม่

ระหว่างทางก็หยุดเก็บภาพบรรยากาศไปด้วย

แวะทักทายเจ้านางนวล ซึ่งต้องแอบอิจฉาเพราะได้บินชื่นชมกรุงโรม ในมุมสูงได้ทุกวัน

มองเห็นตากล้องกำลังถ่ายภาพแบบ Time Lapse หรือ การถ่ายภาพในช่วงเวลาหนึ่งๆ ใช้เทคนิคเหมือนการถ่ายทำภาพยนตร์แบบเร่งความเร็ว โดยสามารถย่นระยะเวลาจาก ปี เดือน วัน ชั่วโมง มาเหลือเพียงนาที หรือไม่กี่วินาทีเท่านั้น เช่น 10 วินาที ต่อเฟรม ก็จะถ่ายภาพหนึงภาพ และจะเลื่อนขยับกล้องอัตโนมัติด้วยอุปกรณ์ไปทางซ้าย และถ่ายภาพถัดไปเว้นระยะ 10 วินาที และเมื่อนำภาพมาต่อกัน ก็จะเหมือนเป็นภาพเคลือนไหวแบบภาพยนตร์นั่นเอง

มีตัวอย่างมาฝากจาก YouTube เพื่อให้เห็นภาพและความอลังการในการชม

จับเพื่อนมาเป็นนายแบก ... เอ๊ย! นายแบบ ... แบบว่า ... เอ่อ?!?!

ขอเป็นนายแบก ... กล้องหนักดูมั่ง

ไม่รู้ว่า คู่รัก คู่ใด ได้สลัดรักไว้ข้างโคลอสเซียม

แดดร่มลงแล้วกำลังรอแสงสวยๆ สาดส่องโคลอสเซียม

มีรถม้าผ่านมาพอดี ไม่นานนักก็ได้เห็นแสงทองสาดส่อง เพิ่มความงามยามโพล้เพล้

เมื่อมองหันกลับไปด้านตรงข้ามยิ่งได้เห็นความสวยงามของท้องฟ้า แสงสุดท้ายของวัน

มีการไล่โทนสีสัน เคยเห็นท้องฟ้าแบบนี้ภาพวอลเปเปอร์ในหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่คิดว่าจะเป็นภาพสีสันจริงจากธรรมชาติ สุดโรแมนติค

ใครๆ ก็หยุดมองกันรอชมการแสดงจากธรรมชาติ

คงเป็นเพราะเมืองหนาวหรือสภาพอากาศที่ดี เพราะไม่ค่อยได้พบเห็นแบบนี้ในบ้านเรา

ชื่นชมสีสันจนเพลิน

เริ่มมืดลงอย่างรวดเร็ว ก็ได้เวลาอาหารค่ำในวันนี้แล้ว

อะไรจะดีไปกว่า อาหารอิตาเลียน มาถึงอิตาลีทั้งที ขอทานอาหารอิตาเลียน ให้หนำใจ เลี่ยนกันไปข้างนึง

ซึ่งในวันพรุ่งนี้ เราจะอีกประเทศ นั่นก็คือ นครวาติกัน ซึ่งเป็นประเทศเอกราชที่เล็กที่สุดในโลกนั่นเอง ไว้มาติดตามกันต่อนะ