ยังท่องเที่ยวกันต่อในฤดูใบไม้ผลิที่เกาะฮอกไกโด ซึ่งฤดูนี้ช่างมีสีสัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ สวนทิวลิปคามิยูเบ็ทสุ (Kamiyubetsu Tulip Park) かみゆうべつチューリップ公園 ที่รวบรวมต้นทิวลิป (Tulip) หลากหลายสีสัน หลากหลายสายพันธุ์ อลังการงานสร้างจริงๆ
ซึ่งสวนแห่งนี้เก่าแก่และมีชื่อเสียง โดยปลูกต้นทิวลิปกว่า 200 สายพันธุ์ และมีดอกทิวลิปกว่า 1.2 ล้านต้น บนพื้นที่ประมาณ 70,000 ตารางเมตร
ช่วงเวลาที่ควรมาเที่ยวชมคือช่วงต้นเดือนพฤษภาคม-ต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งจัดเทศกาล Kamiyubetsu Tulip Fair และในปี พ.ศ. 2559 นี้ พิเศษตรงที่ฉลองครบรอบ 30 ปี พอดี ซึ่งบล๊อกเกอร์เดินทางมาในวันที่ 20 พฤษภาคม ของปีนี้ ถือว่าเป็นช่วงที่ดอกทิวลิปกำลังบานมากกว่า 90%
ทิวลิปมีถิ่นกำเนิดแถบเอเชียกลาง ได้แก่ อิหร่าน, ตุรกี รวมถึง สเปน ซึงก็อยู่ในระนาบเดียวกันในแผนที่ ทำให้มีภูมิอากาศคล้ายคลึงกัน แต่ได้นำเข้ามาปลูกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ. 1863 โดยนำเข้ามาจากประเทศฝรั่งเศส โดยเริ่มปลูกในแถบ Yokohama, Chiba,Niigata และ Toyama หลังสงครามโลกครั้งที่ 2
แต่สำหรับที่เมือง Yubetsu Kamiyubetsu แห่งนี้ ได้เริ่มปลูกเมื่อปี ค.ศ. 1957 เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชาวสวน ซึ่งได้นำหัวต้นทิวลิป 22 สายพันธุ์ ราว 60,500 หัว เข้ามาปลูกจนได้ชื่อว่า เมืองแห่งดอกไม้ เพื่อส่งออกหัวต้นทิวลิป
แต่เนื่องจากมีการปลูกในหลายๆ ประเทศจึงทำให้ราคาตกลงในแต่ละปี จนกระทั่งปี ค.ศ. 1987 จึงเปลี่ยนจากการปลูกหัวทิวลิปเพื่อส่งออก มาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยสร้างอาคารกังหันลม (Dutch Windmill-Type Building) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์และเกิดเป็นสวนทิวลิปจวบจนทุกวันนี้
เจอเข้ากับ Mascot น้องสาว คือ เจ้าลิป (Lip!) สำหรับตัวพี่ชายจะมีสีเหลืองมีชื่อว่า เจ้าทิวปิต (Tupit) แต่ไม่รู้ว่าหายไปไหนตอนนี้
สำหรับทริปนี้ บล๊อกเกอร์ไม่ได้เดินทางเอง แต่มากับทัวร์เพราะการเดินทางใน ฮอกไกโด นั้น ยังไม่สะดวกสบายด้วยรถไฟเหมือนกับภูมิภาคหรือเกาะอื่นๆ ของประเทศญี่ปุ่น จึงใช้การเดินทางด้วยทัวร์แต่ก็แยกตั๋วขากลับเพื่ออยู่เที่ยวต่อเอง แต่ก็ยอมรับว่าแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่งนั้น ห่างไกลกันมากพอสมควร นั่งรถบัสนานเหมือนกัน
การเดินทางมายังเมืองมอนเบ็ทสึ ซึ่งเมืองนี้ไม่มีรถไฟผ่าน (สถานีรถไฟใกล้ที่สุดคือ JR Setose และ JR Engaru Station) ดังนั้นต้องต่อรถยนต์จากเมืองใหญ่ อย่างซัปโปโร (Sapporo) หรืออาซาฮิคาวะ (Asahikawa) โดยรถบัสที่ให้บริการคือ โดโฮกุบัส ดูตารางเวลารถบัสที่วิ่งระหว่างเมือง Sapporo –>Asahikawa –> Monbetsu ได้ที่นี่ www.dohokubus.com หรือบินไปลงที่สนามบินมอนเบ็ทสึโดยตรง
จากซัปโปโร -> มอนเบ็ทสึ ขึ้นรถที่ป้ายหมายเลข 14 ด้านหน้า Sapporo Ekimae Bus Terminal ใต้ตึก Easta (ด้านข้างของสถานี JR Sapporo) รถออกประมาณวันละ 4 เที่ยว ใช้เวลาราวๆ 5 ชั่วโมงเศษ
จากอาซาฮิคาวะ -> มอนเบ็ทสึ ขึ้นรถบัสที่ป้ายฝั่งตรงข้ามสถานี JR Asahikawa (ข้างโรงแรม Fujita Kanko Washington) รถออกประมาณวันละ 4 เที่ยว ใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมง
จาก JR Engaru ->มอนเบ็ทสึ ขึ้นรถบัสสาย Kitami Bus / Hokumon Bus หน้าสถานี JR Engaru เพื่อไปยังเมืองมอนเบ็ทสึ ใช้เวลาประมาณ 80 นาที รถบัสจะจอดที่ Monbetsu bus ternimal เลย
เรียกได้ว่าสะดวกแบบไหนเลือกได้ตามสบาย หรือจะเช่ารถขับเองก็ไกลพอดูจาก Sapporo GPS: 44.159179,143.578935
มาแบ่งกลุ่มรูปแบบของดอกทิวลิปกันดูว่ามีแบบไหนกันบ้าง ... อย่างแบบนี้เรียกว่า Eight-Layer Tulip
นี่ก็ Lily-Style Tulip
แบบนี้เห็นบ่อยๆ เรียกว่า One-Layer Tulip
ยังมีแบบ Fringed Tulip, Cape Cowslips-Tyle Tulip, Parrot Tulip และ Georgette Tulip แต่ขอข้ามไปดีกว่า กลัวจะชี้ผิดเพราะลายตาไปหมดแล้วตอนนี้
มีการวางแผนปลูกอย่างดี ทำให้บานได้พร้อมๆ กัน
ชาวสวนก็ดูแลอย่างดี
บล๊อกเกอร์ก็หน้าบานแข่งกับดอกทิวลิป
เกินความคาดหมายจริงๆ และไม่รู้มาก่อนว่าจะมีสวนทิวลิปแบบนี้ที่ฮอกไกโด
เคยมีโอกาสไปชมทิวลิปที่ Huis Ten Bosch ก็นึกว่ามีเยอะแล้ว แต่มาเจอที่นี่ มีมากกว่าหลายเท่า
เคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้ สามารถกดไปดูได้ที่
- Huis Ten Bosch ทุ่งทิวลิปและหมู่บ้านฮอลแลนด์ขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น ตอนที่ 1
- Huis Ten Bosch ทุ่งทิวลิปและหมู่บ้านฮอลแลนด์ขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น ตอนที่ 2
ดีใจที่วันนี้อากาศดี แดดแรงเหมาะแก่การถ่ายภาพจริงๆ
กรณีที่มาท่องเที่ยวฮอกไกโดแล้วพักอยู่ที่ซัปโปโร แนะนำให้เดินทางไปกับทัวร์ ซึ่งจะทำให้ประหยัดเวลาและไม่ต้องกังวลกับการเดินทาง มีทัวร์ที่ให้บริการเที่ยว 1 วัน เต็ม (ทัวร์เฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน) ตั้งแต่ 07:50 – 20:00 น. ชมสวนพิงค์มอสและสวนทิวลิป ซึ่งทัวร์จะมารับที่สถานี JR Sapporo ใกล้ทางออก North ราคาอยู่ที่ 7,980 เยน
ก็ได้มาท่องเที่ยวชมความงามของธรรมชาติที่สร้างสรรค์โดยฝีมือชาวญี่ปุ่น
ซึ่งบ้านเราก็มีการพัฒนาสวนดอกไม้ช่วงฤดูหนาวกันบ้าง ซึ่งเห็นด้วยกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว แต่อย่าลืมเรื่องความมีวินัยและช่วยกันรักษามารยาท ไม่ลงไปถ่ายภาพในไร่หรือสวน
ซึ่งภาพทั้งหมดในเอนทรีนี้ บล๊อกเกอร์ก็ใช้มือถือ โดยยื่นมือถ่ายจัดมุมกล้องให้ดูเหมือนกำลังยืนอยู่กลางทุ่งทิวลิป โดยไม่ต้องเดินเข้าไปในแปลงปลูกแต่อย่างใด
ซึ่งทางสวนแห่งนี้ มีการจัดวางและทำเส้นทางเดินไว้อย่างดี ทำให้บล๊อกเกอร์เดินเกือบครบ 70,000 ตารางเมตร เพื่อเก็บภาพหลากหลายสายพันธุ์
นอกจากสวนทิวลิปแล้ว จะมองเห็นอาคารในภาพซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปเที่ยวชม
แค่มาเที่ยวสวนแห่งนี้ ก็เดินเพลินแล้ว
ดีที่แดดแรง แต่อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส
ได้เก็บภาพความประทับใจมาแบ่งปันกัน และเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่วางแผนมาเที่ยวฮอกไกโด ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน ของทุกปี
เห็นแบบนี้อยากขอเปลี่ยนเป็น "ฤดูดอกไม้ผลิ" แทน "ฤดูใบไม้ผลิ" จริงๆ ว่ามั้ย?
ข้อมูลเพิ่มเติม
ภาพถ่าย : มือถือ Samsung Galaxy S6