Disable Preloader




Mount Zao (蔵王山) ฝ่าพายุหิมะ ปะทะปีศาจ "จูเฮียว" ที่นี่ที่เดียว "ภูเขาไฟซาโอะ"

หลังจากเดินทางออกจาก Ginzan Onsen (銀山温泉) หิมะก็ยังไม่มีทีท่าหยุดตก อันเป็นผลมาจากคลื่นความหนาวเย็น (Cold Wave) ที่เข้ามาใน 2-3 วันนี้ ยังส่งผลต่อปริมาณหิมะที่ตกอย่างหนัก แต่ก็เป็นผลดีต่อการมาเที่ยวชมปีศาจหิมะ "จูเฮียว" ยังจุดหมายถัดไปของพวกเรา

เมื่อเดินทางมาถึงสถานียามากะตะ (Yamagata) และยังต้องเดินเท้าฝ่าหิมะ เพื่อไปยังสถานีรถกระเช้า Zao Rope Way เริ่มจาก สถานีซะโอ ซันโระคุ (ZaoSanroku Station) ไปยัง สถานีจิโซซันโช (Jizo Sancho Station) ซึ่งจะใช้เวลาขึ้นถึงสถานียอดเขา (Sancho Station) ประมาณ 30 นาทีรวมเวลาเปลี่ยนสาย

มาทำความรู้จัก ภูเขาซาโอะ (Mount Zao) เป็นเทือกเขาที่ทอดตัวตัดระหว่าง จังหวัดมิยะงิ (Miyagi) และจังหวัดยะมะงะตะ (Yamagata) ในภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ในช่วงฤดูหนาวหิมะจะปกคลุมทั่วพื้นที่เป็นสีขาวโพลน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในการมาชมอสูรหิมะ (Ice Monster) หรือ ปีศาจหิมะ "จูเฮียว" (Juhyo)

นอกเหนือไปจากเป็นหนึ่งในสถานที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น เส้นทางการเล่นสกีมีความหลากหลาย สำหรับนักสกีที่มีฝีมือในทุกระดับ ตั้งแต่เริ่มต้นไปถึงมืออาชีพ

แต่ในฤดูร้อนยังเป็นเส้นทางเดินเที่ยว ก็จะเป็นบรรยากาศที่แตกต่างจากฤดูหนาวที่ขาวโพลนอย่างวันนี้

เมื่อมาถึง รถกระเช้า ... มาหานะเธอ ได้เวลาไปเจอ ปีศาจหิมะ ได้แล้ว

ภาพที่เห็นนอกกระจกไม่มีอะไรนอกจากความขาวและหนาวเย็นยะเยือก

กระเช้าไต่ความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ความรู้สึกเหมือนกำลังจะหลุดไปอีกโลก ที่แปลกแตกต่างจากชีวิตประจำวันของเรา เริ่มมองเห็นฝูงปีศาจหิมะ "จูเฮียว" เป็นแถวยาวไปทั่วบริเวณ สร้างความตื่นเต้นและดีใจไม่น้อย เพราะลุ้นว่าจะได้เห็นในช่วงมกราคมหรือไม่

เวลากระเช้าเลียบไปตามความสูงของต้นสน ยิ่งเห็นถึงความหนาฟูของหิมะตามต้นไม้

มาดูซักนิดว่า ปีศาจหิมะ ... Snow Monster ... Ice Monster หรือ จูเฮียว (Juhyo) เกิดได้อย่างไร

เกิดจากหิมะเกาะบนต้นไม้กลายเป็นรูปร่างคล้ายสัตว์ประหลาด ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ บนยอดเขาสูงทั่วๆ ไป แต่จะเกิดได้บนยอดเขาไม่กี่แห่งบนยอดเขาสูงในแถบโทโฮขุ (Tohoku) นี้เท่านั้น (ภาพนี้จากเว็บ เพื่อแสดงให้เห็นช่วงที่มีแสงแดดจะได้เห็นได้ชัดเจนกว่าวันนี้)

ปรากฏการณ์นี้จะเริ่มจากเดือนพฤศจิกายน ไอระเหยจากน้ำทะเลบริเวณทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan) ถูกลมหนาวซึ่งพัดมาจากแถบไซบีเรีย รวมตัวกันเป็นหยดน้ำหรือหิมะเกาะตามกิ่งไม้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต้นสน

ด้วยอุณหภูมิที่ต้ำกว่า -10 องศาเซลเซียส ตลอดเวลา หิมะกับหยดน้ำเหล่านี้จึงรวมตัวจับกันจนแข็งตามต้นไม้หนาขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งต้นไม้ถูกห่อด้วยน้ำแข็งทั้งต้น มองดูแล้วจินตนาการเหมือนสัตว์ประหลาด

ถือว่าทริปนี้ค่อนข้างลุ้นว่าจะได้เห็นปีศาจหิมะหรือไม่ แต่ไม่รู้จะบอกว่าโชคดีได้หรือไม่ ที่มีพายุและคลื่นความหนาวเย็นเข้ามาพอดี ทำให้หิมะเกาะเป็นรูปร่างแล้ว เพราะช่วงเวลาที่น้ำแข็งเกาะหนาที่สุด จะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์

จนกระทั่งเข้าสู่เดือนมีนาคม-เมษายน อุณหภูมิที่เริ่มสูงขึ้นและมีฝนตกลงมา ก็จะทำให้สัตว์ประหลาดสีขาวนี้ หายไปในที่สุด จนกว่าจะเข้าสู่ฤดูหนาวอีกครั้งจึงจะปรากฏตัวใหม่

ภาพนิ่งไม่จุใจ งั้นมาดูแบบคลิปวิดีโอ เพื่อเห็นบรรยากาศจริงๆ กันเลย

หากมองเทียบกับขนาดของปีศาจหิมะกับนักสกี จะเห็นว่าขนาดใหญ่มาก

เดินไป เก็บภาพบรรยากาศไป แถมทำไลฟ์ถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live ด้วย

เป็นบรรยากาศที่สุดๆ แต่ทว่าประทับใจ ไม่มีวันลืม กับหิมะที่เบาเหมือนปุยนุ่ม ลอยมากระทบหน้า บอกได้ว่า สดชื่นจริงๆ

หากมีการเตรียมความพร้อมเรื่องเสื้อกันหนาว ผ้าปิดกันหนาว และหมวกกันหิมะ ก็สามารถมาลุยได้ อุ่นสบายตัว ไม่ต้องกลัว

จุดที่เป็นไฮไลต์และห้ามพลาด! ก็คือ เมื่อเดินทางถึงยอดเขาจิโสะ พอออกจากสถานี Ropeway เดิมมาประมาณ 100 เมตร ก็จะพบกับพระพุทธรูปจิโสะองค์ใหญ่ที่ถูกหิมะท่วม

และในเดือนกุมภาพันธ์จะท่วมจะถึงเศียรพระ ซึ่งเศียรพระจะคาดเอี้ยมสีแดงตามความเชื่อที่ว่า พระจิโสะ เป็นพระที่สร้างถวายและอุทิศให้เด็กที่เสียชีวิตจากการทำแท้ง ชื่อยอดเขาจึงตั้งชื่อตามชื่อพระพุทธรูปองค์นี้

ทุกปีจะมีการจัดงานยอดนิยมอย่าง เทศกาลประดับไฟปีศาจหิมะ (Juhyo Light Up) ที่สถานีจิโซซันโช (Jiso Sancho Station) ซึ่งเป็นสถานีกระเช้าไฟฟ้าซะโอ (Zao Ropeway) ให้ได้เห็นภาพ ปีศาจหิมะ (Snow Monster) สีสันสดสวยโดดเด่นอยู่ท่ามกลางความมืดมิดดูงดงามราวความฝัน นอกจากนี้ยังมีรถสำหรับวิ่งลุยหิมะที่ติดเครื่องทำความร้อนไว้สำหรับพานักท่องเที่ยวชมปีศาจหิมะ (Snow Monster) อย่างใกล้ชิดในยามค่ำคืนอีกด้วย

ได้เวลากลับลงยังพื้นล่างเมืองยามากะตะ ด้วย Zao Ropeway เก็บภาพความประทับใจไว้อย่างเต็มอิ่ม กับบรรยากาศที่แปลก แอบลุยผจญภัยหน่อยๆ เพราะเส้นทางที่เดินลุยหิมะหนาๆ ไป ก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง

และเป็นสถานที่หนึ่งที่ยังอยากกลับมาเที่ยวอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนาวๆ มีหิมะหนาๆ แบบนี้

Camera : Samsung Galaxy S6