อีกครั้งสำหรับกิจกรรมอินโฟมาสัญจร ที่บริษัทฯ ได้จัดให้เพื่อนๆ พนักงานทุกคนไปท่องเที่ยวและทัศนศีกษา ซึ่งในครั้งนี้จุดหมาย คือ ประเทศเกาหลีใต้ และขอใช้โอกาสนี้มาสรุปทริปความสนุก และบันทึกเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจไว้

ทริปนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 พฤษภาคม 2556 กำลังดีเพราะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของเกาหลีพอดี ทำให้อากาศกำลังสบายๆ ระหว่าง 13 ถึง 25 องศาเซลเซียส ทำให้ไม่ต้องจัดหนัก จัดเต็มกับเสื้อกันหนาวเหมือนกับครั้งก่อนๆ ทีเคยมา ถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว จะมองเห็นทะเลในมุมนี้เป็นผืนน้ำแข็งไปหมด และบรรยากาศขมุกขมัว ไม่มีสีสัน

ทำให้การท่องเที่ยวในช่วงนี้ มีสีสันของต้นไม้ ดอกไม้ใบหญ้าอย่างเต็มที่ ... มาทำความรู้จักกับประเทศนี้สักเล็กน้อย ประเทศเกาหลีใต้ ถือเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว และเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด  และอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะเป็นอุตสาหกรรมเบา ที่สำคัญได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ รถยนต์ ปิโตรเคมี และเรือเดินสมุทร

แต่ทุกวันนี้ เราคงรู้สึกว่าสินค้าเกาหลี และความบันเทิงจากนักร้องนักแสดงเกาหลีในรูปแบบต่างๆ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเราโดยไม่รู้ตัว ซึ่งก็ต้องชื่นชมความเก่ง ความสามัคคีของคนในชาติ และการบริหารจัดการหลายๆ อย่างที่เราน่าศึกษามาใช้ในการทำงานของเราได้

ไม่นานนักหลังจากพวกเราออกจากบริเวณ สนามบินอินชอน ก็นั่งรถมายังจุดหมายแรก คือ Provence Village (프로방스 마을) เริ่มก่อตั้งในปี ค.ศ. 1996 ด้วยร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งได้มีแนวคิดและออกแบบให้ย่านนี้เป็นหมู่บ้านสีสันลูกกวาด ประกอบด้วย ร้านค้าหลากหลาย ซึ่งคล้ายๆ กับแหล่งช๊อปปิ้งชานเมืองของเรา

พวกเราก็ถือโอกาส หาโลเคชั่นเหมาะๆ ถ่ายแบบกัน ตามสไตล์ใคร สไตล์มัน

เป็นช่วงจังหวะที่สีสันจากไม้ประดับกำลังแข่งกันอวดความสวยอยู่พอดี

ไม่ว่าจะคู่รัก

ไม่ว่าจะครอบครัว

หรือจะคู่หวานสไตล์เกาหลี ก็เก็บภาพความประทับใจกันได้

เคยเห็นกุหลาบพันปีที่ดอยอินทนนท์ของเรา มักจะเห็นใบมากกว่าดอก แต่สำหรับที่เกาหลี แทบจะเห็นแต่ดอกทั้งต้น และหาใบไม่เจอ ไม่เฉพาะต้นนี้ แต่ระหว่างทางที่นั่งรถผ่านไป

ในบริเวณหมูบ้านสีลูกกวาดแห่งนี้ มีร้านขนมชื่อดัง Bakery House ในภาพ

ไกด์ชาวเกาหลีบอกว่า ขนมปังกระเทียม ของร้านนี้อร่อยและโด่งดังมาก คงต้องพิสูจน์กันหน่อย

ด้วยการซื้อมา 1 ถุง แล้วส่งให้ช่วยกันชิมกัน

ผลโหวตออกมาแล้วว่า ไม่อร่อยนัก หวานและมันเหลือเกิน ... บทเรียนนี้สอนว่า อย่าเชื่อในความอร่อย จนกว่าจะได้ลิ้มรสด้วยตนเอง แต่ก็เป็นการลองชิมขนมตามสไตล์ต่างบ้านต่างเมือง ซึ่งเป็นการดีในการลิ้มลอง

สำหรับก๊วนเรา มีดาราหน้ากล้องอยู่หลายๆ คน

นางแบบสไตล์เกาหลี เราก็มี

ทำให้ตากล้องอย่างเราก็เพลินในการเดินไป ชิมไป ถ่ายรูปไปได้เหมือนกัน

มีหลากหลายมุมให้ถ่ายภาพ ซึ่งเป็นอีกวิธีที่ช่วยโปรโมทสถานที่ ซึ่งอยากให้สถานที่เหล่านี้ เปิดให้มี Free WIFI หากนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพ แล้วสามารถเช็คอินและแชร์ได้ทันที คงได้ประโยชน์ในการโปรโมทสถานที่แบบกระจายได้ไม่น้อย ซึ่งได้ผลคุ้มค่ามากกว่าสื่อหลายๆ อย่างเสียอีก

สถานที่ดูไม่กว้างนัก แต่ก็มีการจัดมุมต่างๆ ไว้หลากหลาย

แค่ไม้ดอกกระถางเดียว หากถ่ายใกล้ๆ จะมองกลายเป็นทุ่งดอกไม้ไปได้เช่นกัน

มีทั้งสวนน้ำ สร้างความชุ่มชื้น และฝูงปลาคาร์ฟว่ายไปมา คอยทักทายนักท่องเที่ยว

และด้านหลังยังมีฟาร์มปลูกไม้ต่างๆ แต่อยู่ในช่วงที่กำลังลงกล้าไม้ จึงยังไม่สวยงามนัก เพราะถือว่าช่วงนี้เพิ่งเป็นการเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

เห็นแดดแรงแบบนี้ แต่อุณหภูมิซักประมาณ 20 องศาเซลเซียสได้

ถ้าเป็นบ้านเรา นางแบบคงสู้อากาศร้อนไม่ไหว แต่ที่นี่ขอบอกว่า ชิลมากๆ

ท้องฟ้า ตัดกับสีลูกกวาด และนางแบบสวย

โรแมนติคซะ

ก็ได้เวลานัดกัน ขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายต่อไป ไว้มาติดตามกันต่อเร็วๆ นี้