พวกเราก็เดินทางกันต่อมายัง Skinanniversary ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแห่งความงาม (Beauty Town) เพราะบริษัทฯ เราส่งให้พนักงานมาตรวจสภาพผิว มาเสริมความงามและความหล่อกันเต็มที่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฝ่ายการตลาด ที่ต้องพบปะลูกค้าอยู่เป็นประจำ หลังจากแต่ละคนผ่านเครื่องตรวจสภาพผิว (Skin Type Check) แล้ว ซึ่งตรวจลักษณะการกระจายสี, ความแห้งของผิว เป็นต้น ก็นำผลที่ได้ไปยังห้องมาร์กใบหน้า ซึ่งสถานที่ใหญ่โตมาก รองรับลูกค้าได้พร้อมกันถึง 2,000 คน เลยทีเดียว
สำหรับผมกับเพื่อนอีก 2 คนที่คิดว่า ผลิตภัณฑ์ใดๆ คงไม่สามารถช่วยใบหน้าของพวกเราได้แล้ว ก็มานั่งจิบกาแฟรอเพื่อนๆ กันแทน
บาริสต้าร้านนี้ เขาเป็นหมี
เสริฟกาแฟมา 2 แก้ว แต่รสชาดจืดมาก สำหรับคอกาแฟอย่างเรา
แต่พอเพื่อนเรา ขอถ่ายคู่กับบาริสต้า ดูหมีตัวเล็กลงไปทันที แถมยืนตัวสั่นอีกด้วย
ร้านนี้ใช้คอนเซปต์หมีแต่งกายแบบต่างๆ ให้มาถ่ายภาพกันได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถูกใจครอบครัวหมี พี่หมี น้องสาว และหลานชาย
หลังจากผ่านการมาร์กใบหน้ามาแล้ว ขอมาแช๊ะ! และเช็คสภาพผิวกันหน่อย ดูดีขึ้นทุกคนทันที สงสัยต้องให้บริษัทฯ ส่งมาทุกปี
ก่อนออกจาก Skinanniversary ยังมีมุมให้ถ่ายภาพ 3 มิติ กันก่อน
สร้างสรรค์ท่าทางให้เข้ากันกับภาพได้อย่างเต็มที่
ไม่ว่าจะเป็น ลีโอนาโด ดาร์วินชี่ น้อย
อ้าว! ทำไมซนอย่างงั้นล่ะ
หากฉันบินๆ ไปได้ดั่งนก ... ฉันจะบินๆ ไปในนภา
ขอ 3 คำ ... ทำ ไป ได้
เอ่อ! เนอะ แต่ละคน ... ขำไปไหน
ได้เวลามาต่อกันที่จุดหมายถัดไป นั่นก็คือ N Seoul Tower
เตรียมตัวเดินขึ้นเขานัมซาน (Namsan) กันหน่อย
จากจุดที่ลงรถที่สัญลักษณ์ [P] พวกเราต้องเดินขึ้นเขาไปยังหอคอย N Seoul Tower กันหน่อย
มองภาพนี้เหมือนกับหิมะโปรยบนยอดไม้ แต่ความจริงแล้วเป็นดอกไม้สีขาว มองเห็นทิวทัศน์กรุงโซลได้ชัดเจน
เริ่มแอบพิงเสา และแอบหอบกันบ้าง ไม่ว่ากัน
มองต้นเมเปิ้ลข้างทาง สีสันสดใสจริงๆ
อากาศเย็นสบาย คลายความเหนื่อยได้รวดเร็ว
มาทำความรู้จักกับ N Seoul Tower กันซักหน่อย N นั้น ย่อมาจาก Namsan ซึ่งก็คือ เขานัมซาน ที่ตั้งอยู่นี้เอง และหอคอยนี้ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1969 แต่ก็เปิดให้มาเที่ยวชมได้ เมื่อปี ค.ศ. 1980 ซึ่งเดิมเป็นของ CJ Corporation ด้วยความสูง 236.7 เมตร (777 ฟุต)
ซึ่งหอคอยแห่งนี้ กลายเป็น Landmark ของกรุงโซล อีกด้วย ... แอบอิจฉา เพราะกรุงเทพฯ ของเรา ไม่มีหอคอย และไม่รู้ต้องคอยหอ ไปอีกนานแค่ไหน
จุดเด่นคงเป็นสถานที่ที่ให้คู่รักมาคล้องกุญแจรัก ทำท่าทางน่ารักๆ กัน ... แต่นี่คงไม่ใช่คู่รัก แค่เป็นคู่ซี้ร่วมงานกัน แถมมีมือที่สาม เข้ามาแทรกกลางซะงั้น
หลานสาว กำลังแอบอ้างว่า ได้มาคล้องซองโทรศัพท์กับใครอยู่
คู่นี้ซิ คู่แท้ ... ไม่ต้องคล้องกุญแจ ก็รักแท้ได้
ไม่มีทางที่มือที่สาม จะมาแทรกได้ เพราะมือที่สามคนเดียวก็เก้าอี้หัก คงน้ำหนักมากไปหน่อย
จึงต้องหันไปหาอะไรทำ ... ฮื่ม! อิจฉานัก คนรักกัน
นั่นคือ สะเดาะกุญแจ ให้คู่รักแยกจากกัน
สร้างความร้าวฉาน คืองานของเรา
ยังมีกุญแจอีกหลายกองให้สะเดาะกัน
ใครอยากสายตายาว ... ต้องหยอดเหรียญ
ขอเก็บภาพไว้ในคอลเล็คชั่นซักหน่อย ... แช๊ะ!
และภาพแนวคู่หวาน
จากมุมนี้ ยังมองเห็นต้นรักเต็มไปหมด และวิวแม่น้ำอยู่ไกลๆ
คงเป็นจุดไฮไลท์สำหรับคู่รัก สำหรับโปรแกรมทริปเกาหลี
พยายามหามุมถ่ายภาพ N Seoul Tower ดูบ้าง
กับเมเปิ้ลแดงสดใส ในวันฟ้าสวย
ได้เวลานัดกัน เพื่อเดินย้อนกลับลงมาที่รถกัน มองเห็นกรุงโซลได้กว้าง ซึ่งเคยเดินทางมาในช่วงฤดูหนาว จะมองไม่เห็นอะไร เพราะหมอกขาวปกคลุมไปหมด
ครั้งนี้เลยได้ Say Hi ได้ชัดเจน
ฮืม! ไฮโซ นะ
อยู่นานไม่ได้ แถวนี้ มีแต่คนยืนกันเป็นคู่ๆ
ได้เวลาเดินทางไปที่อื่นกันต่อแล้ว ... ไม่ขึ้นรถใช่มั้ย? งั้นต้องเจอแบบนี้
ไว้มาติดตามกันต่อเร็วๆ นี้ จะเพิ่มความมันส์ ความฮาขึ้นอีก