Disable Preloader




หยุดยาวสี่วัน ... หันไปเที่ยว ลาว - ตอนที่ 9 : จาก พระราชวังเจ้ามหาชีวิต เดินขึ้นบันไดมานมัสการ พระธาตุภูษี

มาต่อกันที่ "พระราชวังเจ้ามหาชีวิต" สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2447 หรือปลายสมัยรัชกาลที่ 5 ก่อนที่ "เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์" ขึ้นครองราชย์ไม่นานนัก ... ซึ่งปัจจุบันเป็น "พิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง" และเปิดให้เข้าชมวัตถุของล้ำค่าต่างๆ แต่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพภายใน แต่มีล๊อกเกอร์ให้ฝากอุปกรณ์ถ่ายภาพก่อนเดินเข้าชม

เมื่อผ่านประตูทางเข้า จะพบกับอุโบสถหลังใหญ่ สวยงามอยู่ทางขวามือ ... ภายในพิพิธภัณฑ์จะเก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ ตลอดจนห้องบรรทม ห้องทรงงาน และพระแท่นที่ประทับต่างๆ ไว้สำหรับให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้อย่างครบถ้วน ... นอกจากนี้ ยังใช้บริเวณมุมพระราชวังส่วนหนึ่ง สำหรับเป็นที่ประดิษฐาน “พระบาง” ซึ่งเป็นพระศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองหลวงพระบางไว้เป็นการชั่วคราว เพื่อรอคอยการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่

จึงขอบันทึกความงามในมุมต่างๆ ให้ได้ชมกัน ... สำหรับพระราชานุสาวรีย์ที่เห็นนี้คือ "เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์" ทรงเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 12 แห่งราชอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง และพระมหากษัตริย์พระองค์แรกแห่งพระราชอาณาจักรลาว เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ 15 เมษายน พ.ศ. 2447 ภายหลังจากประเทศลาวได้รับเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส

จากนั้นเราไปเดินเที่ยวต่อยังวัดอีกแห่ง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน คือ "วัดใหม่สุวรรณภูมราม"

เดินชมภาพปูนปั้นบริเวณด้านหน้าอุโบสถที่สวยงาม

จะมองเห็นภูเขาเล็กลูกหนึ่งตั้งเด่น เป็นตระหง่านอยู่ และเมื่อมองขึ้นไปบนยอดเขาก็จะเห็นวัดและพระเจดีย์อยู่ข้างบนถนัดชัดเจน คือ "พระธาตุภูษี" ซึ่งเป็นวัดที่ประดิษฐานพระธาตุที่ชาวหลวงพระบางให้ความเคารพ นับถือมาแต่โบราณตราบกระทั่งปัจจุบันนี้

แต่เนื่องจากไม่มีรถไฟฟ้าเลื่อนขึ้นลงแบบบ้านเรา ใครจะขึ้นไปกราบไหว้ "พระธาตุภูษี" จึงต้อง เดินขึ้นบันได 328 ขั้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทั้งสองฟากบันไดจะเต็มไปด้วย "ดอกลั่นทม" หรือที่บ้านเราสมัยนี้เรียกว่า"ดอกลีลาวดี" แต่ของลาวเรียก "ดอกจำปา"

ใครที่แข็งแรง หัวใจทำงานเป็นปกติดีไม่มีโรคอะไรแทรกซ้อน ควรจะลองเดินขึ้นสักครั้งหนึ่งในชีวิต ... ดูอย่างพวกเรา แกล้งเก็บอาการเหนื่อยด้วยการนั่งเก๊กท่าถ่ายรูปซะงั้น

แต่คุ้มค่าการเดินเพราะได้นมัสการพระธาตุ และยังได้ชมวิวทิวทัศน์เมืองหลวงพระบางแบบ 360 องศา

บ่ายแก่ๆ วันนี้ท้องฟ้าก็เป็นใจ ให้ได้เห็นภาพสดใสหลังจากเจอฝนมาเกือบตลอดทริป ลองซูมไปยังเจดีย์สีทองอร่ามที่อยู่ไกลๆ ... ได้เห็นสภาพภูมิประเทศที่เขียวชอุ่ม บ้านเรือนสวยงาม มีแม่น้ำไหลผ่าน และวิถีชีวิตผู้คนสัญจรไปมา ... นี่แหล่ะ! เสน่ห์ของเมืองหลวงพระบาง

เราเพลิดเพลินเดินเที่ยวถ่ายรูปอยู่นาน เป็นการปิดทริปที่ประทับใจ ต้องหาโอกาสมาเยือนเมืองหลวงพระบางแห่งนี้อีกอย่างแน่นอน แต่จะขอเก็บภาพและเรื่องราวความประทับใจไว้เป็นความทรงจำดีๆ และขอนำมาแบ่งปันกันผ่านบล๊อก เพื่อช่วยถ่ายทอดเป็นภาพถ่าย และเรื่องราวของประเทศเพื่อนบ้านของเราอีกทางหนึ่ง ... จบบริบูรณ์