เมื่อต้นเดือน พ.ย. 50 ที่ผ่านมา ได้จัดทัศนาจรของบริษัทฯ ซึ่งจะไปท่องเที่ยวเป็นประจำทุกๆ ปี ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเป็นการพักผ่อน และเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ และปีนี้เดินทางไปใกล้ซักหน่อย โดยไปเยี่ยมประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับบ้านเรา ... มาเลเซีย ซึ่งปีนี้เป็นปีเฉลิมฉลอง 50 ปี ของเขาด้วย

สถานที่แรกที่ไปเยี่ยมชม หลังจากออกจากสนามบินก็คือ "ปุตราจายา" ซึ่งเป็นเมืองราชการแห่งใหม่ของมาเลเซีย ซึ่งถือว่าเป็นวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม ในการสร้างเมืองใหม่เพื่อดึงความเจริญ และผู้คนไม่ให้แออัดในเมืองหลวง "กัวลาลัมเปอร์" แล้วยังได้ของแถมคือ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย

จากนั้นเราก็เดินทางมุ่งสู่ Cameron Highlands ซึ่งถือเป็นโปรแกรมหลักที่ต้องการไปในทริปนี้ เพราะอยากสัมผัสกับธรรมชาติ และอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ซึ่งนั่งรถนานมากจาก กัวลาลัมเปอร์ แต่ก็ไม่ผิดหวัง รถเลี้ยวลัดเลาะตามโค้งของหุบเขา ยังกับเดินทางไปแม่ฮ่องสอน แต่ป่าเขาสมบูรณ์มากจริงๆ ชุ่มชื้นและมีไม้ประเภทเฟิร์น (Fern) เต็มไปหมด ทำเอาผมซึ่งชอบไม้ชนิดเฟิร์นมากที่สุด อดจะประทับใจไม่ได้ .... ระหว่างทางแวะที่ไร่ปลูกชา ซึ่งถือเป็นแหล่งปลูกชาที่สำคัญของมาเลเซีย ได้แวะชิมและซื้อใบชารสชาดต่างๆ เพื่อเป็นของฝาก

เดินทางถึง Cameron Highlands ในช่วงค่ำๆ หลังจากได้รับประทานอาหารจีนเลิศรส โดยเฉพาะสุกี้ผักสด ที่ปลูกได้ในที่แห่งนี้ ทำให้นึกถึงกำลังอยู่บนดอยซักแห่งในภาคเหนือของไทย ก่อนขึ้นรถเพื่อเดินทางไปที่พัก เหลือบไปเห็นร้านเค๊กสุดโปรดของผม ซึ่งผมจะทานยี่ห้อนี้บ่อยๆ แต่ราคาที่นี่ถูกกว่ามาก คือ 5.5 ริงกิต (คิดเป็นเงินไทย ประมาณชิ้นละ 60 บาท แต่บ้านเราราคา 95 บาท) ทำเอาผมเหมาไปหลายรสชาติ และเดินแวะซื้อสตรอเบอรี่สดๆ ที่ปลูกได้ที่นี่ เลยจัดปาร์ตี้เล็กๆ ชื่อ "Strawberry Cheese Cakes Party" ซะเลย

หลังจากได้พักค้างหนึ่งคืน ตื่นแต่เช้ามาชม "แสงแรกของรุ่งอรุณ ณ คาเมรอน ไฮแลนด์" อากาศหนาวเย็นอย่างที่ต้องการ ได้เห็นบ้านทรงยุโรปตรงหน้า และต้นสน ทำให้เคลิ้มไปนึกว่าอยู่ในยุโรป ... ซะอีก

กลับจาก Cameron Highlands ก็เดินทางเข้ามาที่ กัวลาลัมเปอร์ เพื่อเที่ยวในเมือง ก็ไม่พลาดการขึ้นชิงช้าสวรรค์ ชื่อ "Eye On Malaysia" เพื่อชมทัศนียภาพของเมืองหลวงได้ชัดเจนในมุมสูง .. ทำให้นึกถึง "London Eye" ไปชั่วขณะ

สิ่งที่นักท่องเที่ยวชายต้องเยี่ยมชมก็คือ สถานที่แห่งนี้ "LELAKI"

ส่วนนักท่องเที่ยวหญิง ก็ไม่พลาดที่แห่งนี้ "PEREMPUAN"

พวกเราก็เดินทาง เพื่อตรงไปยัง "KL Tower" หอคอยสูงเพื่อขึ้นไปเยี่ยมชมทัศนียภาพโดยรอบเมืองกัวลาลัมเปอร์แบบ 360 องศา

สำหรับผู้ที่ชอบการถ่ายภาพอย่างเรา ก็ไม่พลาดในการเก็บภาพจากมุมสูง ... ภาพเมืองที่มีต้นไม้สีเขียวจำนวนมาก สลับกับตึก ทำให้ยังดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ป่าคอนกรีตซะทีเดียว ... ยอมรับว่า ถนนของเขาดีจริงๆ เดินทางไปไหนไม่เคยเจอถนนขรุขระ ... น่าอิจฉาจัง

ลงจากหอคอย ก็ขึ้นรถมุ่งตรงขึ้นเขาอีกแล้ว ไปยัง "Genting Highlands Resort" เพื่อพักค้างคืน 1 คืน ... ซึ่งมีสิ่งบันเทิงรูปแบบต่างๆ ซึ่งเปิดมาแล้วตั้งแต่ปี 1971 ซึ่งผู้ก่อตั้ง "Tan Sri Lim Goh Tong" เพิ่งจะสิ้นบุญไปก่อนหน้าที่คณะของเราเดินทางไปท่องเที่ยวแค่ 2 สัปดาห์เอง แต่ก็ถือว่าท่านกล้าในการพัฒนารีสอร์ทบนพื้นที่ห่างไกลในสมัยนั้น ซึ่งกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของประเทศมาเลเซียได้ ... จุดนึงที่ประทับใจการออกแบบตึกโรงแรม คือ เขาไม่ติดแอร์ แต่มีช่องว่างระหว่างตึก เพื่อให้ลมเย็นพัดผ่านตลอดทั้งปี สามารถเปิดหน้าต่าง หรือพัดลมในห้องเพื่อให้อากาศไหลเวียนได้ ... ไม่สร้างปัญหาโลกร้อน ... ขอปรบมือให้

แม้ว่าสวนสนุกเขาจะไม่สามารถเทียบได้กับสวนสนุกอื่นๆ แต่ก็เป็นการเติมเต็มให้เป็น "City of Entertainment" ได้ เรียกว่า รองรับตั้งแต่ "เด็กเล่นสวนสนุก ไปจนถึงผู้ใหญ่เล่นการพนัน" ... อะไรทำนองนั้น

ยามเช้าที่ "Genting Highlands" มาเปรียบเทียบกับ "Cemeron Highlands" ภาพก่อนหน้านี้ ได้ความรู้สึกไปอีกแบบ เพราะที่เก็นติ้งนี้ เมฆหมอก เยอะจริงๆ สวยไปอีกแบบ แต่ความหนาวเย็นยังสู้ที่คาเมรอนไม่ได้เลย

กลับจากเกนติ้งเพื่อเข้าสู่กัวลาลัมเปอร์อีกครั้ง ขอเลือกเดินทางแบบหวิวๆ ซะหน่อย ... เหมาะกับผู้ที่ไม่กลัวความสูง ซึ่งในทริปผมก็มีผู้ที่ไม่ชอบอะไรหวาดเสียว ก็เลยไม่ปลื้มกับเคเบิ้ลคาร์แบบนี้ แต่ผมนะ ... ชอบมาก เอาอีก !

มาถึงกัวลาลัมเปอร์ก็แวะเที่ยวสถานที่สำคัญต่างๆ ก่อนปิดท้ายด้วยการช๊อปปิ้งที่ Shopping Mall ของ Petronas Twin Towers ซึ่งผมว่า มาเลเซีย ค่าครองชีพพอๆ กับบ้านเราเลย อาหารการกินแทบจะเรียกว่าเท่ากันเลยก็ว่าได้

ผมพยายามจะเก็บภาพรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (KL Monorail) แต่เก็บไม่ทันซะที ได้แต่รูปราง ซึ่งเพิ่มเส้นสายให้เมืองดูสวยงามยิ่งขึ้น ไว้คราวหน้ามาเยือน คงใช้เวลาส่วนใหญ่ใน KL ค่อยเก็บภาพใหม่

ปิดทริปนี้ที่ Petronas Twin Towers ถือว่าสนุกมาก และเราเดินทางประมาณ 50 คน ซึ่งถือว่ากลุ่มใหญ่พอสมควร เฮฮากันตลอดการเดินทางและได้ประสบการณ์ใหม่ๆ นอกเหนือจากการได้พักผ่อนประจำปีของพวกเรา ... ถือว่าประทับใจคนมาเลเซียนะ ซึ่งเดิมไม่เคยมีแผนมาท่องเที่ยวประเทศนี้เลย แต่จากการที่ได้สัมผัสกับหลายๆ อย่างในประเทศนี้ ถือว่ามีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย ในรัฐอื่นๆ ... ที่สำคัญคือ คนมาเลเซีย ก็อัธยาศัยไมตรีดีไม่แพ้บ้านเราเหมือนกัน