บ้านเราถือเป็นเมืองร้อน พอถึงเดือนตุลาคมก็ไม่ได้มีฤดูใบไม้ร่วงเหมือนประเทศเมืองหนาวต่างๆ จึงทำให้เราอยากไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติที่แปลกแตกต่างจากบ้านเรา จึงเกิดแนวคิดที่อยากไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่รัสเซีย น้องๆ ก็รวมรวมโปรแกรมทัวร์รัสเซียส่งมาให้ เราก็มีหน้าที่อ่านโปรแกรม ปักหมุดใน Google Maps ดูว่าโปรแกรมการเดินทางเป็นอย่างไร ก่อนจะตัดสินใจเลือกโปรแกรมที่ดีที่สุด
ก็ตัดสินใจเลือกโปรแกรมนี้ ที่พอเดินทางด้วยเที่ยวบิน TG 974 ใช้เวลาเดินทางราว 9 ชั่วโมง 45 นาที จาก สนามบินสุวรรณภูมิ ไปถึงสนามบินโดโมเดโลโว (Domodelovo International Airport) กรุงมอสโคว์ (Moscow) ก็เดินเท้ามาอีก Gate รอต่อเครื่องบินภายใน เพื่อบินจากมอสโคว์ เดินทางต่อไปยัง นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St. Petersburg) ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งวิธีนี้สะดวกมากและไม่เสียเวลาในการเดินทาง อีกทั้งไม่ต้องเที่ยวก่อนแล้วมารอขึ้นเครื่องบินให้วุ่นวายอีก
ซึ่งเราจะเที่ยวและพักอยู่ที่ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รวม 3 คืน ในโรงแรมเดิม จากนั้นจึงนั่งรถไฟความเร็วสูง (Sapsan) กลับมาพักและเที่ยวที่ กรุงมอสโคว์ (Moscow) เป็นเมืองต่อไป แต่สำหรับคืนนี้เราก็พักค้างคืนที่ โรงแรม Park Inn Pribaltiyskaya Hotel กันก่อนเริ่มเที่ยวในเช้าวันรุ่งขึ้น
หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้ว ออกมาเดินเล่นหน้าโรงแรม มองเห็นสวนสาธารณะที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีและร่วงโรยไปตามลมที่พัดเย็น ด้วยสีเหลืองสะดุดตา และความงามเวลาที่มีลมพัดมากระทบให้ใบพลิ้วไหวไปมา
เคยเห็นใบเมเปิ้ลมาหลายๆ ชนิด แต่รู้สึกว่า "ใบเมเปิ้ลที่รัสเซียนั้น มีขนาดใบที่ใหญ่มากกว่าที่เคยพบเจอมาก่อน" และเมื่อได้ลองศึกษาต้นเมเปิ้ลมีความแตกต่างกันถึง 128 สปีชีส์ (Spicies) และส่วนใหญ่จะเติบโตในแถบ ยุโรป, อเมริกาเหนือ และทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา
เรามักไม่ได้พูดถึงดอกของต้นเมเปิ้ลเป็นเพราะดอกมีขนาดเล็ก แต่เราจะมองเห็นความงามของสีสันของใบกันมากกว่า ทำเอาคนประเทศเมืองร้อนอย่างเรา ตื่นเต้นได้ไม่น้อย
ซึ่งในบ้านเรา ก็เคยไปสัมผัสใบเมเปิ้ลที่ ภูกระดึง จ.เลย และที่ สถานีเกษตรหลวงปางดะ จ.เชียงใหม่ ก็พอมีให้เห็น แต่ไม่ได้มีการปลูกเรียงรายมากมายแบบนี้ พอใบเริ่มเปลี่ยนสีไปทั้งบริเวณสวนสาธารณะเล็กๆ ก็ดูตื่นตาตื่นใจไม่น้อย
ซึ่งในช่วงราวเดือนตุลาคมเช่นนี้ เวลานั่งรถผ่านไปมุมต่างๆ ของเมืองทั้ง นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และ กรุงมอสโคว์ ก็จะเห็นเป็นสีเหลืองอร่ามไปหมด จึงเป็นช่วงที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวรัสเซีย และอยากแนะนำอย่างยิ่ง อีกทั้งยังได้เจอหิมะแรกของฤดูหนาวโปรยปราย ท่ามกลางใบเมเปิ้ลอีกด้วย
ถ้าคาดไม่ผิดน่าจะเป็นส่ายพันธุ์ "Hedge Maple" (Species: Acer campestre) หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "Field Maple, Common Maple" จุดเ่นคือ ใบจะมีสีเหลือง และมักปลูกในประเทศ Scotland, Poland, Denmark, Belarus, Turkey, North America, Northern Africa และ Australia ซึ่งขนาดต้นจะสูง 50-80 ฟุด ใบจะมีขนาด 5-10 เซ็นติเมตร
และที่สำคัญคือ ช่วยเป็นส่วนประกอบฉากสำหรับภาพถ่ายแนวหวานๆ โรแมนติค ได้อย่างดี
ประโยชน์ของต้นเเปิ้ลที่เราอาจไม่ทราบมาก่อน คือ เป็นไม้เนื้อแข็ง จึงเหมาะในการนำต้นไปทำ เฟอร์นิเจอร์, พื้นไม้ รวมไปถึง เครื่องดนตรี อีกด้วย เรียกได้ว่า ทั้งสวย ทั้งดี แบบนี้น่าจะปลูกได้ในไทย และเห็นมีไม้กระถางมาจำหน่าย มักจะเป็น "เมเปิ้ลไต้หวัน" ที่พอปลูกได้แต่ใบเล็กกว่ามาก
แบบนี้คงต้องภาวนาให้ฤดูหนาวบ้านเรา ให้หนาวจริง หนาวนานกว่านี้ น่าจะพอปลูกได้ และที่สำคัญ ต้องให้เห็นคุณค่าของการอนุรักษ์และปลูกป่าพเิ่มขึ้น เพราะไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ชนิดใด ขอให้ป่าไม้ได้ทำหน้าที่ฟื้นฟูธรรมชาติ สร้างแหล่งน้ำ และเราก็อยู่ร่วมกันกับธรรมชาติแบบพึ่งพากัน ไม่ทำลายกัน แบบนี้ก็ดีเยี่ยมแล้ว
Camera : Samsung Galaxy S7, Lumix TZ90