เช้าวันที่สี่ของการเดินทางกับอาหารเช้าที่โรงแรม ก่อนจะเดินไปยังสถานีรถไฟ Taipei Main เพื่อเดินทางไปยังจุดหมายที่ตั้งใจไปตามหา บ่อน้ำแร่เย็นตามธรรมชาติที่ Su'ao Cold Spring 蘇澳冷泉 ที่มีเพียงสองแห่งในโลกเท่านั้น ซึ่งสามารถเดินทางโดยรถบัส แต่ตั้งใจขอเลือกเดินทางด้วยรถไฟจะดีกว่า ซึ่งทั้งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ด้วยรถไฟธรรมดา (TRA) และคนไต้หวันเรียกกันว่า "ไถเถี่ย (台鐵)" แม้หน้าตาเหมือนรถไฟความเร็วสูง แต่ทว่าสะดวกสบาย นั่งชมวิวไปชิลชิล อีกทั้งยังเลือกเส้นทางริมทะเล (Coast Line) เพราะอยากนั่งรถไฟชมวิวทะเลในบางช่วงก่อนถึงเมืองอี๋หลัน (Yilan)
เมื่อเดินทางมาถึงสถานีรถไฟก็พบว่า รถไฟมีการล่าช้า (Delay) ซึ่งตอนแรกก็รู้สึกนึกไปว่าล่าช้าด้วยเหรอ แต่ก็เข้าใจได้เพราะมีฝนตกตลอด และเห็นว่าสายอื่นๆ ก็มีการดีเลย์ด้วย คงกระทบกันมาแต่ละขบวน ในที่สุดรถไฟก็มาถึง แม้ว่าจะปรับเวลาที่ดีเลย์ถึง 2-3 ครั้ง แต่พอขึ้นมานั่งบนรถไฟ ก็รู้สึกผ่อนคลาย ที่นั่งสบายมาก และทั้งโบกี้ไม่มีใครขึ้นที่สถานีนี้เลย แต่ก็จะมีการจอดอีก 2 สถานี ก่อนจะถึงสถานี Yilan ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ซึ่งการซื้อตั๋วรถไฟระหว่าง Taipei มายัง Yilan นั้น ได้ทำการซื้อล่วงหน้า 15 วันผ่านเว็บ เพราะกังวลว่าหากตั๋วรถไฟในวันที่เดินทางเต็ม จะทำให้ปรับแผนเดินทางยุ่งยาก ซึ่งได้แนะนำวิธีการในเรื่อง (วันที่สอง) และด้วยความตั้งใจที่จะมาซื้อตั๋วรถไฟระหว่างเมืองใกล้ๆ ด้วย Local Train ที่สถานีดีกว่า
ซึ่งวันนี้เจอรถไฟล่าช้า (Delay) จึงทำให้มาเลือกซื้อตั๋วขบวนรถไฟจากเมือง Yilan ไปเมือง Su'ao ที่สถานีรถไฟ Yilan ซึ่งข้อดี คือ เราไม่ต้องมาเปลี่ยนตั๋วรถไฟให้ยุ่งยาก เพราะมีการดีเลย์ไปเกือบ 30 นาที แต่ก็ได้พิมพ์โปรแกรมรถไฟในวันนั้นพกมาด้วย เผื่อว่าจะเลือกรถไฟขบวนอื่นๆ แทนที่เหมาะสม ซึ่งพอเราไปถึงเคาท์เตอร์ซื้อตั๋ว เราแค่บอกว่าเราจะเดินทางไปเมือง Su'ao ทางเจ้าหน้าที่ก็ช่วยแนะนำขบวนที่กำลังจะมาถึงให้ ก็แค่ตกลงและจ่ายเงิน
นอกจากความสะดวกแล้ว ยังรู้สึกว่า ค่ารถไฟของไต้หวันนั้นไม่แพง ทำให้อยากเดินทางด้วยรถไฟไปเมืองต่างๆ ซึ่งประเทศไต้หวัน มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าในใจมากมายอีกด้วย สำหรับการเดินทางจาก Taipei มายังเมือง Yilan เราใช้เส้นทางริมทะเล (Coast Line) แต่ขากลับ เราเลือกเดินทางอีกเส้นทางผ่านภูเขา (Mountain Line) แทนในตอนเย็น ไว้โอกาสหน้าจะต้องลองจัดทริปพร้อมนั่งรถไฟความเร็วสูง (THSR) ของไต้หวันดูบ้าง
จากสถานี Yilan เรานั่งรถไฟต่อไปยังเมือง Su'ao ซึ่งเป็นจุดหมายที่จะไปชมบ่อน้ำแร่เย็น ซึ่งเคยดูรายการทีวีช่อง Travel Channel (364) ก็รู้สึกสนใจ เพราะเคยไปเที่ยวชมบ่อน้ำแร่ในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ก็จะเป็นบ่อน้ำแร่ร้อนทั้งนั้น จึงรู้สึกว่าน่ามหัศจรรย์ เพราะว่าน้ำแร่ที่ผุดขึ้นมาเป็นน้ำแร่เย็น ที่อุณหภูมิ 22 องศาเซลเซียส และที่สำคัญมีเพียง 2 แห่งในโลก ซึ่งอีกแห่งอยู่ในประเทศอิตาลี
นั่งรถไฟจากสถานี Yilan ประมาณ 30 นาที ก็มาถึงสถานี Su'ao ก็ดูเวลาและซื้อตั๋วรถไฟเพื่อเดินทางกลับไปที่สถานี Yilan ในเวลา 16:30 น. ไว้ก่อน
ได้เวลาอาหารกลางวัน เจอร้านแรกเราก็พยายามสื้อสารด้วยภาษาอังกฤษ แต่ทว่าไม่สามารถสั่งอาหารได้ เพราะเขาก็ไม่มีเมนู มีแต่ตัวหนังสือภาษาจีนทั้งหมด จึงมองเห็นร้านที่อยู่ตรงข้าม ขายบะหมี่เช้นกัน จึงข้ามถนนมาอุดหนุน ซึ่งลูกสาวเจ้าของร้าน พยายามสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ ผลคือ อิ่มอร่อย รอดไปอีกหนึ่งมื้อ ซึ่งคงเพราะเมืองนี้ยังไม่ถึอเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักๆ ไม่ค่อยมีชาวต่างชาติหลุดหรือหลงมาแช่น้ำแร่เย็นบ่อยแน่ๆ
หลังจากอิ่มหนำสำราญ ก็กางร่มพร้อมเปิด Google Maps พร้อม GPS นำทางมาที่ Su'ao Cold Spring ปรากฏว่า "ปิด" โอ้ว! เกิดอะไรขึ้น จึงไปถามคนที่เดินผ่านไปมา ด้วยการเปิดรูปให้ดู ซึ่งแต่ละคนบอกไม่รู้จัก อาจเป็นเพราะเป็นคนต่างถิ่น แต่ก็เหลือบไปเห็นหนุ่มสาววัยรุ่นคู่หนึ่งกำลังจะเดินเข้าบ้านในลักษณะห้องแถว จึงเขาไปสอบถามเป็นภาษาอังกฤษ และได้ใจความว่า Su'au Hot Spring จะเปิดให้บริการเฉพาะหน้าร้อน ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อนเลย และไม่มีข้อมูลบอกในเว็บต่างๆ แต่ก็ยังไม่หมดหวังโดยทีเดียว เพราะได้รับคำแนะนำว่า มีอีกจุดที่เป็นแหล่งน้ำแร่อยู่ใกล้ และ ฟรี! อีกด้วย
น้องสาวผู้นั้น จึงช่วยแนะนำโดยชี้พิกัดใน Google Maps ให้ ซึ่งห่างจากจุดที่เรายืนอยู่ไปแค่ 200 เมตร ก็เลยเปิดแผนที่ให้ช่วยนำทาง รู้สึกในการเป็นมิตรที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวของคนไต้หวัน และเป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวอีกประเทศหนึ่ง
พอมาถึง ก็ต้องอุทานเลยว่า "ใช่เลย!" ที่นี่แหล่ะที่เห็นในการรายการทีวีพาเที่ยว ก็ไม่รีรอเดินไปสำรวจ และสัมผัสว่าน้ำแร่ที่มีความใส จะเย็นขนาดไหน
ฝนก็ยังตกเปาะแปะอยู่ มีอะไรจะดีไปกว่า "ถลกขากางเกงขึ้น" พร้อมทั้งเอาขาทั้งสองหย่อนลงในน้ำแร่ใสเย็นให้รู้สึกผ่อนคลาย อุตส่าห์ฝ่าความหนาว ความชุ่มฉ่ำของฝนที่ตกตลอดทั้งวัน มาไกลจากบ้านเพื่อมาตามหา
Su'ao Cold Spring 蘇澳冷泉 เป็นน้ำแร่ธรรมชาติแบบเย็นที่ อุณหภูมิต่ำกว่า 22 องศาเซลเซียส มีเพียง 2 แห่งในโลกคือ Su'ao แห่งนี้ เมือง Yilan ประเทศไต้หวัน และอีกแห่งหนึ่งอยู่ในประเทศอิตาลี แม้ว่าอุณหภูมิจะต่ำกว่าอุณหภูมิของร่างกาย แต่เมื่อแช่ไปประมาณ 5 นาที ร่างกายจะรู้สึกอุ่นขึ้น ด้วยน้ำแร่จะมีสารคาร์บอนไดออกไซด์เข้มข้น (Carbon Dioxide) แต่ก็สามารถนำไปใช้ในการปรุงอาหารอย่างเช่น สตูว์เนื้อแพะ ซึ่งเป็นที่นิยมในย่าน Su'ao แห่งนี้
และก็รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ คือ แช่ไปสักพักจะไม่รู้สึกว่าน้ำเย็น แต่รู้สึกอุ่นสบายทั้งขา เป็นประสบการณ์ที่แปลกและประทับใจกับธรรมชาติที่สร้างสรรค์ได้อย่างมห้ศจรรย์ ต้องชื่นชมชาวไต้หวัน ที่เปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสาธารณะเช่นนี้ และก็มีคนไต้หวันอีกคน ก็มานั่งแช่เท้าอยู่เช่นกัน รู้สึกอิจฉาคนที่มีบ้านแถวๆ นี้จริงๆ เพราะหน้าร้อนคงเป็นแหล่งคลายร้อนได้อย่างดี
จากนั้น เราก็เดินย้อนกลับมาเพื่อมาขึ้นรถไฟจาก Su'ao กลับมายัง Yilan แต่ก็ยังพอมีเวลาที่จะนั่งจิบกาแฟซักแก้วแกล้มกับขนม ก่อนเดินมาที่สถานีรถไฟและใช้เวลานั่ง Local Train ประมาณ 30 นาที ก็กลับมาถึง สถานี Yilan อีกครั้ง และยังมีเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ที่จะนั่งรถไฟ TRA กลับไปที่สถานี Taipei Main จึงไม่พลาดที่จะเดินออกไปเที่ยวยัง Jimmy Liao Park 幾米廣場
Jimmy Liao Park 幾米廣場 อยู่บริเวณรอบๆ สถานีรถไฟอี๋หลัน (Yilan Railway Station) คุณจิมมี่ เหลียว (Jimmy Liao) นักเขียนและนักวาดภาพชื่อดังระดับโลกของไต้หวันนั่นเอง ความโด่งดังของคุณจิมมี่ เหลียว หรือชื่อจีนว่า “เหลียว ฝู ปิน – 廖福彬” นี่สารพัดสุดบรรยาย หนังสือภาพของเขาถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมาย ชื่อภาษาอังกฤษของศิลปินคนนี้ ได้มาจาก นามปากกาภาษาจีนที่ออกเสียงว่า “จีหมี่ – 幾米” ซึ่งก็เพลิดเพลินในการถ่ายภาพคู่กับตัวละครจากผลงานของศิลปินท่านนี้ และก็เดินย้อนกลับมาที่สถานีเพื่อรอขึ้นรถไฟกลับมาที่ Taipei
ด้วยความตั้งใจที่ค่ำนี้ เราจะมาเดินหาซื้อของฝากที่ย่าน ซีเหมินติง 西門町 (Ximending) เป็นย่านช้อปปิ้งของวัยรุ่นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไต้หวัน เป็นแหล่งกำเนิดของแฟชั่นของหนุ่มสาวชาวไต้หวัน และเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองไทเปอีกด้วย อีกทั้งเราก็มาหาร้านอาหารสำหรับมื้อค่ำในวันนี้ ซึ่งก็เลือกอาหารอิตาเลียนพวกสปาเกตตี้และซุป หลังจากที่ทานแต่อาหารจีนและญี่ปุ่นมาหลายมื้อ หลังจากนั้น ก็เดินซื้อของฝากก่อนนั่งรถไฟฟ้า MRT กลับจากสถานี Ximen ไปยังสถานี Taipei Main เพื่อกลับไปพักผ่อนและจัดกระเป๋าซึ่งแน่นไปด้วยขนมเพื่อเป็นของฝากจากทริปนี้ แล้วมาติดตามการท่องเที่ยวแบบตามใจฉันในวันรุ่งขึ้น ซึ่งยังมีโปรแกรมที่น่าสนใจอีก ไว้มาเที่ยวไปด้วยกันต่อนะ
Camera : Samsung Galaxy S6, S7