ช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเที่ยวกรุงเทพฯ ในแบบที่เมืองกรุง ... เปี๋ยนไป๋ ... คนกรุงต่างพากันออกไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ให้กรุงเทพฯ ได้พักฟื้นจากมลภาวะทั้งควันรถ และเสียงดังไปได้หลายวัน
จากเมื่อต้นเดือน ธ.ค. 50 นั้น ไม่ได้ไปเที่ยวชมแสงไฟแถวถนนราชดำเนิน เพราะเจอแต่คนบ่นว่ารถติด ช่วงวันหยุดนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ได้ไปเดินเล่นยามค่ำคืน ที่ลมพัดเย็นสบาย รถก็ไม่ค่อยมี ถ่ายรูปเพลิน
จากนั้น ก็ลองเดินย้อนกลับมาทาง "โลหะปราสาท" เพื่อเก็บภาพยามค่ำคืน
และได้พบกับรถรางชมเมืองจอดรถอยู่ ราวกับเชิญชวนให้ขึ้นมานั่ง ... สบโอกาสคนน้อย รถก็ไม่ติด อากาศเย็นเป็นใจ ก็ชวนพ่อโดดขึ้นรถ นั่งรถรางเที่ยวซักรอบ
เพลินไปเลย ... จากนั้นกลับบ้านพักผ่อนแบบประทับใจ
ตื่นเช้ามาขี่จักรยานเล่นในสวนลุมพินี ถือเป็นปอดขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ที่ช่วยฟอกมลพิษจากควันรถยนต์ได้มากมาตลอดทั้งปี ซึ่งช่วงวันหยุดนี้ ก็ได้ลมหนาวพัดเย็นสบาย เรียกได้ว่า "ไม่ต้องแอ่วเหนือ ก็หนาวได้"
เช้าวันที่ 31 ม.ค. 50 ... วันสิ้นปีเก่า เข้าสู่ปีใหม่ ซึ่งสิ่งที่ผมได้ทำมาติดต่อกันเป็นปีที่ 4 แล้ว ก็คือ การที่ได้ไปไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอพรให้มีความสุข และสุขภาพดี ให้กับผู้ที่อยู่รอบข้างเรา รวมทั้งตัวเราด้วย ... เดินผ่านหน้า "กระทรวงกลาโหม" เพื่อข้ามถนนเข้าไปยังวัดพระแก้ว ซึ่งเป็นประจำทุกปีที่พบนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวนมากในช่วงนี้
ผมชอบเดินแอบแฝงเข้ากรุ๊ปทัวร์ เพราะอยากฟังว่านักท่องเที่ยวเขาคิดอย่างไรกับ "วัดพระแก้ว" ที่งดงามมากของเรา และไกด์จะบรรยายไว้อย่างไร เดินถ่ายภาพบริเวณนั้น ทำตัวกลมกลืนเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติซะเลย จากนั้น จะเดินอ้อมไปทางบริเวณพระบรมมหาราชวัง
ก็ได้พบกับทหาร ที่มาเปลี่ยนผลัดเดินสวนสนาม ซึ่งช่วยสร้างสีสัน เพิ่มความน่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย
เดินต่อเข้าไปในบริเวณ "พระที่นังจักรีมหาปราสาท" และ "พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท" ก็พบกับตุ๊กตาจีน ที่ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าทางขึ้น
เริ่มหิวกาแฟ นึกถึงกาแฟอร่อยใต้ศูนย์หนังสือธรรมศาสตร์ ก็เลยเดินออกจากบริเวณพระบรมมหาราชวัง ผ่านมาทางท่าพระจันทร์
ลืมนึกไปว่าวันนี้ร้านน่าจะปิดเพราะหยุดตามเทศกาล ผลคือ อดกินกาแฟ แต่ไม่เป็นไร ขอเก็บภาพ "แม่โดม" ไว้ซักหนึ่งภาพ เพราะไหนๆ ก็เดินมาถึงแล้ว เลยต้องเดินย้อนออกมา แต่ยังดีที่ได้ดื่มกาแฟอร่อยที่ "Blue Cup" ท่ามหาราช ค่อยมีพลังเดินต่อ และย้อนกลับมาสักการะ "ศาลหลักเมือง"
ระหว่างทางพบกับเจ้ารถรางชมเมือง ที่เมื่อคืนก่อนได้นั่งช่วงกลางคืน เลยขอเก็บภาพสีเหลืองสดใส สร้างสีสันโดดเด่นเป็นสง่าบนท้องถนนได้ไม่น้อย
เดินต่อมา ก็พบกับช้าง 3 เชือก ทำให้นึกถึงคำว่า "สามัคคี" ขึ้นมาทันที จากนั้นก็ได้เข้าสักการะศาลหลักเมืองเป็นอันเสร็จภารกิจในวันนี้
เดินกลับมาที่รถซึ่งจอดอยู่หลัง กรมแผนที่ทหาร ซึ่งผ่านถนนข้างกระทรวงกลาโหม ยืนรอเจ้ารถตุ๊กตุ๊กซักคันที่ผ่านมา เพราะอยากให้ช่วยเป็นนายแบบบ่งบอกความเป็นไทย ผลก็ได้ภาพที่ถูกใจเป็นของแถมในวันนี้
และแล้วก็ใกล้ถึงเวลานับถอยหลัง ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนๆ ก็มองไปนอกหน้าต่างห้องนอน ก็พบกับการฉายแสงไฟสปอตไลต์บนตึกใบหยก เลยขอบันทึกภาพไว้ซะหน่อย ... แช๊ะ! ปีนี้ก็เลยได้ Count Down 2008 กับเพื่อนๆ ที่ร้าน "Good View" ถนนตก ... Oh! Happy สุดๆ
ตื่นเช้ามา อากาศหนาวเย็น ยั่วยวนการขี่จักรยานเสียนี่กระไร จึงจูงเพื่อนคู่ใจปั่นไปสวนลุมพินี และไปสำรวจความเสียหายจากคืน Count Down หน้า Central World
นึกขึ้นได้ว่า อยากไปเก็บภาพพระบรมฉายาลักษณ์หน้าอาคารสำนักงานของ Central World ที่มองเห็นตอนอยู่บนรถไฟฟ้าเมื่อหลายวันก่อน ก็เลยเก็บภาพไว้เพื่อเป็นสิริมงคลในวันปีใหม่ ปั่นต่อไปยัง Siam Paragon และใช้เส้นทางลัดออกไปทางถนนเพชรบุรี ก็ได้พบกับ "เรือด่วนประจำคลองแสนแสบ" แล่นได้หวาดเสียวราวกับฉากไล่ล่าในหนังแอ๊คชั่น
ยังไม่มีโอกาสได้ลองนั่งเลย ไว้จะหาโอกาสซักครั้ง
ขอปิดทริปวันหยุดยาว 4 วัน กับเพื่อนร่วมทาง "เจ้า Trek" ซึ่งดูจากเกจ์วัดระยะทางสะสมที่แฮนด์รถ โอ้! เราทั้งสองเดินทางมาด้วยกันถึง 2,000 ก.ม. ตลอดปี 2550