เมื่อคืนนี้ ด้วยความตั้งใจจะไปเวียนเทียน ก็ลองนึกว่าจะไปที่ไหนดี ก็ตัดสินใจไปสถานที่ใกล้ๆ บ้าน เดินทางสะดวก แถมยังแบกกล้องและขาตั้งคู่ใจ ไปไหนไปกัน
ในปีนี้มีการจัดงาน สัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา ประจำปี พ.ศ. 2554 ซึ่งได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระแก้วมรกตจำลองมาประดิษฐานในมณฑป ณ ปริมณฑลสวนลุมพินี (ลานพระบรมรูปรัชกาลที่ 6)
มาทำความรู้จักกันอีกครั้ง "มาฆบูชา" ย่อมาจาก "มาฆปูรณมีบูชา" หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะ ตามปฏิทินของอินเดีย หรือเดือน 3 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย
"วันมาฆบูชา" ได้รับการยกย่องเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อ 2,500 กว่าปีก่อน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฏิโมกข์ท่ามกลางที่ประชุมมหาสังฆสันนิบาตครั้งใหญ่ในพระพุทธศาสนา
โดยมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นพร้อมกัน 4 ประการ คือ พระสงฆ์สาวกที่มาประชุมพร้อมกันทั้ง 1,250 รูปนั้นได้มาประชุมกันยังวัดเวฬุวันโดยมิได้นัดหมาย, พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดต่างล้วนเป็น "เอหิภิกขุอุปสัมปทา" หรือผู้ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง, พระสงฆ์ทั้งหมดที่มาประชุมล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา 6, และวันดังกล่าวตรงกับวันเพ็ญมาฆปุรณมีดิถี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ดังนั้นจึงมีคำเรียกวันนี้อีกคำหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" หรือ วันที่มีการประชุมพร้อมด้วยองค์ 4
อาจมองดูเหมือนไม่มีคน แต่ความจริงแล้วเป็นการตั้งความเร็วชัตเตอร์ให้ช้าลง จะเห็นเส้นสายของเทียนเป็นทางยาว และผู้คนเยอะพอสมควร ทำให้นึกถึงเอนทรีที่เคยมีโอกาสไปถ่ายภาพการเวียนเทียน ที่ประทับใจในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้พาคุณพ่อไปร่วมพิธีเวียนเทียนด้วยในครั้งนั้น
กดเพื่ออ่าน (+) ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๑ เวียนเทียนวันวิสาขบูชา ณ. วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร
ต้องขอชื่นชมการจัดงาน ที่เลือกสถานที่ใจกลางกรุงเทพฯ เดินทางได้ง่าย รวมทั้งรถไฟฟ้าลอยฟ้าและใต้ดิน ซึ่งได้เห็นทั้งเด็กและวัยรุ่นจำนวนมาก ไปจนถึงผู้เฒ่าผู้แก่ที่เดินทางมาทั้งครอบครัว มาร่วมพิธีเวียนเทียนกัน ช่วยกับสืบสานประเพณีอันดีงามของชาวพุทธสืบไป
แหล่งข้อมูล : วิกิพีเดีย และ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ