เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ท้องฟ้าใสในช่วงกลางวัน ทำให้มองหามุมถ่ายรูปใหม่ๆ เพราะในช่วงเย็น จะต้องได้เห็นแสงสวยยามโพล้เพล้อย่างแน่นอน จึงตกลงใจมาแถวถนนเจริญกรุง ที่ซึ่งเป็นถนนสายประวัติศาสตร์ ด้วยความที่ถนนแคบแต่หนาแน่นด้วยบ้านเรือนในย่านนี้ แต่ก็มีสถานที่ช๊อปปิ้งแห่งใหม่ผุดขึ้น บรรยากาศแปลกใหม่จึงไม่พลาดที่จะมาเก็บภาพความประทับใจมาฝากกัน
เดินทางมาถึงช่วงแดดร่มลมตก ก็เดินชมบรรยากาศ และตั้งใจจะเดินไปเก็บภาพความงามริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ขอเก็บภาพด้านหน้า ก่อนเดินเข้าไปภายใน ซึ่งสถานที่แห่งนี้กว้างมากๆ และเพิ่งจะเป็นการทดลองเปิดเฉพาะบางส่วนก่อน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมานี่เอง
ภายใต้ชื่อ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ “ASIATIQUE The Riverfront” ไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบเดินจ้ำไปยังท้ายของโกดังเก่าแห่งนี้ เพื่อไปหามุมถ่ายภาพ
ชื่นชอบในการผสานสถาปัตยกรรมแบบไทยโบราณ และสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
ระหว่างทางมีร้านอาหารอยู่มากมายให้เลือก
มีมุมนั่งพักผ่อน ซึ่งทั้งโครงการมีพื้นที่ถึง 75 ไร่
ยังมองเห็นบริเวณที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เพื่อเปิดพื้นที่ต่อไป รวมไปถึงจะมีโรงละครอีกด้วย เหมาะอย่างยิ่งที่จะต้องรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่สามารถเดินทางมาด้วยเรืออีกทางหนึ่ง
แต่ยังคงเหลือโกดังเก่าไว้ที่ปรับปรุงนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อย่างดี อาจสงสัยว่า พูดว่า "โกดัง" หลายครั้ง จะขอเล่าประวัติของสถานที่แห่งนี้สักหน่อย สถานที่แห่งนี้เดิมเป็นท่าเรือของ บริษัท อีสท์ เอเชียติก ซึ่งมีนายฮันส์ นิลล์ แอนเดอร์เซน ชาวเดนมาร์กเป็นเจ้าของ เพื่อการค้าไม้สักไปต่างประเทศ ยุคสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕
จึงสร้างท่าเรือขนถ่ายสินค้าขึ้น ณ ท่าเรือแห่งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของประตูการค้าสากลระหว่างสยามประเทศและยุโรป
จากแผนที่ ยังมองเห็นสภาพเดิมว่า เป็นโกดังท่าเรืออยู่เต็มไปหมด
ใกล้ถึงเวลาแห่งการแสดงแสงสีของธรรมชาติ และถือได้ว่า เป็นมุมที่สวยที่สุดมุมหนึ่งของ กรุงเทพฯ ก็ว่าได้
ซึ่งรู้สึกเสียดายที่กรุงเทพฯ ของเรา ขาดการวางผังเมืองในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เราขาดพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจริมแม่น้ำ ต่อให้เราสร้างสวนสาธารณะมากแค่ไหน ก็ถูกล้อมรอบไปด้วยตึกสูง ยังไงก็ไม่ได้รับความชุ่มฉ่ำจากลมพัดโชยจากริมแม่น้ำ
อีกทั้งหลายๆ แห่ง ก็ยังถูกทิ้งให้รกร้างไร้ประโยชน์ จึงอยากให้เวนคืนบางพื้นที่มาสร้างประโยชน์สาธารณะจริงๆ
เจอมุมนี้เข้าไป ขอบอกว่า กรุงเทพฯ ของเราสวยมากๆ เพียงแต่เราไม่ค่อยใส่ใจหรือมีโอกาสได้เห็น
ไม่ผิดหวังเลยที่แบกขาตั้งกล้องหนักอึ้งมาด้วย จึงได้ภาพอึ้งและน่าทึ่ง แบบนี้
ความงามจากธรรมชาติที่ไม่ต้องแต่งเติมใดๆ ก็ประทับใจไม่รู้ลืม
ความสวยงามแบบนี้ ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ แต่มักจะได้เห็นในฤดูร้อนแบบนี้เท่านั้น
ลมพัดเย็นสบาย ได้เวลาพาเดินชมตลาดแล้ว
มีทั้งสินค้าและงานศิลป์ หลากหลาย ซึ่งหากโครงการเปิดครบ จะมีกว่า 1,000 ร้านค้า
ด้วยความรู้สึก ชื่นชอบการเดินแบบโล่งมากกว่าการเดินห้างที่มีระบบปรับอากาศ
ร้านค้าหลากหลาย โดยเฉพาะสินค้าตกแต่งบ้าน
มีมุมนั่งพักผ่อน ชมแสงสีเสียงขับกล่อมด้วยนักร้อง
สนุกสนานกับการถ่ายรูปกันอย่างเต็มที่ไม่ว่า เด็กหรือผู้ใหญ่
กดถ่ายไป อัพเฟซบุ๊คไป ให้เพื่อนๆ กดไลค์กัน
เรียกได้ว่า ครบรส ทั้งบรรยากาศ สีสัน และสินค้าหลากหลาย
เดินไป ชิมไป อิ่มไป
เชื่อได้ว่า สถานที่แห่งนี้ จะเป็นแลนด์มาร์คสำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่จะต้องกล่าวถึงไม่แพ้จตุจักรที่กำลังร้อนแรง เร่าร้อนในขณะนี้
ถึงอย่างไรก็คนไทยด้วยกัน หันมาสนับสนุนสินค้าของคนไทย และดึงเงินตราต่างประเทศเข้ามามากๆ สังเกตได้ว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเดินอยู่เช่นเดียวกันทั้งที่ยังไม่ได้ประชาสัมพันธ์อะไรมากมาย และอยากชวนให้มาเที่ยวกัน
เอนทรีที่เกี่ยวข้อง