เมื่อเช้าวานนี้ เป็นอีกวันหนึ่งที่คนไทยที่มีหัวใจรักจักรยานเหมือนกัน ได้มีโอกาส "รวมไทยใจเดียวกัน" ผนึกกำลังนักปั่นทุบสถิติ "ขบวนจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในโลก" (Largest parade of bicycles) ซึ่งเรามารวมกันตั้งแต่เช้ามืด
ถือโอกาสบันทึกภาพไว้ก่อนการออกจากจุดสตาร์ท ซึ่งมั่นใจว่าวันนี้พวกเราทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน เพราะมาร่วมมือร่วมใจกันเยอะจริงๆ จนเต็มลานพระบรมรูปทรงม้า
การมารวมกลุ่มกันแบบนี้ มักเห็นภาพการถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เพราะได้ยินคนพูดขึ้นว่า "ใครซ่อมเบรคจักรยานได้บ้าง" ก็มีเพื่อนจักรยานแถวนั้น เข้ามาช่วยเหลือกันทันที ดังภาพ
ซึ่งวันนี้พวกเราจะมาช่วยกันทุบสถิติกัน หากพวกเราขาดซึ่งความสามัคคี ความมีน้ำใจให้กัน เราก็คงทำไม่สำเร็จ
ทุกคนเดินทางมาจากทุกทิศทั่วไทย แม้จากต่างจังหวัด ก็เดินทางกันมาเป็นชมรม ต้องขอชื่นชมกันด้วย ลำพังคนกรุงเทพฯ อย่างเดียว คงไม่ได้จำนวนเพียงพอที่จะทุบสถิติ แต่ท่านเหล่านั้น ยังต้องเดินทางไกลมาร่วมด้วยช่วยกัน
ภาพแบบนี้ คงไม่ได้พบเห็นกันได้บ่อยๆ
ลำพังแค่ถ่ายภาพสะพานพระราม ๘ จากมุมนี้ ก็ยากแล้ว และยังมีภาพเพื่อนๆ กับจักรยานเต็มสะพานแบบนี้ เลยได้ภาพประทับใจ
ซึ่งความรักในจักรยานนั้น สามารถถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้แบบนี้ เห็นแล้วน่าปลื้มใจ เพราะวันนี้เราต้องปั่นเป็นระยะทาง 32 กิโลเมตร แต่น้องหนูก็ไม่หวั่น
แสงแรกของวันนี้ ทำให้มองเห็นเพื่อนๆ ผู้รักในจักรยาน เต็มสุดลูกหูลูกตา
ระหว่างรอตั้งขบวนก่อนออกจากจุดสตาร์ท ถือโอกาสพูดคุยกัน ชมวิวแม่น้ำยามเช้า
เราก็สนุกกับการเก็บบันทึกภาพ ในมุมที่คงไม่มีโอกาสมาบันทึกได้ง่ายๆ แบบนี้ ... แช๊ะ!
เมื่อเริ่มออกจากจุดสตาร์ท ก็เริ่มจัดแถวเรียง 6 ไปตามแนวยาว เพื่อเข้าสู่จุดนับระยะทางความยาวรวม 4 ก.ม. ซึ่ง ณ จุดนี้ได้มีโอกาสชื่นชมพระบรมฉายาลักษณ์พ่อหลวงของปวงชาวไทยทุกคน ด้วยหัวใจเดียวกัน และได้รับความสุขใต้ร่มพระบารมี ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
เริ่มจัดขบวนเหลือ 3 เข้าสู่เส้นทางเริ่มนับระยะทาง
ความสามัคคี ด้วยจุดหมายเดียวกัน อีกทั้งความมีน้ำใจ อัธยาศัยไมตรีของชาวจักรยาน ที่เห็นใครที่ปั่นจักรยาน เราก็มักโบกไม้โบกมือทักทายกัน ทั้งที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่เรามีหัวใจที่รักจักรยานเหมือนกัน ทำให้มิตรภาพเกิดขึ้นได้ง่ายมาก
เป็นโอกาสดีๆ ที่ได้ปั่นออกกำลังกายไปด้วยในตัว แถมชมวิวสองข้างทาง
ลองยกกล้องถ่ายย้อนไปข้างหลัง จะได้เห็นท้ายขบวนที่ยาวไปสุดทาง
เริ่มออกไปนอกเมือง เห็นวิวข้างทางสวยไปอีกแบบ
แบบนี้ซิ ถึงเรียกว่า "จักรยานสามัคคี" ไปไหน ไปด้วย ช่วยกันปั่น
ย้อนกลับทางเดิมซึ่งเรายังอยู่บนทางคู่ขนานลอยฟ้าถนบบรมราชชนนี ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ได้โอกาสมาปั่นบนสะพานแห่งนี้ ซึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนเคยมีโอกาสมาร่วมเป็นสต๊าฟปั่นจักรยานคอยประกบนักวิ่งของ กรุงเทพมาราธอน ระยะทาง 42 ก.ม. ซึ่งตอนนั้นรู้สึกว่าสบายมาก แต่ทำไมวันนี้รู้สึกเมื่อยจัง ปล่อยให้พวกขาแรงปั่นนำหน้าไปหมด สงสัยว่าอายุไม่ใช่แค่เพียงตัวเลขแล้ว เรี่ยวแรงก็ถดถอยไปด้วย ฮ่าๆ
แต่จักรยานนั้น ไม่ได้จำกัดที่เพศหรือวัย ขอให้มีความสุข เพราะเป็นกีฬาที่ได้ทั้งออกกำลังกาย แถมได้เที่ยวไปสองข้างทาง
ไม่ว่าวัยไหน วันไหน เราก็ไปได้ทุกที่ ที่มีทางและจักรยานคู่กาย
สองข้างทางมีสวนผัก พร้อมหมอกจางๆ และควัน
แถมด้วยความงามจากสถาปัตยกรรม และประติมากรรมแบบฝรั่ง
ที่นี่เมืองไทยนะ ... ไม่ใช่ยุโรป
ขอขี่ปล่อยมือ ถือกล้องถ่ายไปด้วย ความสามารถพิเศษ ห้ามลอกเลียนแบบ
แต่ก็ทึ่งกับจักรยานคันนี้ ที่ไม่มีอานให้นั่ง แล้วยืนปั่นมาตลอด 32 ก.ม. โดยไม่เมื่อย ขนาดเรานั่งบนอาน ยังเมื่อยเลย
วันนี้เป็นวันดีของพวกเรา ที่ได้อภิสิทธิ์เหนือระดับ จักรยานปั่นลอยฟ้า
ขอหยุดถ่ายรูปจักรยาน ถือเป็นข้ออ้างที่จะขอพักเหนื่อยได้แบบไม่น่าเกลียด
ย้อนกลับมาทางสะพานพระราม ๘ อีกครั้ง
ขอเก็บบรรยากาศในมุมที่คงทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ง่ายๆ หากเป็นวันอื่น มีหวังโดนจับ ปรับ คุมประพฤติ
ขอถ่ายภาพมุมนี้ดูบ้าง
ดูแล้วทุกคนมีความสุข และอยากชวนกันมาปั่นจักรยาน เพื่อสุขภาพและท่องเที่ยวกันในวันหยุด ขอแค่สัปดาห์ละหนึ่งวัน ก็ได้ประโยชน์มหาศาล
ภาพมุมนี้ ถือเป็นภาพพิเศษ แบบไม่ต้องเสี่ยงกับรถที่แล่นมา เพราะเช้าวันนี้มีแต่พวกเราชาวจักรยาน
แล้วพวกเราก็มาอยู่รวมกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้ากันอีกครั้ง เพื่อฟังประกาศผลจำนวนจักรยานที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ คือ "3,515 คัน" ถือว่าพวกเราทำสำเร็จ ที่สามารถทุบสถิติ "ขบวนจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในโลก" (Largest parade of bicycles) ได้สำเร็จ จากนั้น ก็ทยอยกันเข้ารับประกาศนียบัตรกันทุกคน ซึ่งมีการพิมพ์ชื่อ-นามสกุล พร้อมด้วย ริสแบนด์สีขาว และของที่ระลึก ซึ่งทุกๆ อย่าง หากคนไทยรวมไทยเป็นหนึ่ง เราก็สามารถทำอะไรต่างๆ ได้สำเร็จอย่างแน่นอน
อ้างอิง : The One รวมไทยใจเดียวกัน, สมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย