หลังจากที่ได้เที่ยวชมวัดทั้ง 2 แห่งในเมืองอยุธยา พวกเราก็กลับมายังสถานีรถไฟอยุธยาในเวลาประมาณ 16.30 น. เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยรถจักรไอน้ำขบวนนี้ในเวลา 17:20 น. ด้วยหัวรถจักรหมายเลข 850 ซึ่งในการเดินทางมาอยุธยา ได้ใช้หัวรถจักรหมายเลข 824 ในการลากจูงตู้โดยสาร
ลองสังเกตด้วยตัวเองรู้สึกว่า หัวรถจักรที่ 824 จะพ่นเขม่าควันดำมากกว่าหัวรถจักรที่ 850 ทั้งที่ผลิตมาพร้อมๆ กัน
แต่ถ้ามองจากภาพนี้อาจสงสัยว่า ทำไมควันดำจึงพุ่งออกมาทางท้ายหัวรถจักร
ก็เพราะหัวรถจักรที่ 824 กำลังแล่นไปเพื่อไปประกบกับตู้โดยสารที่อยู่ซ้ายมือของภาพ จากนั้นก็จะลากจูงด้วยหัวรถจักรที่ 850 พากลับจากอยุธยา มายังกรุงเทพฯ
ประกบกับโบกี้ผู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว ... ปู้น ปู้น
อุตส่าห์เดินทางมาถึงสถานีรถไฟอยุธยา ขอเก็บภาพบรรยากาศซักหน่อย โดยเฉพาะระฆังที่ต้องมีทุกสถานีรถไฟ
เชื่อได้ว่าทุกคนที่เดินทางมาพร้อมกับขบวนรถจักรไอน้ำในวันนี้ จะต้องประทับใจและบันทึกภาพไว้เป็นความทรงจำดีๆ นำกลับมาชื่นชมได้อีกเรื่อยๆ
เริ่มออกเดินทางกลับ รถไฟแล่นด้วยความเร็ว ทำให้เพลิดเพลินกับภาพตลอดเส้นทาง
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง เริ่มมองเห็นแสงสุดท้ายของวันออกเป็นสีส้ม
นกเริ่มบินกลับรัง ไม่ใช่แค่ตัวสองตัว ... มีนกเป็นฝูง
พวกมันคงตื่นจากเสียงหวูดของรถไฟที่เสียงแหลม ไม่เหมือนรถไฟที่ผ่านไปมาทุกวัน ซึ่งพวกมันอาจรู้สึกไม่คุ้นเคย จึงบินหนี ... วงแตกแบบนี้
มองไปที่เสาไฟฟ้าแรงสูงต้นนี้ซิ ... โอ้! นกเยอะมากๆ ภาพแบบนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็ประทับใจจริงๆ
ดีใจที่มีโอกาสได้บันทึกภาพชีวิตธรรมชาติแบบนี้
ซึ่งไม่ได้พบเห็นอะไรแบบนี้บ่อยๆ สำหรับชีวิตคนเมืองอย่างเรา
รวมทั้งรังนก ที่มองเห็นได้แต่ไกล
มีบางช่วงที่ผ่านบริเวณที่เผาหญ้าในทุ่ง
เป็นภาพประทับใจข้างทางจริงๆ ไม่นึกว่า "รถจักรไอน้ำ" จะพามาเห็นอะไรสวยงามแบบนี้
ชอบภาพนี้เป็นพิเศษ คุ้มค่าการเดินทางจริงๆ
เดินทางเข้ามาถึงกรุงเทพฯ แล้ว ยังไม่มืดค่ำเลย
ไม่นานนัก ก็มาถึงหลักสี่กันแล้ว ก็เริ่มมีการจอดตามสถานีหลักๆ เพื่อส่งผู้โดยสารกว่าจะมาจอดที่สถานีหัวลำโพงก็ประมาณ 19:30 น.
ยังขอบันทึกภาพขุมพลังที่พาพวกเราเดินทางไป-กลับ ในทริปสุดประทับใจในวันนี้ และอยากให้มีการจัดการเดินรถไฟแบบนี้ไปอีกเรื่อยๆ
อยากเชิญชวนให้มาลองเที่ยวกับรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ขบวนนี้กันบ้าง ซึ่งจัดขึ้นปีละ 4 ครั้ง และตั้งใจไว้ว่าโอกาสหน้าจะต้องกลับไปเที่ยวกับรถไฟขบวนนี้อีกอย่างแน่นอน โดยสามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ของ การรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ http://www.railway.co.th