Disable Preloader




Airport Rail Link ฉันไปซิ่งมาแล้ว แจ๋วจริงๆ ซิบอกให้

เมื่อช่วงเย็นวันนี้หลังจากเสร็จประชุมกับลูกค้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า BTS พญาไท เลยถือโอกาสมาสัมผัส "Airport Rail Link" ตัวจริงซักหน่อย หลังจากร้องเพลงรอมาหลายรอบ

เดินทางมาถึงประมาณ 4 โมงเย็นก็ขึ้นบันไดเลื่อนเข้าสู่ชานชาลาสถานี รับบัตรโดยสารฟรี แล้วก็เข้าสู่ขบวนรถทันที สภาพรถยังใหม่เอี่ยมเพราะเพิ่งเปิดทดลองอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2553 นี่เอง

มีผู้ให้ความสนใจมาทดลองใช้ รวมทั้งผู้โดยสารที่จะเดินทางด้วยเครื่องบิน

ได้บรรยากาศการเดินทาง และเป็นทางเลือกใหม่ล่าสุดในการเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ

แต่ละโบกี้ มีประตูไฟฟ้ากั้นอยู่

แม้จะมีที่นั่งไม่มาก แต่ก็สามารถยืนโหนได้สบาย

สีเหลืองสดใส

สร้างความน่าสนใจให้หนูน้อยเช่นเดียวกัน

พอถึงเวลา 16:20 น. ประตูไฟฟ้าก็ปิดตรงต่อเวลา เริ่มแล่นออกและทำความเร็วขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็นุ่มนวลดีมาก

ได้เก็บภาพภายนอกในมุมที่ไม่เคยทำมาก่อน

แล่นไปอย่างรวดเร็วมาถึงย่านมักกะสัน ซึ่งขบวนทดลองนี้ จะไม่มีการแวะสถานีใดๆ แต่ไปสิ้นสุดที่สถานีปลายทางคือ "สนามบินสุวรรณภูมิ"

ด้วยความชื่นชอบการเดินทางด้วยรถไฟมากที่สุด จึงมักจะนำมาเขียนเรื่องราวฝากไว้ในหลายๆ เอนทรี ทั้งในประเทศและจากต่างประเทศ

สำหรับชาวต่างชาติ อาจมองเป็นเรื่องปกติเพราะแต่ละประเทศที่พัฒนาแล้ว จะต้องมีรถไฟฟ้าที่นำผู้โดยสารที่ลงจากเครื่องบินเข้ามายังตัวเมือง แต่สำหรับเมืองไทย เรียกได้ว่า "เป็นรถไฟฟ้าขบวนแรกก็ว่าได้ที่เชื่อมสนามบินกับใจกลางเมือง"

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก็เพิ่งนั่งรถไฟแม่เหล็ก (Maglev) ของเมืองเซี่ยงไฮ้ เป็นครั้งที่ 2 มาสดๆ ร้อนๆ และเมื่อสองปีก่อนเคยเขียนไว้ในเอนทรี เยี่ยมเยือนแดนมังกร ตอนที่ 14 : รถไฟแม่เหล็ก (Maglev Train) แห่งเมืองเซี่ยงไฮ้

ทำความเร็วสูงสุดได้ 431 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง (แต่เคยทดสอบได้ถึง 501 ก.ม./ชั่วโมง) สำหรับระยะทางประมาณ 31 ก.ม. จากตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ ไปยัง สนามบินผู่ตง ใช้ระยะเวลาเพียง 7 นาที

แม้ว่า Airport Rail Link บ้านเรา จะใช้ความเร็วประมาณ 100 ก.ม. ต่อชั่วโมง ก็ถือว่าสะดวกรวดเร็วมากแล้ว ใช้เวลาเพียง 22 นาที จาก สถานีพญาไท ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะปัจจุบัน Maglev นั้น ก็ยังประสบกับภาวะขาดทุน แม้จะให้บริการมากว่า 3 ปี แต่เพราะคนจีนเขาไม่นั่งกัน เพราะแพงมากๆ เกือบ 700 บาท ต่อ 1 เที่ยว และภายในภายนอกของรถ ก็เริ่มโทรมกว่า 2 ปีที่แล้วที่เคยสัมผัสมา

แค่ 10 นาที ก็มาถึงถนนศรีนครินทร์แล้ว

ยังได้ชมบรรยากาศรอบข้าง เป็นความสุขและคลายเครียดได้อย่างหนึ่ง

มองเห็นภูเขาแห่งที่ 2 ของกรุงเทพฯ รองจากภูเขาทอง ก็คือ "กองขยะอ่อนนุช" ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นภูเขาไปแล้ว และมีต้นหางนกยูงกำลังออกดอกสีแสดพอดี

ผ่านสถานีไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่แวะ

มองดูรถบนมอเตอร์เวย์ แล่นอยู่ข้างๆ ซึ่งผมเดินทางแบบนี้จากบ้านถึงสนามบินโดยไม่ต้องเสียตังส์ซักบาท เพราะตอนนี้ BRT ก็เปิดใช้ฟรี, ผมมีบัตรฟรีสำหรับรถไฟฟ้า BTS ใช้ได้ 1 ปีเต็ม และ Airport Rail Link ก็ยังฟรีอีก แต่สัปดาห์ที่แล้วเดินทางด้วย Taxi มาสนามบินพร้อมขึ้นทางด่วนรวมแล้วตก 300 กว่าบาท แน่ะ! แถมยังใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง ทั้งลุ้นว่าจะติดเคอร์ฟิว ทั้งลุ้นรถติดเพราะเป็นช่วงก่อนวันหยุดยาว

เชื่อว่า Airport Rail Link ต้องได้รับความนิยมอย่างแน่นอน เพราะสะดวก รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย

นั่งยังไม่ทันก้นร้อนเลย มองเห็นสนามบินสุวรรณภูมิอยู่ไม่ไกลแล้ว

รถไฟฟ้า Airport Rail Link กำลังจะแล่นสวนมาอีกขบวน

ขอบันทึกภาพแบบใกล้ๆ ซักหน่อย แช๊ะ!

แล้วก็มาถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย

ตรงต่อเวลา

ซึ่งยอมรับว่า ระบบคมนาคมที่ทันสมัย ทำให้วิถีชีวิตคนเปลี่ยนไปจริงๆ เพราะสองวันนี้ ผมจอดรถไว้ที่บ้านเฉยๆ หันมาให้ระบบขนส่งมวลชนทั้ง BRT ต่อ BTS ต่อ Airport Link อย่างแท้จริง

ไม่เพียงแต่คนไทย หรือคนกรุงเทพฯ จะได้ประโยชน์จากระบบคมนาคมแบบนี้ ยังเป็นการต้อนรับชาวต่างชาติให้มาเที่ยวเมืองไทยได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น เป็นประตูเชื่อมแต่ละประเทศ ซึ่งเราเคยคิดว่า สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นประตูบานใหญ่ แต่วันนี้เรานำนักท่องเที่ยวมายังประตูบานถัดไป คือ ใจกลางเมืองได้อย่างน่าชื่นชม

เอนทรีที่เกี่ยวข้อง