ตั้งโทรศัพท์มือถือให้ปลุกเวลา 5.30 น ซึ่งฟ้ายังมืดอยู่ ก็เลยไปทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เพื่อมารอแสงแรกของยามเช้า สะท้อนความขาวของทะเลหมอกให้ได้ชมกัน ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลย
ซึ่งไม่มั่นใจในตอนแรกว่าจะได้เห็นทะเลหมอกเยอะหรือไม่ เพราะเมื่อช่วงค่ำ อากาศในปีนี้ก็ไม่ได้หนาวจับใจนัก ขนาดที่ว่านอนสบายๆ ไม่ต้องห่มผ้า แต่ที่ไหนได้ต้องตื่นเพราะความหนาวตอนเที่ยงคืน รีบแกะถุงนอนและซุกตัวเข้าไป เพื่อเก็บความอบอุ่นจนถึงเช้า
จุดเด่นของภูหัวฮ่อมแห่งนี้ คือ สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้ทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งในเอนทรีนี้จะพาชมฝั่งนี้ซึ่งมองข้ามไปถึงฝั่งลาวซะก่อน และในเอนทรีถัดไปจะพาไปชมอีกฝั่งอย่างเต็มอิ่ม
เรียกได้ว่า กางเต๊นส์ชิดขอบติดทะเลหมอก ขาดแต่เพียงเสียงคลื่นเท่านั้น ได้ยินแต่เสียงกรนของแต่ละเต๊นส์ประสานกัน ครืนๆ
อาหารเช้าวันนี้ก็ไม่ธรรมดา ทั้งอร่อยแถมชูรสด้วยความสวยงามจากธรรมชาติ
อิ่มเอมเปรมปรีดิ์ไปตามๆ กัน
ขนาดกาแฟ 3-in-1 ก็ยังอร่อยกว่ากาแฟสด ในบรรยากาศแบบนี้
มีหลายๆ เต๊นส์ก็เริ่มเก็บและแยกย้ายกันไปที่อื่น ส่วนพวกเราตกลงกันแล้ว ขอปักหลักกันต่ออีกคืน
ดวงอาทิตย์ก็โผล่มาให้เห็นแบบลางๆ ผ่านเมฆหมอก
อิ่มแล้ว ก็ขอผึ่งพุงกันซักหน่อย
เด็กๆ อย่างเราจะมัวหลับไหลได้อย่างไร ขอเก็บภาพโดยรอบไปเรื่อยๆ
บรรยากาศสุดประทับใจ
ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ หลังทำงานเหมือนมดมาแล้วตลอดทั้งปี
ได้เจอเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อขอคำแนะนำเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว เลยได้ไอเดียใหม่ นั่งรถไปเที่ยวกันที่สวนพฤกษศาสตร์ และน้ำตกตาดเหือง แถมแวะไร่สตรอเบอรี่และถั่วแมคคาเดเมียกันด้วย
แต่ละคนก็แค่ล้างหน้าล้างตา แปรงฟันโดยไม่อาบน้ำ เพราะกะกันว่าจะไปโดดเล่นน้ำที่น้ำตกกัน
นั่งผ่าน "วัดศรีโพธิ์ชัย" วัดสไตล์ลาวอีกครั้ง ก็ยังประทับใจได้อีก
ฟ้าสวย นกตัวใหญ่กำลังบินร่อน สลับกับเขาหัวโล้น
แปลงกายเป็นเผ่าอัลกออีดะ เพื่อไปตัดสับปะรด .. เอ๊ย! ไม่ใช่ ... ใจหนึ่งก็เสียดายผืนป่า ไฉนกลายเป็นไร่สับปะรดซะงั้น ใครทราบช่วยตอบที
ไม่รู้จะขำดีมั้ย กางเต๊นส์ในศาลา
มาถึงแล้ว สวนพฤกษศาสตร์ บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ... นี่เราข้ามจังหวัดจาก จ.เลย หรือเนี่ย!
มาพบกับดอกสร้อยสยาม พืชประจำถิ่นที่นี่แห่งเดียวในโลก เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง พาดพันตามเรือนยอดไม้อื่นไปไกล เพื่อเลื้อยออกหาแสงแดด
นอกจากนี้ ยังมีพันธุ์ไม้แปลกๆ อีกจำนวนมาก
รวมทั้ง รองเท้านารีคางกบคอแดง ที่สวยงามมาก
กล้วยไม้ดินชนิดต่างๆ กำลังออกดอกเบ่งบานอวดประชันความงามจำนวนมาก
ทำเอาพวกเราแต่ละคนเครียดไปตามๆ กัน เพราะอยากบันทึกภาพความประทับใจในแต่ละมุมมองของแต่ละคน
สนุกกันเพลิน
ได้ชิมไม้แปลกๆ เห็นว่าอยู่ในตระกูลของกุหลาบ สีเหลืองส้ม มีจุดแดง รสชาดแปลกดี ชิมกันเกือบหมดต้น
ขอบันทึกภาพคู่หวานกันไว้หน่อย หลังจากที่มัวแต่ปลีกตัวถ่ายรูปดอกไม้ แทนการถ่ายภาพบุคคล
เก็บความประทับใจไว้ในทริป
พวกเราก็เดินทางกันต่อไปยังไร่สตรอเบอรี่
นั่งไป คุยกันไป เพลินไปไม่นานก็ถึงจุดหมายถัดไป
อีกหนึ่งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น โครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในอีกพื้นที่
มาถึงซะเที่ยง ไม่เหลือสตรอเบอรี่ซะแล้ว ก็ขอให้ชมสตรอเบอรี่สดๆ จากต้นแทนแล้วกัน
เพราะเป็นจุดที่พวกเราแวะพักทานอาหารกล่องที่สั่งทำไว้นั่นเอง นั่งชมยอดต้นสนสามใบ อิ่มอร่อยสบายใจ
เรียกได้ว่า ทริปนี้สนุกสนานครบรสดีจริงๆ ซึ่งเอนทรีต่อไปจะพาไปเที่ยวน้ำตก และชมพระอาทิตย์ขึ้นกลางทะเลหมอก และเป็นการจบทริปที่สนุกแซ่บ แล้วมาติดตามกันต่อเร็วๆ นี้นะ
บันทึกการเดินทางของ ก๊วนปุ๊ปปั๊ป ประหยัดทัวร์ ที่ผ่านมา
- ค่ำคืนดูดาว เช้าดูหมอก โอบกอดขุนเขา เรารัก "ภูหัวฮ่อม" : ตอนที่ 2
- ค่ำคืนดูดาว เช้าดูหมอก โอบกอดขุนเขา เรารัก "ภูหัวฮ่อม" : ตอนที่ 1
- "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" - ซำที่ 1 : ซำติงอิมเพรสชั่น
- "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" - ซำที่ 2 : ซำบายดีแต่หนาวจัง
- เพราะ "แสลงใจ" จึงได้ชื่อว่า "ทุ่งแสลงหลวง"
- "หนาวนี้" หรือ "หนาวไหน" อยากชวนไป "น้ำหนาว"
- นอนดูดาว เช้าดูหมอก ณ อุทยานแห่งชาติแม่เมย : ตอนที่ 1
- นอนดูดาว เช้าดูหมอก ณ อุทยานแห่งชาติแม่เมย : ตอนที่ 2
- นอนโต้ลมหนาว เช้าโอบกระบากใหญ่ ณ อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช : ตอนที่ 1
- นอนโต้ลมหนาว เช้าโอบกระบากใหญ่ ณ อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช : ตอนที่ 2