เมื่อเรือเทียบท่า พวกเราก็เดินขึ้นบันไดตามเส้นทาง เพื่อเข้าไปเดินใน "ถ้ำโดวโก๋ว" (Dau Go Cave) อันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองนี้ ซึ่งไม่ทราบมาก่อนเลยว่า จะได้พบเห็นอะไรในถ้ำบ้าง งั้นตามเรามาเที่ยวชมภายในกันดีกว่า

ซึ่ง "ถ้ำโดวโก๋ว" ถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งของ "ฮาลองเบย์" ที่ผู้มาเยือนต้องไม่พลาดจุดนี้

เส้นทางเดินก็ไม่ยากลำบากนัก เดินไม่นานก็ถึงบริเวณปากถ้ำ ซึ่งเป็นถ้ำขนาดใหญ่

มาเที่ยวชมหินงอก หินย้อย ซึ่งคล้ายกับการไปเที่ยวชมถ้ำในคุนหมิง จากเอนทรีที่เคยเขียนผ่านมา โดยถ้ำในต่างประเทศที่จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว มักจะมีการติดไฟแสงสี เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมได้อย่างสวยงาม แต่ในบ้านเรามักใช้ไฟฉายส่อง มักจะไม่เห็นรายละเอียดได้ชัดเจนแบบนี้

โดยมีการจัดแสงสี ให้มีหลายมิติ ดูน่าสนใจ คิดว่าแสงเหล่านี้คงไม่ไปทำลายธรรมชาติที่สร้างขึ้นเองตามกาลเวลา

รวมทั้งบางมุม สามารถมองเห็นธรรมชาติจากภายนอก ผสมผสานกับแสงสีภายใน

โดยเฉพาะมุมนี้ จัดแสงให้ดูคล้ายกับปล่องลาวาของภูเขาไฟ

ในบางมุมก็มีน้ำพุ ซึ่งพยายามมองว่าเกิดจากธรรมชาติ หรือฝีมือมนุษย์กันแน่ คิดว่าน่าจะทำขึ้นเอง

พอเดินออกจากปากถ้ำอีกฝั่งหนึ่ง ได้พบเห็นภาพสวยงามจากมุมสูง ชอบเรือโบราณกับความงามของเกาะแห่งอ่าวฮาลองแห่งนี้ ถือเป็นเสน่ห์ในการอนุรักษ์ความงดงามได้ลงตัว

พวกเราภูมิใจนำเสนอ ช่วยชาวเวียดนามประชาสัมพันธ์อีกทางหนึ่ง ... ต้องขอค่าโฆษณาซักหน่อย

เพราะต้องจ้างพรีเซนเตอร์ ... อิมพอร์ตโดยตรงมาจากเมืองไทย

ยืนตะลึงกับความงามจากธรรมชาติ และความใสสะอาดของน้ำทะเล ขอบันทึกภาพความประทับใจไว้ซักหน่อย ... แช๊ะ!

รวมภาพมุมต่างๆ บริเวณนี้

พวกเราต้องเดินข้ามสะพานโค้งเว้า เพื่อไปขึ้นเรือและออกเดินทางต่อไปยัง "หมู่บ้านชาวประมง" ที่ตั้งอยู่กลางทะเล

จากจุดนี้ จะมองเห็นปากถ้ำ ที่พวกเราเดินออกมาและยืนถ่ายรูปจากมุมสูงเมื่อสักครู่นี้

เรือแล่นออกเดินทางไปยังหมู่บ้านชาวประมง เพื่อไปแวะเลือกซื้อ กุ้ง กั๊ง ปู เพื่อมาปรุงเป็นอาหารมื้อกลางวันของพวกเราบนเรือ

ยิ่งแล่นไป ตรงเข้าไประหว่างเกาะต่างๆ ภาพสวยงาม ตื่นตาตื่นใจมาก

เริ่มมองเห็น "หมู่บ้านชาวประมง" ลอยอยู่เหนือน้ำเบื้องหน้า ซึ่งในตอนต่อไป จะนำชมบรรยากาศ วิถีชิวิตที่ดูสงบ เป็นกันเองระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของชาวเวียดนาม ที่สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนได้ไม่ยาก

กล้อง : Canon PowerShot A620