ด้วยความประทับใจในสถานที่ท่องเที่ยว "ฮาลองบก" แห่งนี้ ทำให้ไม่สามารถปล่อยผ่านไปง่ายๆ จึงต้องมีตอนต่อของเมืองนิงห์บิงห์แห่งนี้ ... บ้างก็ลงมือพายเอง เพื่อได้บรรยากาศเป็นชาวเรือกับเขามั่ง
หรือไม่ก็ขอนั่งเป็นนักท่องเที่ยว คอยยิ้มหน้ากล้องแบบนี้ ก็ไม่ว่ากัน
ส่วนลำนี้ แค่สองคนรวมกันก็ทำให้หัวเรือจมลงเกือบต้องวิดน้ำออกจากเรือ และคงต้องแย่งพาย จากเจ้าของเรือมาทำหน้าที่ฝีพาย ขืนปล่อยให้ฝีพายหญิงทั้งสองพายล่ะก้อ มีหวังกลับเข้าฝั่งในช่วงหัวค่ำเป็นแน่ ... แซวเพื่อน .. ขำขำ
ขอขยับแว่นซะหน่อย สู้ๆ ... แช๊ะ!
เสน่ห์ที่น่าสนใจของสถานที่ท่องเที่ยวนี้ นอกจากการนั่งเรือเที่ยวชมขุนเขา แต่การนั่งเรือลอดถ้ำถึง 3 แห่ง เพิ่มความรู้สึกตื่นเต้นได้ดี
ภาพนี้แสดงให้เห็นความเร็วในการพายเรือผ่านบริเวณถ้ำ และแสงสว่างจากปากถ้ำอีกด้านหนึ่ง
จะเห็นได้ว่า เพดานถ้ำต่ำมากๆ นั่งไปต้องก้มหัวไปด้วยในบางจุด
มาถึงจุดหยุดพักบริเวณปากถ้ำที่ให้ทั้งนักท่องเที่ยว และฝีพายได้หยุดพักกัน ซึ่งมีการขายผลไม้ เครื่องดื่ม และขนมต่างๆ ซึ่งจะซื้อรับประทานเอง หรือซื้อให้ฝีพายเพื่อเป็นน้ำใจที่มอบให้ และยังเป็นการเสริมพลัง เพื่อพาเรากับไปยังจุดเริ่มต้น
ฝีพายเอง ก็นำผ้าลายต่างๆ หรือสินค้าที่ระลึกมาให้นักท่องเที่ยวที่สนใจ เพื่ออุดหนุนกัน สนนราคาก็ไม่แพงมาก ต่อรองกันได้สนุกสนาน
หยุดพักกันไม่นาน ก็เริ่มหันหัวเรือพายกลับไปยังท่าเรือในจุดเริ่มต้น
ผลัดกันถ่ายรูปไปมา แซวกัน เฮฮาสนุกสนานกันแต่ละลำ
ในตอนที่แล้วได้พูดถึง "สาหร่ายหางกระรอก" ซึ่งจะเห็นได้ว่า ชาวบ้านสองคนนี้ กำลังดึงขึ้นจากน้ำ เพื่อไม่ให้กีดขวางเส้นทางสัญจรของเรือพาย ซึ่งสาหร่ายเติบโตออกดอกสมบูรณ์มาก แสดงว่าน้ำมีความใสสะอาดมาก
ไม่พลาดที่จะเก็บภาพมุมเด็ดๆ ไว้เป็นคอลเล็คชั่นแบ่งปันกัน
นี่ก็อีกภาพประทับใจ ได้เห็นวิถีชีวิตแบบ "ปากกัด ตีนถีบ" ต้องชื่นชมคนเวียดนามที่เป็นคนขยันมาก
พวกเราก็กำลังกลับไปท่าเรือ ก็มีเรือพายสวนมาจำนวนมาก แสดงว่ามีนักท่องเที่ยวมากันตลอดทั้งวัน
กลับมาถึงบริเวณท่าเรือโดยสวัสดิภาพ เต็มอิ่มด้วยความประทับใจในบรรยากาศ ภูมิทัศน์ และอากาศที่หนาวเย็น
ขอบันทึกภาพนี้ ไว้เป็นภาพประทับใจ ได้องค์ประกอบภาพที่ครบถ้วน ... แช๊ะ!
ขอเก็บภาพหมู่กันซะหน่อย ... ครั้งหนึ่งที่เรามาเยือน "นิงห์บิงห์" ด้วยกัน ... แช๊ะ!
เต็มอิ่มด้วยความสุข แต่ท้องเริ่มร้องหิวซะแล้ว เพราะใกล้เที่ยงแล้ว
เราก็เดินเท้าไปยังร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลนัก ก็ได้สัมผัสบรรยากาศอีกแบบแทนการนั่งรถ
ด้วยความที่รักในจักรยาน จึงเก็บภาพมาฝากไว้ที่นี้ เผื่อเพื่อนๆ ชาวชมรมจักรยาน TCC จะเข้ามาเยี่ยมชม
ระหว่างการเดิน มองไปทางซ้าย เห็นมุมนี้แล้วชอบมากโดยเฉพาะมีชาวเวียดนามพร้อมหมวกยืนอยู่ ขอบันทึกภาพนี้ที่รู้สึกชอบมากที่ได้มองภาพนี้ทุกครั้ง แล้วทำให้นึกถึง "เมืองนิงห์บิงห์" แห่งนี้
มื้อนี้เราทานอาหารเวียดนาม และผมประทับใจจานนี้ แม้ว่าหลายๆ คนจะไม่ยอมรับประทาน เพราะมันคือ "เนื้อแพะ" และอร่อยมาก ไม่เหม็นสาบ ห่อด้วยแผ่นแป้งบางกรอบราวกับกระดาษไข ซึ่งไม่ต้องแช่น้ำเหมือนแหนมเนืองบ้านเรา
ใครชอบทานผัก ต้องบอกว่า ต้องชอบอาหารเวียดนามอย่างแน่นอน ไม่ต้องแปลกใจที่แทบจะไม่เห็นคนเวียดนามที่รูปร่างอ้วน ... ขออภัยที่หยาบคาย ต้องบอกว่า แทบไม่เห็นคนที่รูปร่างสมบูรณ์เกินปกติเลยในประเทศนี้ ซึ่งในตอนต่อไปจะนั่งรถกลับไปเที่ยวในเมืองฮานอย ระหว่างทางจะเห็นสาวเวียดนามบนรถมอเตอร์ไซด์ แล้วมาคอนเฟิร์มกันว่า สาวเวียดนามรูปร่างดีขนาดไหน ... มาติดตามตอนต่อไปเร็วๆ นี้
กล้อง : Canon PowerShot A620